สั่งย้ายเจ้าท่าภูเก็ต!


เพิ่มเพื่อน    

  "บิ๊กตู่" ยอมรับนักท่องเที่ยวจีนหนีไทย หลังเหตุเรือล่มภูเก็ต สั่งทีมประเทศไทยในจีนแจงข้อมูลหวังฟื้นฟูความเชื่อมั่น นายกสมาคมโรงแรมภาคใต้เผยแค่ 19 โรงแรมที่ส่งข้อมูลเข้ามาถูกยกเลิกการจองห้องพักล่วงหน้าในช่วง ก.ค.-ส.ค.แล้วกว่า 7,300 ห้อง "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" ขึงขังกวาดล้างทุนข้ามชาติ-นอมินี ผู้ว่าฯ สั่งล้อมคอกก่อนออกเรือ

    พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงกรณีเรือล่มที่ จ.ภูเก็ต และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ยังคงปฏิบัติการกู้ภัยให้ภารกิจสำเร็จโดยเร็ว พร้อมทั้งได้กำชับเรื่องการสอบสวนคดีให้ดำเนินการอย่างรัดกุมและครอบคลุมในทุกประเด็น เช่น การออกเรือ มาตรฐานของเรือ การตรวจสอบของหน่วยงานรัฐ เป็นต้น โดยจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน
    เขาบอกว่า นายกฯ แสดงความเป็นห่วงเรื่องการทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวจีน เพราะเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีบางส่วนเริ่มยกเลิกการเดินทางมา จ.ภูเก็ต แล้ว โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และทีมประเทศไทยในจีนร่วมกันชี้แจงข้อมูลเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้เร็วที่สุด 
    โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า มาตรการของรัฐในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีเสียชีวิต บาดเจ็บ และการฟื้นฟูจิตใจ ที่สำคัญคือแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับการควบคุมให้เข้มงวดขึ้น โดยจะต้องตรวจเรือท่องเที่ยวเช่นเดียวกับเรือประมง ให้นำต้นแบบศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง (PI-PO) มาใช้กับเรือท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องตรวจตั้งแต่ตัวเรือ กัปตันเรือ ลูกเรือ จำนวนนักท่องเที่ยว อุปกรณ์ความปลอดภัย เสื้อชูชีพ เส้นทางการเดินเรือ โปรแกรมท่องเที่ยว ฯลฯ หากมีเรือลำใดออกจากท่าเรือโดยไม่ปฏิบัติตามที่กำหนด ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลยด้วย
    นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมภาคใต้ ยอมรับว่า เบื้องต้นขณะนี้มีโรงแรมที่ส่งข้อมูลเข้ามา 19 แห่ง ได้รับผลกระทบโดยมีการยกเลิกการจองห้องพักล่วงหน้าในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมกว่า 7,300 ห้อง จากจำนวนโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตกว่า 2,000 แห่ง มีห้องพักรวมกว่า 100,000 ห้อง ซึ่งขณะนี้กำลังรอการสรุปและส่งข้อมูลกลับมาของโรงแรมใน จ.ภูเก็ตที่เหลือ
    นายกสมาคมโรงแรมฯ กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นถือว่ามากกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก ซึ่งน่าจะเกิดจากความไม่มั่นใจต่อมาตรการความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเลของไทย และยังอยู่ในอารมณ์โกรธเคืองกับคำพูดบางคำพูดที่มีการแชร์ข้อมูลกันในเครือข่ายสังคมออนไลน์จีน จึงยังไม่อยากเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตและมีการยกเลิกการจองห้องพัก และคาดว่าผลกระทบจะกินเวลายาวไปจนถึงเดือนกันยายน
"โจ๊ก" กวาดล้างนอมินี
    ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) กล่าวว่า เตรียมกวาดล้างนายทุนต่างชาติจ้างคนไทยเป็นนอมินีทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ทั้งเรือนำเที่ยว รถบัสรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้เกิดปัญหาผู้ประกอบการไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรือ ไม่คำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย คิดแต่เรื่องกำไรเป็นหลัก หากปล่อยไว้ในอนาคตอาจจะทำให้เกิดเรือล่มซ้ำรอยอีก สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย
        พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทราบว่าอธิบดีกรมเจ้าท่าได้สั่งย้ายเจ้าท่าจังหวัดภูเก็ตออกนอกพื้นที่แล้ว พร้อมทั้งได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน คือการสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด โดยจะต้องมีการสอบสวนว่าเรือออกได้อย่างไร และเรือสร้างได้อย่างไร มีพิมพ์เขียวกี่ฉบับ เพราะปกติการสร้างต้องมีพิมพ์เขียวอย่างน้อย 60-70 ฉบับ และจากการตรวจสอบเรือคู่แฝดกับเรือฟีนิกซ์ พบมีพิมพ์เขียวเพียง 4 ฉบับ นับตั้งแต่วันนี้ ในเรื่องความปลอดภัย เราจะเริ่มต้นตรวจเรือและบังคับใช้กฎหมายทุกลำ หากลำไหนไม่สมบูรณ์ ก็ต้องทำให้สมบูรณ์ โดยเจ้าท่าต้องตรวจและเซ็นรับรองทุกลำ หากออกทะเลไปแล้วเกิดปัญหา เจ้าท่าจะต้องรับผิดชอบ รวมถึงกรณีที่มีการปล่อยให้มีการบุกรุกที่ดินของรัฐ ก็จะต้องมีการตรวจสอบเพื่อหาผู้ปล่อยปละละเลย
    พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า คดีเรือล่ม 2 ลำที่ภูเก็ต ศาลจังหวัดภูเก็ตได้อนุมัติออกหมายจับเจ้าของเรือฟีนิกซ์ และช่างเครื่องประจำเรือฟีนิกซ์แล้ว คาดว่าเจ้าของเรือฟีนิกซ์จะเข้ามอบตัวเร็วๆ นี้
    นอกจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้น หจก.ธนวัฒน์เอ็นจิเนียริ่ง ที่ต่อเรือฟีนิกซ์ ตรวจค้นที่คานเรือสิกิจที่ใช้ต่อเรือฟีนิกซ์ ทางอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ตได้แจ้งความต่อธนวัฒน์เอ็นจิเนียริ่ง ข้อหาตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการต่อและซ่อมแซมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต
    พล.ต.ต.ธีระพลกล่าวว่า การสืบสวนสอบสวนต้องการหาสาเหตุการเกิดเหตุนี้ที่ส่งผลให้เรือล่ม คนที่รับผิดชอบไม่เฉพาะกัปตันเรือ ยังมีผู้ควบคุม บริษัทที่จัดเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิต มีมาตรฐานคุณภาพเพียงพอหรือไม่ มีการซ้อมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในเรือหรือไม่ การช่วยเหลือต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงแจ้งข้อหากัปตันเรือ ผู้จัดการเรือซีเรนาต้า ส่วนเรือฟีนิกซ์เช่นกัน และถ้าพบข้อบกพร่องตรงจุดใด ต้องมีผู้รับผิดชอบ จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม 
    จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าสาเหตุเรือล่ม เกิดจากสภาพอากาศ แต่คนที่ขับเรือ บริษัทเรือมีการจัดการดำเนินการอย่างไร เชื่อว่ากัปตันเรือประมาท บริษัทที่ต้องจัดหาอุปกรณ์การสื่อสารใดๆ ที่ให้เรือหยุด ทางบริษัทต้องรับผิดชอบต่อไป" พล.ต.ต.ธีระพลกล่าว
    นอกจากนี้ จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญทางเรือร่วมตรวจสอบสภาพเรือและอุปกรณ์ภายในเรือได้ สอบสวนพยานแวดล้อมในเหตุการณ์นี้แล้ว ซึ่งการสอบสวนมีกรอบระยะเวลา ขณะนี้เรือฟีนิกซ์รับทราบว่ากู้เรือยาก จึงพยายามหาพยานหลักฐานจากแบบของเรือ บริษัทต่อเรือ ช่างที่ต่อเรือ เพื่อให้ข้อมูลให้มากที่สุด ก่อนทำการฟ้องผู้ต้องหา และจะฟ้องร้องทางแพ่งที่อาจตามมาด้วย 
ล้อมคอกขนาดใหญ่
    ด้าน พล.ร.ท.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า การกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่ติดใต้ท้องเรือฟีนิกซ์ กองทัพเรือร่วมกับทูตทหารจีนจัดชุดประดาน้ำจีน เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำทหารเรือไทย และชุดกู้ภัยจากจีน สลับกันดำน้ำลงไปที่บริเวณจุดเรือจม ใช้เครื่องมือดูดทรายออก 
    "เราใช้เครื่องมือดูดทราย พยายามเอาทรายออกมาด้วยความยากลำบากในความแน่นของทราย กระแสน้ำคลื่นใต้น้ำที่แรง ทำให้ยังไม่สำเร็จ จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพการกู้ร่าง โดยจะเพิ่มเครื่องมือเข้าไปมากขึ้น ทั้งนี้ ขึ้นกับสภาพอากาศด้วย มุ่งมั่นอยากได้ข่าวดีในวันนี้ถ้าสำเร็จ จะทำพิธีอย่างยิ่งใหญ่ ขอฝากทุกกำลังใจด้วย" พล.ร.ท.สมนึกกล่าว
    ขณะที่นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การควบคุมเรือทุกลำที่ออกให้มีจุดตรวจเรือที่เข้าและออก มีเจ้าหน้าที่ตรวจเรือ เพื่อตรวจสอบผู้ควบคุมเรือ ผู้โดยสาร กัปตันเรือ ลูกเรือ องค์ประกอบต้องครบถ้วน มีความถูกต้องก่อนให้ออกเรือ เป็นจุดเช็กพอยต์ของภูเก็ต ที่ท่าเรืออ่าวปอ ท่าเรือรัษฎา ท่าเรืออ่าวฉลอง ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ที่อ่าวปอ มีริสต์แบนด์ กล้อง CCTV ที่ท่าเรือรัษฎามีกล้องบันทึกทั้งหมด สามารถดึงข้อมูลได้รวดเร็วกับฐานข้อมูลนักท่องเที่ยวมีศูนย์ควบคุมการสัญจรทางทะเลเป็นศูนย์หลัก 
    ผวจ.ภูเก็ตกล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต ในนามกลุ่มจังหวัดอันดามัน จะขอตั้งเป็นศูนย์ควบคุมทางทะเลที่เกาะยาวจังหวัดพังงา ศูนย์แห่งนี้จะดูถึงกระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง ได้กำหนดแผนไว้แล้ว งบประมาณ 500-600ล้านบาท อยู่ระหว่างเสนอขอรัฐบาล
    นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาร่วมกันให้ข้อมูลข้อเท็จจริงด้านการท่องเที่ยว กรณีเรือล่ม นักท่องเที่ยวจีนยกเลิกการจองห้องพัก โรงแรม ทัวร์ต่างๆ เพื่อต้องการทราบข้อมูลจริง แก้ปัญหานี้กันต่อไป
    ที่ศูนย์อำนวยการเหตุการณ์เรือล่มจังหวัดภูเก็ต   นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า การจัดการศพจำนวน 46 ราย พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแล้วครบทั้งหมด สามารถรู้ว่าใครเป็นใคร มียืนยันจากดีเอ็นเอจำนวน 7 ราย ที่เหลือตรวจพิสูจน์จากลายนิ้วมือ ฟัน ตั้งศพไว้ที่วัดโฆษิตวิหาร จำนวน 45 ศพ ส่วนศพที่ 46 ยังเก็บไว้ที่โรงพยาบาล รอการเผา การบริการจัดการศพ ได้บริหารแล้ว 38 ศพ ในจำนวนนี้นำกลับประเทศ 7 ราย เผา 31 ราย วันนี้เผาอีก 7 ราย และยังมีรายที่รอเอกสาร ถ้าเอกสารครบถ้วนมีการเผาเพิ่มอีก 1 ราย 
ประกันจ่าย
    ด้านตัวแทน คปภ.กล่าวว่า การจ่ายเงินเยียวยาแก่ ผู้ประสบภัย มีการดำเนินการให้เร็วที่สุด กรณีนี้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย มาติดต่อที่ศูนย์เยียวยาที่ รพ.วชิระแล้ว 36 ราย ของบริษัทประกันภัยรวม 2 บริษัท ได้แก่ บ.กรุงเทพประกันภัย จำกัด และ บ.ไทยศรีประกันภัย จำกัด จ่ายให้แล้ว 28 ราย โดยกรุงเทพประกันภัย 28 ล้านบาท, บ.ไทยศรีประกันภัย 2 ล้าน 8 แสนบาท
    มีผู้ประสบภัยที่ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามา 11  ราย ในจำนวนนี้ตรวจสอบพบว่าออกนอกประเทศแล้ว 8 ราย ติดใต้เรือ 1 ราย มีการติดต่อเข้ามารอยื่นเอกสารอีก 1 ราย ไม่ได้ติดต่อเลย 1 ราย ทาง คปภ.ประสานกงสุลจีน  ที่ จ.สงขลา ได้ติดต่อกับทั้ง 11 รายแล้ว นัดกันวันที่ 23-24 ก.ค.นี้ ให้มาติดต่อยื่นเอกสารที่ รพ.วชิระภูเก็ตอีกครั้ง เพื่อจ่ายค่าสินไหมที่เหลือทั้งหมดทันที คปภ.ขอยืนยันจะเร่งรัดให้ บ.ประกันภัยจ่ายค่าสินไหมโดยเร็วที่สุด 
    ขณะที่กรมเจ้าท่ารายงานความคืบหน้าสถานการณ์เรือฟีนิกซ์ล่ม โดยล่าสุดการกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตรายสุดท้ายที่ติดใต้ท้องเรือฟีนิกซ์ ชุดปฏิบัติการยังคงดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเดิม โดยได้เริ่มปฏิบัติการแล้วเมื่อเวลา 09.00 น. 
    ขณะที่จังหวัดภูเก็ตประกาศปรับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง เป็นศูนย์ปฏิบัติการค้นหาส่วนหน้า มอบให้อยู่ภายใต้การกำกับของทัพเรือภาค 3 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับญาติผู้ประสบภัยว่าประเทศไทยจะยังคงปฏิบัติการจนกว่าการพิสูจน์อัตลักษณ์ร่างที่อยู่ใต้ซากเรือฟีนิกซ์จะดำเนินการสำเร็จลุล่วง 
    สำหรับการดำเนินการส่งกลับร่างผู้เสียชีวิตและประสานงานอำนวยความสะดวกอื่นๆ ให้กับผู้ประสบภัยและญาติ จังหวัดภูเก็ตทำการเปิดศูนย์อำนวยการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต ที่ศาลากลางจังหวัด โดยกำหนดให้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะติดตามในภาพรวมในทุกด้าน ทั้งการรักษาพยาบาลเยียวยา การจัดการศพ การส่งกลับ รวมทั้งการรับเรื่องร้องทุกข์กรณีที่ญาติยังมีข้อกังวล ตลอดจนการดูแลประเมินผลการปฏิบัติการ
         ทั้งนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรับเพิ่มมาตรการความปลอดภัยการท่องเที่ยว โดยบูรณาการเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการขึ้นสู่เรือตามท่าต่างๆ โดยเบื้องต้นได้พิจารณาจากเรือที่มีขนาด 60 ตันกรอสขึ้นไป โดยจะดำเนินการในท่าเรือหลัก 4 ท่าเรือก่อน ได้แก่ ท่าเรืออ่าวฉลอง, ท่าเรือรัษฎา,  ท่าเรือวิสิษฐ์พันวา และท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า สลับหมุนเวียนตรวจการณ์ในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"