'ปาเกียว'ยื่นใบสมัครชิงประธานาธิบดีฟิลิปปินส์


เพิ่มเพื่อน    

ฤดูเลือกตั้งของฟิลิปปินส์เริ่มต้นขึ้นแล้ว "แมนนี ปาเกียว" ซึ่งเพิ่งประกาศแขวนนวม เป็นคนแรกที่ยื่นใบสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคมปีหน้า เจ้าตัวประกาศไม่หวั่นไหวกับโพลที่ชี้ว่ามีคะแนนนิยมอยู่อันดับ 4

แมนนี ปาเกียว ชูใบสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ 2565 ที่โซฟิเทลฮาร์เบอร์การ์เดนเต็นท์ ในเขตมหานครมะนิลา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 (Getty Images)

    ฟิลิปปินส์เริ่มเปิดรับใบสมัครสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดี, รองประธานาธิบดี และสมาชิกสภาในระดับต่างๆ มากกว่า 18,000 ตำแหน่ง อย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม โดยผู้สมัครมีเวลา 1 สัปดาห์ในการยื่นใบสมัครเพื่อเดินหน้าหาเสียงตลอดระยะ 7 เดือนข้างหน้า ก่อนถึงวันเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2565 ปีนี้การระบาดของโควิด-19 ทำให้บรรยากาศไม่คึกคักเหมือนที่แล้วมา

    รอยเตอร์รายงานว่า แมนนี ปาเกียว อดีตนักมวยเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก 8 รุ่น เป็นคนแรกที่มายื่นใบสมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดี เขาเดินทางมาพร้อมกับภรรยาและลิโต อาเตียนซา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่สมัครพร้อมกับเขาในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ปาเกียวกล่าวกับสื่อเพียงไม่กี่คำเกี่ยวกับแผนนโยบายของเขาหากได้รับเลือกตั้ง

    "แผนสำคัญอันดับแรกของผมคือการแก้ปัญหาโรคระบาด เพื่อให้เราสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้" ปาเกียวกล่าว ระหว่างทางที่เขามายังอาคารรับสมัคร มีผู้สนับสนุนหลายสิบคนรอให้การต้อนรับเขาอยู่ข้างทางพร้อมกับชูป้ายข้อความว่า "สู้ๆ แพ็กแมน"

    ปาเกียวกล่าวด้วยว่า เขาไม่รู้สึกหวั่นไหวกับผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่บอกว่าเขามีคะแนนนิยมอยู่ในอันดับ 4 สำหรับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยกล่าวว่าโพลเป็นเพียงแค่ตัวเลข และ "ยังไม่ได้ยินเสียงของคนยากคนจน"

    เมื่อเดือนที่ผ่านมา เขาเพิ่งประกาศอำลาอาชีพนักมวยเพื่อเตรียมลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ก่อนหน้านี้ปาเกียวเคยชนะการเลือกตั้งได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 สมัย และปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา

    กระบวนการรับสมัครเลือกตั้งจะเปิดลงทะเบียนถึงวันที่ 8 ตุลาคม แต่ผู้สมัครสามารถถอนตัวหรือเปลี่ยนตัวได้จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งเปิดโอกาสสำหรับผู้ที่เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย เช่นที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต เคยตัดสินใจลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างปุบปับเมื่อปี 2559 แล้วสุดท้ายเขาสามารถชนะคู่แข่งได้อย่างถล่มทลาย

    ปีนี้ ดูเตร์เตในวัย 76 ปี ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์ห้ามลงสมัครในตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 แสดงความประสงค์ว่าเขาจะลงเลือกตั้งในเก้าอี้รองประธานาธิบดี ซึ่งกฎหมายเลือกตั้งของฟิลิปปินส์นั้นแยกกันลงคะแนนจากตำแหน่งประธานาธิบดี

    นอกจากปาเกียว ผู้ที่ประกาศตัวแล้วว่าจะลงชิงเก้าอี้ผู้นำฟิลิปปินส์ด้วย ได้แก่ ฟรันซิสโก "อิสโก โมเรโน" โดมาโกโซ อดีตนักแสดงที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา และ ส.ว.ปันฟิโล ลากซอน อดีตผู้บัญชาการตำรวจ คาดว่าทั้งคู่จะยื่นใบสมัครในไม่กี่วันข้างหน้า

    ทว่า ความสนใจทั้งหมดในตำแหน่งนี้กำลังพุ่งเป้าไปที่ ซารา ดูเตร์เต-คาร์ปิโอ บุตรีของประธานาธิบดีดูเตร์เต ถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธว่าไม่คิดลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ ดูเตร์เต-คาร์ปิโอวัย 43 ปีเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา ซึ่งเป็นเก้าอี้เดิมของดูเตร์เตก่อนที่เขาจะชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี จนถึงบัดนี้เธอเป็นตัวเต็งที่มีคะแนนนิยมมากที่สุดในตำแหน่งประธานาธิบดีตามผลการสำรวจในปีนี้

    นักวิเคราะห์กล่าวกันว่า สำคัญอย่างยิ่งที่ผู้จะมาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ควรเป็นผู้ที่ภักดีต่อดูเตร์เต เพื่อปกป้องเขาจากการถูกดำเนินคดีในประเทศ หรือในศาลอาญาระหว่างประเทศ เกี่ยวกับสงครามยาเสพติดที่มีคนเสียชีวิตหลายพันคนนับแต่ปี 2559.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"