ครม.ไฟเขียวไทยออยล์ต่อสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ 30 ปี ที่จ.ชลบุรี เพื่อเตรียมขยายการลงทุนของโรงกลั่นไทยออยล์เพิ่มเติม ค่าเช่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท หลังหมดสัญญาในวันที่10ก.ย.ปี65

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอในการต่อสัญญาเช่าที่ราชพัสดุเป็นระยะเวลา 30 ปี ค่าเช่ารวม 12,000 ล้านบาท ให้แก่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) บนเนื้อที่ 1,499 ไร่ ที่ ต.บางพระ และ ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อเตรียมขยายการลงทุนของโรงกลั่นไทยออยล์เพิ่มเติม คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท

สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเพื่อเตรียมพร้อมก่อนหมดสัญญาเดิมในวันที่ 10 กันยายน  2565  ประเมินค่าเช่าตลอดอายุสัญญา จำนวน  12,000 ล้านบาท ในส่วนการชำระผลประโยชน์รวมตลอดสัญญา แบ่งเป็นค่าเช่าล่วงหน้า 30%  ของผลประโยชน์ตอบแทนรวมตลอดอายุสัญญา 5%  ในวันที่ทำสัญญาร่วมลงทุน ปี 2561 ในส่วนที่เหลือเป็นค่าเช่ารายปีตลอดอายุสัญญา 30 ปี โดยอัตราส่วนลด 5% ต่อปีและสามารถปรับเพิ่มค่าเช่า 10% ทุก 3 ปี ซึ่งสิ่งที่บริษัท ไทยออยล์เสนอมาถือว่ามีความเหมาะสม

อย่างไรก็ตามมีข้อแม้ว่าทางกรมธนารักษ์มีสิทธิ์ปรับเพิ่มค่าเช่าหรือผลประโยชน์ตอบแทนได้หากคู่สัญญามีการขยายปรับปรุงทรัพย์สินที่ให้เช่าหรือดำเนินการในธุรกิจอื้นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการโรงกลั่นน้ำมันตามที่ได้แจ้งไว้ เรื่องนี้ ครม.ได้เห็นชอบซึ่งได้ให้อัยการสูงสุดตรวจดูในร่างสัญญา

“พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายยกรัฐมนตรีได้กำชับเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมเกิดความมั่นใจว่าในทุกโครงการที่มีการร่วมลงทุนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รัฐบาลได้คำนวณทุกมิติเพื่อไม่ให้ใครต่อว่าเราให้การส่งเสริมและสนับสนุน หรือมีการฮั่วกัน จะไม่เป็นอย่างนั้นทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย”พล.ท.สรรเสริญ กล่าว