'บิ๊กตู่' ถกคกก.ยุทธศาสตร์ชาติ ย้ำต้องมีแผนหลักทั้งฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติ ไม่ให้เดินคนละทาง


เพิ่มเพื่อน    

16 ก.ย.64 - ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงต้นการประชุมว่า วันนี้เป็นการหารือร่วมกันในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติของเรา ทำตามวิสัยทัศน์จะทำอย่างไรให้ประเทศชาตินั้นมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทั้งนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีแผนหลักในการดำเนินการ ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เช่นนั้นเราจะเดินไปคนละทิศคนละทางไปข้างหน้า ทำให้หลายอย่างนั้นเชื่องช้า

ต่อมาภายหลังการประชุม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีย้ำว่าตามแผนยุทธศาสตร์ชาติประเทศไทยจำเป็นต้องมีแผนหลักที่จะเดินไปข้างหน้าในระยะเวลา 5 ปี อย่างสอดประสานต่อเนื่อง ด้วยการบูรณาการทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ที่ต้องการ คือ การเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ลดความเหลื่อมล้ำ ลดความยากจน ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ด้วยการพลิกโฉมประเทศไทย ภายในระยะเวลาที่รัฐบาลยังทำหน้าที่อยู่และส่งมอบความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต่อไปในอนาคต

โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังย้ำความสำคัญของการจัดทำโครงการสำคัญที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการในระดับพื้นที่ ภายใต้การบูรณาการทั้งจากส่วนกลางและหน่วยงานระดับพื้นที่จะเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ รวมทั้งต้องมีการรายงานผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานของหน่วยงานที่มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรมตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนและลดความไม่โปร่งใส นำไปสู่ความคุ้มค่าของการใช้เงินงบประมาณต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการสำคัญประจำปี 2566 ที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (ปี 2566 – ปี 2570) รวมจำนวน 406 ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 รวมทั้งกระบวนการงบประมาณที่ต้องรองรับการดำเนินการโครงการสำคัญประจำปีงบประมาณ 2566 เพื่อนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการจัดทำโครงการสำคัญของประเทศตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติในห้วงปี 2566 – 2570 ได้อย่างเป็นรูปธรรมบนฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ต่อไป  

นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำโดยได้มีการกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามแนวทางอย่างเคร่งครัด และบูรณาการเพื่อให้กลุ่มคนจนเป้าหมายและกลุ่มคนเปราะบางได้รับความช่วยเหลือและพัฒนาที่เหมาะสมต่อไป 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"