กองปราบสอบพ่อ-แม่'บูม'ดาราหนุ่มร่วมตุ๋นบิตคอยน์


เพิ่มเพื่อน    

27 ส.ค.61- นายสุวิทย์ และนางเลิศ ฉัตรกมล บิดา-มารดา นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือ บูม จารวิจิต ดารานักแสดง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญข้อหาร่วมกันฟอกเงิน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม หลังจากพบเส้นทางการเงินที่นายปริญญา จารวิจิต พี่ชายบูม ผู้ต้องหาคนสำคัญที่อยู่ระหว่างหลบหนี โอนเงินเข้าบัญชีเกือบ 100 ล้านบาท โดยวันนี้บูมได้พาบิดา-มารดา เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง

คดีนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวฟินแลนด์ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ว่าถูกนายปริญญา พร้อมกับพวกร่วมกันหลอกลวงและร่วมกันวางแผนชักชวนให้ลงทุนประกอบธุรกิจซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล ในชื่อ dragon coin (DRG) โดยหลอกลวงให้ซื้อหุ้นของบริษัท เอ็กซ์เปย์ ซอฟท์แวร์ จำกัด, NX Chain Inc. และหุ้นของบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) มีผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนด้วยการโอนเหรียญบิทคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอล จำนวนหนึ่งเข้าไปกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหา รวมเป็นเงิน 5, 564.44650956 เหรียญบิตคอย คิดเป็นสกุลเงินบาทไทย 797,408, 454.33 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดเวลานัดหมายที่จะได้รับส่วนแบ่งจากการลงทุน ผู้เสียหายกลับไม่ได้รับส่วนแบ่งจากการลงทุน หรือเงินปันผลแต่อย่างใด จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปรามและในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับนายปริญญา นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือ บูม ดารานักแสดง และน.ส.สุพิชย์ฌา พี่สาวบูม โดยนายปริญญา อยู่ระหว่างหลบหนี ส่วนพี่สาวได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ส่วนบูม ถูกเจ้าหน้าที่นำหมายศาบเข้าจับกุม แต่บูมและพี่สาวได้ประกันตัวในชั้นศาล

แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า นายปริญญา ได้โอนเงินเข้าบัญชี นายสุวิทย์ บิดา จำนวน 45 ล้าน และบัญชีนางเลิศฉัตรกมล จำนวน 55 ล้านบาท จึงได้เชิญตัวมาให้ปากคำในฐานะพยาน และในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) พนักงานสอบสวนได้เรียก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือผู้กองมนัส มาให้ปากคำที่ได้รับการโอนหุ้นจากนายปริญญา ได้มาโดยชอบหรือไม่ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"