5 ก.ค. 61 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายเกรียง วิศิษฎ์สรอรรถ อดีตทนายความของนายไพรจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือปอ ประตูน้ำ เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.ต.สมบัติ ศุภชีวะ, พล.ต.ต.สุพจน์ เกษมชัยนันท์, พ.ต.ท.อาทร วิเศษสาธร และ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ นำสืบ หรือแสดงพยานหลักฐานนำสืบอันเป็นเท็จ กรณีที่มีการฟ้องร้องคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรุกบ้านปอ ประตูน้ำ เมื่อปี 2549 ที่เจ้าของบ้านฟ้องร้องนายตำรวจทั้ง 4 นายว่า เป็นการเข้าตรวจค้นโดยมิชอบ ไม่มีการแสดงหมายค้น ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย กระทั่งต่อมามีการฟ้องร้องในชั้นศาล และศาลฎีกาพิพากษาสั่งยกฟ้อง จากนั้นในปี 2558 จำเลยทั้งหมดได้ยื่นฟ้องกลับ แต่สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องจำเลยบางส่วน ซึ่งในจำนวนนี้มีปอ ประตูน้ำ และทนายความ รวม 6 คน

สำหรับคำฟ้องโจทก์สรุปได้ว่า  โจทก์เคยเป็นทนายความที่ได้รับแต่งตั้งจากปอ ประตูน้ำ ให้ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กับพวกลูกน้อง เป็นจำเลยที่ 1-4 ต่อศาลอาญา เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.464/2549 ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตรวจค้นเวลากลางคืนโดยไม่มีหมายค้นแสดง บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งขณะนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ จำเลยที่ 1 เป็นจเรตำรวจและเป็นประธานอนุกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพลแหล่งอบายมุข จำเลยที่ 2-4 เป็นตำรวจชุดปฏิบัติการ ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ จำเลยที่ 2-4  แต่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้อง

ต่อมาเมื่อวันที่ 17 พ.ย.2558 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์กับพวกจำเลยที่ 1-4 แต่งตั้งนายอนันต์ชัย จำเลยที่ 5 เป็นทนายความฟ้องร้องต่อศาลว่า โจทก์กับทนายของปอ ประตูน้ำ ที่มีทั้งหมด 6 คน ในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ได้จ้างวานยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีการอื่นใดให้ปอ ประตูน้ำฟ้องเท็จ เรียกพยานบุคคลมาเบิกความเท็จและนำสืบพยานหลักฐานเท็จต่อศาล ในคดีที่โจทก์กับพวกเป็นทนายความฟ้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์กับลูกน้อง ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ ศาลอาญาได้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องว่าโจทก์กับทนายของปอ ประตูน้ำ 6 คน ไม่ได้มีความผิด ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ไม่อุทธรณ์ คดีจึงถึงที่สุด การกระทำดังกล่าวของจำเลยทั้ง 5 คน อาจมีเจตนากลั่นแกล้งฟ้องเท็จกล่าวหาโจทก์ในฐานะทนายความ ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง เหตุเกิดที่ศาลอาญา แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.และ สำนักงานของนายอนันต์ชัย จำเลยที่ 5 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.เกี่ยวพันกัน

ขณะที่นายเกรียง เปิดเผยว่า เหตุที่ต้องฟ้องกลับจำเลยทั้ง 5 คนดังกล่าว เนื่องจากระหว่างการไต่สวนคดีในชั้นศาล ไม่เคยมีการนำพยานหลักฐานเท็จ หรือสืบพยานเท็จตามที่อีกฝ่ายฟ้องร้องดำเนินคดี จึงอยากพิสูจน์ความจริงว่าใครเป็นฝ่ายฟ้องเท็จต่อศาล และการฟ้องร้องครั้งนี้ไม่ได้ต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ต้องการกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูล ที่ประกอบอาชีพทนายความมานานเกือบ 50 ปี  ส่วนจะมีการประนีประนอมหรือไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายหรือไม่นั้น เป็นกระบวนการในชั้นศาลต่อไป

ต่อมาศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2001/2561 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 24 ก.ย.นี้ เวลา 13.30 น.