จับตาตั้งรองปธ.ศาลฎีกา ‘ผู้พิพากษา’นับพันจ่อฮึ่ม!


เพิ่มเพื่อน    

 ประชุม ก.ต.ตั้ง "รองประธานศาลฎีกา"     ใหม่ส่อมีปัญหา หลังผู้พิพากษาระดับบริหารถูกร้องเรียนแทรกแซงข่มขู่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น เอื้อประโยชน์คู่ความ เชื่อหากปล่อยผ่านจะมีผู้พิพากษานับพันร่วมลงชื่อถอดถอน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ครั้งที่ 13/2561 การประชุมดังกล่าว ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบในการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตุลาการในวาระของวันที่ 1 ต.ค.2561 
    ในวาระก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ซึ่งเป็นครั้งที่ 12/2561 ได้มีการพิจารณาไปแล้ว 3 บัญชี ประกอบด้วย บัญชีผู้พิพากษาอาวุโสสับเปลี่ยนตำแหน่ง 51 ราย บัญชีแต่งตั้งผู้พิพากษาอาวุโส 86 ราย และบัญชีสับเปลี่ยนตำแหน่ง 1 ราย ซึ่งได้นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย รองประธานศาลฎีกา ขึ้นเป็นว่าที่ประธานศาลอุทธรณ์ ซึ่งทุกตำแหน่งจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.นี้
    ส่วนในวันที่ 6 ส.ค.นี้ จะมีการพิจารณาในบัญชีสับเปลี่ยนตำแหน่งระดับสูงในระดับรองประธานศาลฎีกาใหม่ และระดับประธานแผนกคดีในศาลฎีกา และแต่งตั้งระดับประธานแผนกใหม่ขึ้นมาทดแทนตำแหน่งผู้บริหารที่ไปเป็นผู้พิพากษาอาวุโส 
    ทั้งนี้ รายงานข่าวระดับสูงในศาลยุติธรรมระบุถึงประเด็นที่น่าสนใจว่า ในบัญชีสับเปลี่ยนตำแหน่งดังกล่าว จะมีบัญชีผู้พิพากษาระดับประธานแผนกคดีในศาลฎีกาที่จะแต่งตั้งขึ้นชั้นรองประธานศาลฎีกา ที่จากเดิมได้มีการเลื่อนการพิจารณาเฉพาะบัญชีดังกล่าวมาตั้งแต่ครั้งวันที่ 20 ก.ค. เนื่องจากมีประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งใหม่คือ ตำแหน่งรองประธานศาลฎีกา ตำแหน่งหนึ่งที่มีปัญหา เนื่องจากมีการร้องเรียนผู้พิพากษาที่จะได้รับแต่งตั้งบุคคลหนึ่งที่มีปัญหาเกี่ยวข้องในด้านความเหมาะสมและจริยธรรมที่จะต้องพิจารณาอย่างหนักว่า มีความเหมาะสมและจริยธรรมอันสมควรที่จะดำรงตำแหน่งรองประธานศาลฎีกาหรือไม่ 
    รายงานข่าวระบุต่อว่า ผู้พิพากษาคนดังกล่าวได้ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการใช้อิทธิพล แทรกแซงข่มขู่การทำงานของศาลชั้นต้น ข่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดไปยังกลุ่มของผู้พิพากษาศาลชั้นต้นเป็นวงกว้าง จนมีการร้องเรียนถึงพฤติการณ์และจริยธรรมในการดำรงตนที่ไม่เหมาะสมของผู้พิพากษาคนดังกล่าว ไปยังผู้บริหารระดับสูงของศาลยุติธรรม และ ก.ต. จนมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น ซึ่งขณะนี้การสอบสวนข้อเท็จจริงกำลังดำเนินการอยู่ 
    เพราะหากว่าการสอบสวนชี้ชัดว่ามีการกระทำที่ผิดวินัยอย่างร้ายแรงขึ้นมา ก็จะเกิดความเสียหายต่อการเสนอรายชื่อเพื่อโปรดเกล้าฯ และอาจมีปัญหาตามมาด้วย จึงเป็นที่น่าจับตาว่า ผลการประชุม ก.ต.ครั้งที่ 13 ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ จะออกมาอย่างไร 
    แหล่งข่าวผู้พิพากษาระดับสูงในศาลยุติธรรมเผยว่าหากบุคคลดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาจากการประชุม ก.ต.ในครั้งนี้ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานศาลฎีกา อาจจะมีผู้พิพากษานับพัน ทั้งสามชั้นศาลร่วมกันลงชื่อเพื่อขอให้ถอดถอนได้ 
    “ถ้า อ.ก.ต.และ ก.ต.เราไม่เข้มแข็ง จะเป็นช่องว่างให้ฝ่ายบริหารเข้ามาครอบงำได้ เราสู้มาแทบตาย ถ้าเราไม่ตรงไปตรงมา มัวไปเกรงใจใคร องค์กรจะมีปัญหา เรื่องนี้ได้ยินมาว่ามีผู้พิพากษาซึ่งเป็นผู้ร้องและพยาน เรียนเรื่องเข้ามา ได้ยืนยันว่าผู้พิพากษาระดับสูงที่ถูกร้องมีพฤติการณ์ข่มขู่แทรกแซงคดีเพื่อที่จะเป็นประโยชน์กับคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งผู้พิพากษาเรามีศักดิ์ศรี ก็ไม่ยอมแม้จะมีตำแหน่งใหญ่โตกว่า เพราะผู้พิพากษาเขามีอิสระในการทำงาน จะไปสั่งเขาไม่ได้ เขาไม่ยอม เรื่องนี้ก็ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมในผู้พิพากษาทั่วประเทศ ถึงขนาดมีคนกล่าวว่าถ้ามีการอุ้มกัน เขาจะไม่ยอม เราอยากให้ ก.ต.เรามีอิสระที่แท้จริง เพราะเป็นสิ่งที่เรายึดมั่น และสู้เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากข้างนอกด้วย”. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"