สอบ3แสนล้มคดีนัดแห่ศพน้องหญิง ฐิติราชสอบ2พยานสาว


เพิ่มเพื่อน    

 "ศรีวราห์" ยันหลักฐานแน่นคดีน้องหญิง "อ๊อฟ" ดิ้นไม่หลุดข้อหาเจตนาฆ่า เผยมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้วหลัง "อัจฉริยะ" ปูดยัด 3 แสนล้มคดี ด้านชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมระบุข่มขู่พยาน นัดแห่ศพน้องหญิงขอความเป็นธรรม ผบช.ภ.1

    พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ถึงความคืบหน้าคดี น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือน้องหญิง ที่เสียชีวิตปริศนาตกลงจากรถเทรลเลอร์ในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายสุรพล ดาราคำ หรืออ๊อฟ คนขับรถเทรลเลอร์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยส่วนตัวมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดนายอ๊อฟได้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานวัตถุ พยานบุคคล และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ครบถ้วนสมบูรณ์ เห็นควรแจ้งข้อกล่าวหา 
    "พยานหลักฐานที่มีขณะนี้สามารถเอาผิดนายอ๊อฟได้เพียงคนเดียว แต่ถ้าหากนายอ๊อฟให้ข้อมูลพาดพิงถึงใคร หรือการสืบสวนสอบสวนไปถึงคนอื่น ก็ต้องเรียกมาสอบปากคำ ถ้าผิดก็ต้องดำเนินการ ย้ำว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีอุบัติเหตุ แต่เป็นคดีฆาตกรรม"
    พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาระบุว่าในคดีนี้ตำรวจรับสินบน 3 แสนบาทจากผู้ต้องหา เรื่องนี้ทราบว่ากองบังคับตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว จะเรียกนายอัจฉริยะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน ตนไม่ก้าวก่าย ทุกประเด็นได้กำชับในที่ประชุมเมื่อวานนี้ไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแสวงหาวัตถุพยานทุกชิ้น โดยเฉพาะชุดชั้นในและหลักฐานอื่นๆ ตลอดจนการสอบปากคำแพทย์ก็ต้องให้ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วย ทั้งนี้ ไม่กังวลใจเพราะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน
    ด้านชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้ออกแถลงการณ์ว่า คดีนี้ชมรมฯ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจ และครอบครัวผู้เสียหาย ต้องการให้กองปราบปรามและคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนที่เป็นกลางเป็นผู้ทำคดี โดยให้โอนคดีมาที่ส่วนกลาง ในส่วนของคำสั่งย้าย ผกก.สภ.บางปะอิน และกลุ่มพนักงานสอบสวน รวม 3 คน ไปประจำที่ ศปก.จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.2561 แต่ปรากฏภาพสื่อมวลชนทั้งที่ห้องประชุม ตร.และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งยังปรากฏภาพการทำงานอยู่ที่โรงพักเหมือนเดิมตามปกติ จึงเป็นการขัดคำสั่งของ ผบก.จังหวัด นั่นหมายถึงเป็นคำสั่งที่ไม่มีความหมาย ทั้งที่ตามระเบียบราชการ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวในคดี เพราะถูกตั้งกรรมการสอบอยู่ 
    แถลงการณ์ระบุต่อไปว่า การออกคำสั่งของ ผบช.ภ.1 เลขที่ 223/2561 ลงวันที่ 30 ก.ค.2561 ที่ระบุมีการรับคดีอาญาของน้องหญิงเป็นคดีอาญา เลขที่ 509/2561 ไม่เป็นความจริง ตามรายงานประจำวันคดีที่ผู้เสียหายรับเอกสารมาไม่ปรากฏเลขคดี จึงอยากขอตรวจสอบเอกสารรับเลขคดีนี้ อีกทั้งยังปรากฏบุคคลที่ถูกคำสั่งให้ย้ายไป ศปก.มาอยู่ในคณะสืบสวนสอบสวนในครั้งนี้ด้วย ซึ่งไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใสในคดีนี้ ส่อให้เห็นว่ามีการช่วยเหลือ ผกก.บางปะอินกับพวกให้พ้นผิดข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่และทางวินัย นอกจากนี้มีการข่มขู่พยานสำคัญของชมรมฯ และครอบครัวน้องหญิงจะเคลื่อนศพน้องหญิงมาร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบช.ภ.1 ในวันศุกร์ที่ 3 ส.ค.61 เวลา 10.00 น. ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 
    ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กำลังสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 2 ราย อยู่ที่ บช.ก. และเป็นพยานปากสำคัญในคดีเพื่อยืนยันพฤติกรรมของผู้ต้องหาว่าเป็นเช่นใด โดยผู้เสียหายเคยถูกกระทำลักษณะเดียวกับน้องหญิง แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ กระทั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตำรวจเร่งดำเนินคดี จึงเดินทางเข้ามาให้ปากคำ
    ก่อนหน้านี้ น.ส.เจน และ น.ส.รุ้ง ได้ออกมาระบุว่า เคยถูกล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศในลักษณะการค้ามนุษย์เช่นเดียวกับน้องหญิง
    พล.ต.ต.กรไชยกล่าวว่า ประเด็นที่จะสอบปากคำผู้เสียหาย จะต้องดูว่าเข้าองค์ประกอบเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ อาทิ ลักษณะพฤติการณ์ข่มขู่ ล่อลวง บังคับ หรือเป็นการสมยอมหรือไม่ โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. ไปดูในรายละเอียด นอกจากนี้ ในการจะสอบปากคำ น.ส.สิรินาถ รอบรัมย์ หรือเป็ด ซึ่งอยู่ภายในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อขยายผลว่ามีผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ต้องรอคำสั่งจากผู้บัญชาการ แต่ก็พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย 
    พล.ต.ต.กรไชยเผยด้วยว่า ในพื้นที่ที่เกิดเหตุคดีน้องหญิงนั้น มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นการขายพวงมาลัยบังหน้าการค้าประเวณีในที่จอดรถบรรทุก ที่พักรถ แต่ผู้ขายบริการไม่ใช่เยาวชน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการสอบปากคำ 2 พยานที่ บช.ก. พล.ต.ท.ฐิติราชได้เดินออกจากห้องประชุมมณีรินทร์ ที่ใช้สอบปากคำ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องทำงานส่วนตัว
    มีรายงานว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ ประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการปราบปราม จึงเข้ามาสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"