เด้งฟ้าผ่า 5 เสือ สภ.กระทุ่มแบน เซ่นฝ่ายปกครอง-ทหารสนธิกำลังบุกตรวจสถานบันเทิง  NOS PUB พบนักท่องราตรีฉี่ม่วงถึง 123 คน เยาวชนเพียบ แจ้งข้อหาผู้ประกอบการ 4 กระทง

    เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีฝ่ายปกครองสนธิกำลังเข้าตรวจค้นสถานบันเทิง  ร้าน NOS PUB ตั้งอยู่เลขที่ 20/2 ถนนเพชรเกษม หมู่ 7 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบนักเที่ยวที่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง จำนวน 123 คน เป็นชาย 80 คน เป็นหญิง 43 คน พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 7 คน 
    ในเบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้แจ้งข้อหาแก่ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ NOS PUB ดังนี้ คือ 1.เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 3.ใช้ชื่อสถานบริการไม่ตรงกับใบอนุญาต 4.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ 5.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ และ 6.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 
    นอกจากนี้ พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร มีคำสั่งให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมกับ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 ได้มีคำสั่งให้  ผกก., รอง ผกก. และ สว.ที่รับผิดชอบ หรือ 5 เสือ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร  ในพื้นที่รับผิดชอบ ให้มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 โดยกำชับการสืบสวนข้อเท็จจริงต้องทำโดยรวดเร็ว เป็นธรรม เพื่อให้ความกระจ่างแก่สังคม 
    รองโฆษก ตร.ระบุว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับทุกพื้นที่มาตลอดในการป้องกัน ปราบปราม ไม่ให้มีการปล่อยปละละเลย อบายมุข บ่อนการพนัน สถานบริการ หรือการค้ามนุษย์ เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ โดยหากมีหน่วยอื่นเข้าตรวจค้นจับกุม หน่วยพื้นที่ต้องรับผิดชอบก็จะพิจารณาข้อบกพร่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนาย ตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 ลงวันที่ 27 เม.ย.2558 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปราบอบายมุข ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าตำรวจท้องที่เกิดเหตุปล่อยปละละเลยหรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
    "ขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน หากพบว่าพื้นที่ใดมีการปล่อยปละละเลยให้มีอบายมุข การพนัน การค้ามนุษย์ และสถานบริการผิดกฎหมายเกิดขึ้นในพื้นที่ สามารถแจ้งข้อมูลมายังศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร. หมายเลขโทรศัพท์ 1599 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนกลาง ลงเข้าไปกวดขัน จับกุม ปราบปรามในพื้นที่ที่มีการปล่อยปละละเลยให้เกิดอบายมุข และจะดำเนินการพิจาณาข้อบกพร่องในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องนั้นด้วย" พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว 
    ทั้งนี้ เมื่อกลางดึกคืนวันศุกร์ ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยพิริยะ ฉันทดิลก ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครองสำนักการสอบสวนและนิติการ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกองร้อยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับจังหวัดสมุทรสาคร นายประภัสสร์  มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร,  นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน  โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายแสงประทีป โกมลบุตร ผู้ตรวจราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, นายแพทย์นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปส. ทหารกองทัพภาคที่ 1 และเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ทหารค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน บูรณาการภายใต้ศูนย์อำนวยการประสานกำกับติดตามการปฏิบัติตามคำสั่งของ คสช. เข้าตรวจสอบจับกุมร้าน NOS PUB ตั้งอยู่เลขที่ 20/2 ถนนเพชรเกษม หมู่ 7 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นสถานบริการที่มีชื่อตามใบอนุญาตว่า "เฮ้าส์ซิงเกอร์ผับ" มีนายปัญญา แสงประสิทธิ์ อายุ 60 ปี เป็นผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ
    โดยเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่าสถานบริการ NOS PUB เปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการเสพยาเสพติดภายในสถานบริการ เช่น ในห้องน้ำภายในสถานบริการ โดยเมื่อผู้ใช้บริการเสพยาเสร็จเรียบร้อย พนักงานทำความสะอาดจะรีบทำความสะอาดและกำจัดอุปกรณ์การเสพที่ทิ้งอยู่ทันที เพื่อไม่ให้เป็นหลักฐานว่าสถานบริการรู้เห็นกับผู้ใช้บริการ 
    ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้แฝงตัวเข้าทำการสืบสวน และประสานข้อมูลกับฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบนอย่างใกล้ชิด จนได้ข้อมูลชัดเจนเป็นไปตามที่ได้รับการร้องเรียนจริง 
    ทั้งนี้ ก่อนเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้แฝงตัวเป็นนักเที่ยวเข้าทำการสืบสวน เมื่อเกินเวลาตี 1 ซึ่งเป็นเวลาปิดทำการตามกฎหมายของสถานบริการดังกล่าวไปแล้วครึ่งชั่วโมง ก็พบว่าสถานบริการยังคงไม่มีทีท่าที่จะเช็กบิลปิดทำการแต่อย่างใด 
    นอกจากนี้ยังพบว่าร้านยังคงจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปกติ แม้ว่าจะเลยเวลาเปิดทำการตามกฎหมายไปแล้ว สายลับจึงให้สัญญาณแก่ชุดจับกุมเข้าดำเนินการตรวจสอบจับกุม เมื่อกำลังของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางมาถึง พบว่าสถานบริการ NOS PUB ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีนักเที่ยวจำนวนกว่า 800 คนเข้ามาใช้บริการที่ผับแห่งนี้ 
    เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงแสดงตัวขอตรวจสอบ ให้ปิดเสียงดนตรี และเปิดไฟภายในร้าน ทำให้นักเที่ยวต่างแตกตื่น นักเที่ยวที่พกยาเสพติดต่างก็โยนยาเสพติดและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทพร้อมอุปกรณ์การเสพลงพื้นเกลื่อนกลาด ทั้งยาไอซ์ ยาอี ยาเคตามีน และยาทามาดอน 
    ผลการตรวจสอบพบว่า นักเที่ยวที่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง จำนวน 123 คน เป็นชาย 80 คน เป็นหญิง 43 คน พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 7 คน อายุต่ำสุด 17 ปี ซึ่งเด็กได้ให้การว่าเข้ามาเที่ยวและเสพยาเสพติดในร้าน NOS PUB โดยซื้อยาเสพติดได้ในห้องน้ำของสถานบริการ
    เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้แจ้งข้อหาแก่ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ NOS PUB ดังนี้ คือ 1.เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 3.ใช้ชื่อสถานบริการไม่ตรงกับใบอนุญาต 4.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ 5.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ 6.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร
         โดยหลังจากนี้ นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน จะได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตสถานบริการแห่งนี้ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ต่อไป.