กลับลำ360 องศา!สพฐ.ยันเงินให้ครอบครัว"หมูป่า"เพื่อช่วยค้นหา ไม่ใฃ่ทุนหรือรางวัล


เพิ่มเพื่อน    

 

สพฐ.กลับลำ !เงินที่ให้ครอบครัว"หมูป่า" มอบให้ไปช่วยค้นหา และให้ครอบครัวที่รอลูกหน้าถ้ำ ไม่ใช่ให้ทุนการศึกษา  รวมทั้งสั่งยกเลิกขอบริจาคแล้ว คุยฟุ้งมาตรฐานการศึกษาไทยดี เด็กคุยโต้ตอบฝรั่งได้ 


5ก.ค.61-นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่สังคมมีความพิพากษ์วิจารณ์กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวและช่วยเหลือด้านการศึกษาให้แก่กลุ่มเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่นั้น ไม่เหมาะสม เพราะจะเป็นการสร้างให้เด็กรู้สึกว่าเป็นฮีโร่ ทั้งที่เป็นแค่ผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ ว่าในเรื่องนี้ทาง สพฐ.เองก็ไม่ได้รู้สึกเป็นฮีโร่ แต่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา เชียงราย เขต 3 ถือว่าเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่เข้าไปดูสถานการณ์บริเวณวนอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ซึ่งก็ได้มีการระดมความช่วยเหลือในเรื่องอาหารและน้ำดื่ม ช่วยเหลือเนื่องจากเด็กที่ติดอยู่ในถ้ำเป็นเด็กในสังกัดของ สพฐ. เมื่อเห็นเช่นนั้น สพฐ.จึงร่วมบริจาคเงิน โดยวัตถุประสงค์ คือ การใช้เพื่อช่วยเหลือเรื่องการค้นหา ดูแลเด็กและครอบครัวที่นั่งรออยู่บริเวณหน้าถ้ำ และจากที่ตนได้รับรายงานเรื่องการใช้เงินบริจาคพบว่า การใช้เงินเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เช่น ค่ารองเท้าบูท ค่ายากันยุง เป็นต้น 
สำหรับกรณีที่มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 36 เชียงราย ออกหนังสือ ขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน นั้น ตนได้สั่งให้มีการยกเลิกแล้ว และให้ส่วนของเงินที่มีการบริจาคเข้ามาก็ให้ดำเนินการส่งคืน เนื่องจากขณะนี้ตามบทบาทไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินในส่วนนี้แล้ว รวมถึงได้แจ้งกับสำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) ทั่วประเทศ ให้งดรับบริจาคในกรณีที่เกี่ยวข้องกับในเรื่องนี้ และเท่าที่ทราบขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ

นายบุญรักษ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการถอดบทเรียนคงจะต้องรออีกสักระยะหนึ่งก่อน และจะมาศึกษาว่าเด็กพบกับอะไรมาบ้าง มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรทั้งในรูปแบบบุคคลและทีม ทั้งนี้  ในส่วนของทักษะภาษาอังกฤษของเด็กที่ติดอยู่ในถ้ำนั้น ถือเป็นความภาคภูมิใจของพวกเรา และในหลายประเทศก็ให้ความชื่นชม
"ผมคิดว่าพื้นฐานการจัดการศึกษาของเรามันถึงขีดที่พัฒนาคนได้เป็นที่ยอมรับ เพียงแต่ว่าความถนัดและความสนใจของเด็กที่เกิดขึ้นมีไม่เท่ากัน ซึ่งเรื่องนี้จะนำไปสู่การต่อยอดทักษะของเด็กเหล่านั้นเอง ดังนั้นผมคงจะต้องไปเรียนรู้โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชายแดน ทำให้เด็กมีโอกาสได้ใช้ภาษาถึง 4 ภาษา ครูของโรงเรียนก็ถือเป็นครูรุ่นใหม่ และผมก็จะนำครูประจำวิชาภาษาอังกฤษเข้ามาอบรมเพิ่มเติมในโครงการอบรมครูภาษาอังกฤษ (Boot camp) เพราะโรงเรียนนี้เหมาะที่จะได้รับการส่งเสริมเรื่องภาษา ทั้งติดชายแดนและมีนักท่องเที่ยว ซึ่งหากมุ่งพัฒนาในเรื่องนี้จะทำให้เกิดการพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม”เลขาฯ กพฐ.กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"