"บิ๊กแป๊ะ" ไล่ตรวจสอบคดีนักท่องเที่ยวถูกข่มขืนแต่ตร.ไม่รับแจ้งความ


เพิ่มเพื่อน    

 

"บิ๊กแป๊ะ" สั่งสอบนักท่องเที่ยวร้องผ่านโซเชี่ยลถูกข่มขืน ตร.ไม่รับแจ้งความ  เร่งตรวจสอบการทำงานของภ.จว.สุราษฎร์ธานี 

วันที่ 26 ส.ค.61 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีมีผู้ร้องเรียนผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย ว่านักท่องเที่ยวถูกข่มขืนแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ และกรณีเกิดเหตุลักทรัพย์กับนักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง ในพื้นที่ จว.สุราษฎร์ธานี ว่า ได้รับรายงานจาก ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ว่า เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2561 ที่เกาะเต่า  แต่ผู้เสียหายได้มาแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน เป็นกรณีผู้เสียหายแจ้งความโทรศัพท์มือถือและเงินหาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งว่าถูกข่มขืน 

 ขณะนี้ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ สภ.เกาะพะงัน และ สภ.เกาะเต่า เร่งตรวจสอบกล้อง CCTV หรือพยานหลักฐานอื่นๆ  ย้อนหลัง ในบริเวณที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะเรียกพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำและพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงต่อไป

ในส่วนของกรณีเหตุลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะสมุย นั้น ในวันนี้ (26 ส.ค.61)เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ,ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ,ตำรวจท่องเที่ยว, ร่วมประชุม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจิง และกำหนดมาตรการ, แนวทางการป้องกัน เกี่ยวกับลักทรัพย์นักท่องเที่ยวบนรถโดยสาร และเรื่องการร้องเรียนผ่านสื่อโซเชี่ยลว่ามีการข่มขืนนักท่องเที่ยวของพื้นที่ เกาะพะงัน เกาะเต่า โดยให้เร่งรัดทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหามาตราการป้องกันเหตุ เพิ่มความเข้มในการออกป้องกันปราบปราม จุดเสี่ยง และชุดสืบสวนลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาข่าว เกี่ยวกับกลุ่มอาชญากร หรือ บุคคลเฝ้าระวัง บุคคลพ้นโทษ อีกทั้งหากมีเหตุเกิดขึ้นให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ในกรณีนักท่องเที่ยวร้องเรียนผ่านสื่อโซเชี่ยลมีเดีย ว่าถูกข่มขืนนั้น กำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งชุดสืบสวนได้ร่วมกันบูรณาการ กับ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนสอบสวน เร่งรัดติดตามคดีต่อไป  และในส่วนของการร้องเรียนเหตุเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กำลังเร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริง  เพื่อรับทราบปัญหา และวางแผนการปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

โดยที่ผ่านมาในพื้นที่ จว.สุราษฎร์ธานี ได้มีการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด มีการกวดขันจับกุมคนร้ายที่ประทุษร้ายต่อทรัพย์  ป้องกันปราบปรามเสพติดอย่างเข้มงวด รวมทั้งชาวต่างชาติที่กระทำผิดกฎหมาย หรือเข้ามาอาศัยในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนด ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการกวดขันจับกุม และผลักดันออกนอกประเทศไปแล้วจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มงวด และกำชับการปฏิบัติงานให้เป็นรูปธรรมต่อไป ในส่วนของปัญหาสถานีตำรวจและสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ มีระยะทางไกล และใช้เวลาในการเดินทางนาน ทำให้การดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอาจจะไม่ทั่วถึง  ประเด็นนี้จะได้มีการแก้ไขปัญหา ให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ และความต้องการของประชาชน ให้ได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยบูรณาการการปฏิบัติร่วมกัน  และกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เร่งคลี่คลายคดีดังกล่าว อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เป็นสำคัญ รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยว หรือพักอาศัยในประเทศไทย  และขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนกรณีเกิดเหตุด่วน เหตุฉุกเฉิน กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สามารถแจ้งสายด่วน 1155 ของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"