สัปปะรดมีดีกว่าที่คิด ตำรายาไทยระบุสรรพคุณ กรมแพทย์แผนไทยเชียร์บริโภคช่วยเกษตรกร


เพิ่มเพื่อน    

 

28มิ.ย.61- อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ เชียร์กินสับปะรด เผยตำรายาไทย และวิจัยสมัยใหม่ ยกนิ้วให้ในสรรพคุณทางยา  ช่วยขับปัสสาวะ ลดบวม บรรเทาอาการท้องผูก แกนมีเอ็นไซม์บรอมีเลิน ช่วยย่อย บรรเทาอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อได้อย่างดี


นพ. เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงปัญหาผลผลิตสัปปะรดล้นตลาดและราคาตกต่ำในช่วงนี้ว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก  ขอร่วมรณรงค์ส่งเสริมการนำสับปะรดมาใช้ประโยชน์  หลายท่านอาจไม่ทราบถึงสรรพคุณของสับปะรด ในเชิงสุขภาพซึ่งมีกล่าวและบันทึกไว้ในตำรายาไทย รวมถึงผลจากการศึกษาวิจัยและพัฒนา พบว่าสับปะรดมีสรรพคุณทางยา คือ มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ลดสาเหตุการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลดบวม  ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ส่วนแกนสับปะรดที่คนส่วนใหญ่มักจะไม่กิน มีเอนไซม์บรอมีเลน (BROMELIAN)  ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อได้อย่างดี 


"จึงอยากเชิญพี่น้องชาวไทย หันมาบริโภคสับปะรด ซึ่งเป็นผลไม้ตามฤดูกาล  มีประโยชน์ต่อร่างกาย สับปะรด 100 กรัม ให้พลังงาน 50 กิโลแคลลอรี่ การรับประทานสับปะรด ควรหั่นเนื้อและแกนกลางด้วย จะได้รับประโยชน์สูงสุด ข้อควรระวังในการรับประทานสับปะรด 1. ไม่ควรรับประทานขณะท้องว่าง  เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร 2. ไม่ควรรับประทานสับปะรดดิบ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง ข้อแนะนำ เพื่อป้องกันอาการแสบลิ้นจากการรับประทานสับปะรด หลังจากปอกเสร็จ  ควรนำสับปะรดไปแช่ในน้ำเกลืออ่อน 2-3 นาที เพื่อลดการเกิดปฏิกิริยากับอวัยวะในปาก "
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"