ว่าด้วย...การออกจากวัตถุนิยม (8)


เพิ่มเพื่อน    

(1)

        ถึงวันอาทิตย์...ก็ได้เวลามา เทศน์ กันต่อ ว่าหลังจากอภิมหานักวิทยาศาสตร์อย่าง เซอร์วิลเลียม ครูกส์ ท่านออกมายุ หรือออกมาป่าวประกาศให้บรรดาผู้ที่อยู่ในแวดวงวิทยาศาสตร์ พยายามหาทางนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการตอบคำถาม ให้คำอธิบาย ต่อเรื่องราวทางจิตและวิญญาณ ชนิดถือเป็น ภาระหน้าที่ เอาเลยก็ว่าได้ ต่อจากนั้นมันจะเป็นไง-มาไง กันต่อไป...

(2)

        จากแรงยุ แรงเชียร์ เหล่านี้...ก็ดูจะมีผลทำให้นักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อย เริ่มหันมาในแนวนี้ แทนที่จะมั่วอยู่กับเรื่อง วัตถุ หรือ สสาร เพียงลูกเดียวเท่านั้น แม้กระทั่งนักวิทยาศาสตร์อย่าง จอห์น วิลเลียม สตรัทท์ (John William Strutt) ผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นถึง ท่านบารอนที่ 3 แห่งไรย์เลห์ เป็นนักฟิสิกส์ผู้ค้นพบธาตุอาร์กอน จนได้รับรางวัลโนเบล ไพรซ์ เมื่อปี ค.ศ.1904 นายแพทย์ นักฟิสิกส์และนักปรัชญาชื่อดัง อย่าง วิลเลียม เจมส์ (William James) นักฟิสิกส์ระดับท่านเซอร์ อย่าง โอลิเวอร์ โจเซฟ ลอดจ์ (Oliver Joseph Lodge) จนแม้แต่นักชีววิทยา มานุษยวิทยาและนักสำรวจอย่าง อัลเฟรด รัสเซล วอลเลซ (Alfred Russel Wallace) ผู้เคยเป็นตัวตั้งตัวตี สนับสนุน ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน แบบสุดฤทธิ์ สุดหลอด ถึงขั้นไปหอบหลักฐานสิ่งมีชีวิตในสปีชีส์ต่างๆ จากป่าอะเมซอน จากหมู่เกาะในอินโดนีเซีย มาเลเซีย มารองรับทฤษฎีที่ว่านี้แบบเน้นๆ เนื้อๆ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันมาตั้ง ข้อสงสัย ทฤษฎีดาร์วิน ด้วยเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องจิตและวิญญาณนี่เอง...

(3)

        พูดง่ายๆ ว่า...ด้วยเหตุที่นาย อัลเฟรด วอลเลซ แกยังไม่สามารถนำเอา ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ ที่เชื่อๆ กันว่ากระบวนการวิวัฒนาการทั้งหลาย ต่างเป็นไปด้วย ความบังเอิญ โดยไม่จำเป็นต้องมีจุดมุ่งหมายใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลย มาใช้เป็นคำตอบ คำอธิบาย หรือเอามาอ้างอิงว่าเป็น ความจริงทางวิทยาศาสตร์ ไปซะทั้งหมด โดยเฉพาะในขั้นตอนแห่งการวิวัฒนาการประมาณ 3 ขั้นตอนของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย คือ 1.ขั้นตอนของการปรับเปลี่ยนสิ่งที่ไม่มีชีวิต ให้กลายเป็นสิ่งที่มีชีวิต 2.ขั้นตอนที่ทำให้เกิด จิตสำนึก ขึ้นมาในสิ่งที่มีชีวิตระดับสูง และ 3.ขั้นตอนของการพัฒนาจิตสำนึกเหล่านี้ ให้ขึ้นไปสู่ระดับซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ แตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตประเภทสัตว์เดียรัจฉานทั้งหลาย...

(4)

        และเมื่อ ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ ตามหลักทฤษฎีดาร์วิน ไม่อาจให้คำตอบ คำอธิบาย ในเรื่องนี้ได้ชัดๆ แกเลยต้องหันไปหาความเชื่อใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นไปในแนววิทยาศาสตร์ หรือไม่วิทยาศาสตร์ก็แล้วแต่จะคิด แต่แกก็ได้ตั้งข้อสมมุติฐาน หรือข้อสรุปเอาไว้ดื้อๆ ว่า อาจต้องมีบางสิ่ง บางอย่าง ที่เข้ามามีบทบาทเกี่ยวข้องกับขั้นตอนแห่งการวิวัฒนาการในช่วง 3 ขั้นตอนที่ว่า โดยให้คำจำกัดความสิ่งที่ว่านั้น เอาไว้ว่า คือ The unseen universe of Spirit ประเภทคล้ายๆ จิตแห่งจักรวาล อะไรต่อมิอะไรไปโน่นเลย จริง-ไม่จริง...ก็ไม่รู้ แต่คงไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากทฤษฎีดาร์วินนั่นแหละ คือต่างก็เป็น ความเชื่อ ที่ไม่อาจถือว่าเป็น ความจริง ไม่ว่าจะนำเอาคำว่าวิทยาศาสตร์เข้าไปต่อเติม เสริมแต่ง มากหรือน้อยเพียงใด...

(5)

        และก็ด้วยเหตุที่นักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยนับจากนั้น...ชักเริ่มหันมาพูดถึงเรื่อง จิต เรื่อง วิญญาณ หนักขึ้นเรื่อยๆ อันอาจส่งผลให้บรรดา ความเชื่อดั้งเดิมของชาวยุโรป ที่ถูกแนวคิดวัตถุนิยมปล่อย หมัดตาย ล้มคว่ำไปแล้ว อาจมีสิทธิ์ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่เมื่อไหร่ก็ย่อมได้ หรืออาจทำให้ อำนาจทางจิตวิญญาณ ที่พวกพระชาวคริสต์ เคยหยิบมาใช้เล่นงานบรรดากษัตริย์ พ่อค้า ปัญญาชน นำมาใช้ครอบงำสังคมชาวยุโรปต่อเนื่องมานานนับศตวรรษๆ สามารถหวนคืนกลับมาได้ใหม่ รวมทั้งอาจกลายเป็นตัวบ่อนทำลายบรรดาทฤษฎีทางการเมือง เศรษฐกิจ นานาชนิด ที่ล้วนอาศัยแนวคิดวัตถุนิยมเป็นพื้นฐานรองรับไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าคอมมิวนิสต์ อนาคิสต์ ฟาสซิสต์ แคปปิตอลลิสต์ หรือทุนนิยมทั้งหลาย หนีไม่พ้นต้องล่มสลาย พังทลาย ตามไปด้วยอย่างไม่พึงสงสัย บรรดาผู้ที่มีอำนาจ อิทธิพล ในแวดวงวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีสภาพไม่ต่างไปจากพวกพระ หรือผู้ที่ได้แปรสภาพตัวเองให้กลายเป็น ศาสนจักรแห่งใหม่ แทนที่ ศาสนจักรคาทอลิก ที่ถูกตัวเองโค่นล้มลงไปแล้ว จึงมิอาจอยู่นิ่งเฉยได้อีกต่อไป...

(6)

        การก่อตั้งองค์กรขึ้นมาไล่ล่า ล้างผลาญ เล่นงานใครต่อใคร ด้วยข้อหาว่า ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ จึงอุบัติขึ้นมาอย่างหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นองค์กร AAAS (American Association for Advancement of Sciences) องค์กร CSI (Committee for Skeptical Inquiry) องค์กร CODEH (Council for Democratic and Secular Humanist) องค์กร IHEU (International Humanist and Ethical Union) ฯลฯ ที่มุ่งกวาดล้างทำลายใครก็ตาม ที่คิดจะเอาเรื่อง จิต เรื่อง วิญญาณ มาสอดแทรกกับความเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งกำลังไหลไปทาง วัตถุ หรือเน้นหนักไปในทางวัตถุกันเป็นหลัก ชนิดที่ ขบวนการล่าแม่มดในทางศาสนา กับ ขบวนการล่าแม่มดในวงการวิทยาศาสตร์ แทบไม่ได้ต่างอะไรไปจากกันเอาเลยแม้แต่น้อย แต่กระนั้นก็ตาม...ก็ยังไม่อาจทำให้สิ่งที่เรียกว่า จิต และ วิญญาณ ซึ่งถูกแฝงฝังเอาไว้ในหมู่มวลมนุษย์ ตั้งแต่เริ่มลุกขึ้นมายืน 2 ขา ต้องมีอันสูญสลาย หายไปได้ง่ายๆ แม้แต่ในแวดวงวิทยาศาสตร์ด้วยกันเองก็เถอะ แต่มันจะเป็นไปเช่นไรนั้น เอาไว้อาทิตย์หน้าค่อยมาเทศน์กันต่อ...

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"