มือโพสต์จี้ปลด'ศรีวราห์'โร่ขอโทษ แจงเข้าใจผิดเพราะห่วง13ชีวิต


เพิ่มเพื่อน    

2 ก.ค.61 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  นายวิบูลย์ธร กมลนฤเมธศ์ ที่โพสต์หนังสือผ่านเฟชบุ๊ค ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ให้ปลด พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) โดยให้ประชาชนลงชื่อสนับสนุนต่อท้าย ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงมีคนกดไลค์และแสดงความคิดเห็นหลายแสนวิว และได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกหลังทราบข้อเท็จจริงไม่เป็นไปตามคลิปที่ตัดต่อมา เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอโทษเกิดจากความเข้าใจผิด

ในขณะเดียวกันก่อนการทำความเข้าใจกัน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (รอง  ผบช.ส.) คณะทำงาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ชี้แจงการลงพื้นที่โดยเฉพาะมีการโพสต์ข้อความ “ไปทำไม” ว่า สาเหตุที่ไปเพราะได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยหน้างานรับผิดชอบความมั่นคงและกิจการพิเศษ กรณีเด็กพัดลงเข้าไปในถ้ำเป็นกิจการพิเศษเป็นหน้าที่โดยตรง เมื่อได้รับคำสั่งได้ขอนุมัติกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.5 ตชด. ตำรวจน้ำ ป่าไม้ หน่วยแพทย์ รพ.ตำรวจ กองบินตำรวจ สนับสนุนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จากนั้นได้ลงพื้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำงานกันเป็นทีม รอง ผบ.ตร.สลับสับเปลี่ยนกันทำงานเพื่อกำกับดูแลการทำงาน เมื่อไปถึงพบว่าแผนยังไม่เรียบร้อยเชื่อมโยงไปยังงบประมาณที่จะขอ จึงสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 5 เขียนแผนให้ถูกต้องและมีการลงประจำวันคนหายให้เรียบร้อยเพื่อสืบสวนสอบสวนติดตามตัวบุคคลตามกฎหมานระเบียบที่เกี่ยวข้อง หลังสั่งการได้ส่งมอบภารกิจและกำลังพลให้ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย รับไปบริหารเหตุการณ์ และขอไปตรวจตรากำลังพล และสั่งการให้นำโดรนขึ้นไปบินสำรวจ จึงไปตรวจผู้ใต้บังคับบัญชาถึงขั้นตอนระเบียบต่างๆถูกต้องไหม มีใบอนุญาตถูกต้องไหม

ที่ถามเรื่องใบอนุญาตโดรน เพราะเมื่อวานก็มีโดรนของสื่อนำไปบินทำให้เกิดความสับสนจนต้องมีการจัดระเบียบโดรน โดยให้กองทัพอากาศเป็นผู้รับผิดชอบ จึงเป็นสาเหตุที่ต้องควบคุมเรื่องโดรน การซักถามดังกล่าว จึงเป็นการที่ต้องทำให้ถูกต้องเรียบร้อยตามกฎหมาย ถ้าโดรนไม่ได้รับอนุญาตมีผลต่อเรื่องงบประมาณเบิกไม่ได้

 อีกประเด็นเรื่องการเจาะสำรวจถ้ำ ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บริเวณที่จะเจาะมีทั้งตำรวจน้ำและ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรวง ผบช.สำนักยุทธศาสตร์ เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์ จึงอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติ แนะนำการเจาะควรจะมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ได้ไปขัดขวางการทำงานในทันทีทันใด งานด้านธุรการ ด้านเอกสารทำควบคู่กันไป ขณะนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงกำชับไปที่ พล.ต.ท.ไกรบุญ ให้เป็นผู้ประสานงานให้ถูกต้อง ที่ต้องเข้มงวดเรื่องระเบียบไม่รู้ว่าเจาะตรงไหน เจาะผิดเจาะถูก อาจทำให้หินในถ้ำถล่มอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติงาน ไม่สามารถคาดการได้ เป็นการเตรียมความพร้อมมองไกล คิดเยอะๆให้ครอบคลุมให้สมบูรณ์แบบ

แต่เหตุการณ์นั้นมีผู้ไม่หวังดีตัดคลิปสั้นๆแล้วส่งเวียนไปในกลุ่มพร้อมคอมเมนต์บางอย่างที่ประชาชนได้ยินเกิดความสับสนไม่เข้าใจทำไมต้องเข้มงวด เช่นเดียวกันกับนายวิบูรณ์ธร รับข้อมูลมาแล้วนำไปโพสต์มียอดเข้ามากดไลน์หลายแสนไลค์ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งคลิปฉบับเต็มไปให้นายวิบูรณ์ธร ดูถึงเข้าใจและได้ลบโพสต์ดังกล่าว และได้เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ แต่อย่างไรก็ตามได้มีผู้ไม่หวังดีแค็ปหน้าจอเฟซบุ๊คของนายวิบูรณ์ธร ไปส่งต่อ โดยใช้ชื่อ “มหานาม” แต่จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของโพสต์ดังกล่าวไม่มีตัวตน แต่มีการนำไปลงเว็ปไซค์เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลมีสีบางสีอย่างต่อเนื่องในอดีตที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีเว็ปไซค์บางเว็ปไซค์ไปลงข้อความ “เด็กต้องติดคุก” เมื่อตรวจสอบแล้วเป็นเว็ปไซค์ปลอม ข่าวปลอมส่งต่อกันไปเรื่อยๆ เป็นการสร้างความสับสนให้พี่น้องประชาชน

นายวิบูลย์ธร กล่าวว่าการโพสต์ข้อความครั้งนี้เนื่องจากได้รับคลิปมาจำนวน 2 คลิปคือคลิปการบินโดรนและเจาะถ้ำมีความยาวประมาณ 1 นาที ขณะนั้นอารมณ์เป็นห่วงเด็กทั้ง 13 คน ที่ติดอยู่ว่าจะทำอย่างไรให้ได้ออกมาเร็วที่สุด เมื่อเห็นคลิปทำไมรองศรีวราห์ จึงต้องมาสั่งงานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จึงพิมพ์หนังสือโพสต์ไปหานายกฯ แต่เมื่อตำรวจส่งคลิปฉบับเต็มจึงเกิดความเข้าใจและลบโพสต์ดังกล่าว ลบเพื่อความถูกต้องไม่ได้เอาใจใคร และคาดไม่ถึงจะมีผู้กดไลน์เยอะขนาดนั้น จึงต้องขออภัย พล.ต.อ.ศรีวราห์     

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวถึงเพจเฟซบุ๊กที่ใส่ร้ายว่า อยู่ระหว่างพิจารณาว่าเจตนาอย่างไร ส่วนนายวิบูลย์ธร ไม่ได้เอาเรื่องหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด เพราะเขาก็ถูกต้มมาเช่นเดียวกัน แต่ถ้าเจตนาพาดพิงการเมืองจากคดีต่างๆที่ผมเคยทำไม่ว่าจะเป็นคดีการค้ามนุษย์ ปราบปรามผู้มีอิทธิพลต้องป้องกันสิทธิ์ตัวเอง เพจข่างที่ระบุว่า “เตรียมจับเด็กติดคุก” ได้ร้องทุกข์ไปแล้วต้นตอมาจากประเทศเขมร เป็นกลุ่มนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋และพวกที่ออกมาเรียกร้องหน้ายูเอ็น พวกที่โดนยึดตึก 100  ปี เป็นใครไปหาดูเอาเอง เป็นพวกอวตาร

 พร้อมกันนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังกล่าวถึงคลิปที่อยู่ในถ้ำขณะขุดเจาะเป็นการแอบถ่าย ผมไม้ได้เรียกสื่อมาถ่าย ในถ้ำไม่มีทางที่นักข่าวจะเข้าไปได้ มีแต่ข้าราชการและตำรวจ และอีก 2 คนเจ้าหน้าที่ของกรมบาดาล อย่างที่พูดถ้าเจตจนาไม่หวังดีก็ต้องป้องกันสิทธิ์ตัวเอง ผมมีหน้าที่ไปทำงานไม่ได้ไปค้าความแต่อย่ามารังแกกัน อย่ามาแกล้งกัน  อย่าหยามกันเกินไปถ้าบังคับให้เราต้องบังคับบับใช้กฎหมายเราก็ไม่มีถอย ถ้าทำให้ประเทศชาติเสียหายยอมไม่ได้ ยืนหยัดทำงานต่อไปไม่ถ้อถอย และพรุ้งนี้ ( 3 ก.ค.) เตรียมจะลงพื้นที่อีกครั้ง ยืนยันการทำงานไม่ได้ไปขัดขวางใคร ทำเพื่อจิตวิญญานช่วยเหลือเด็ก 13 คน . 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"