กองทัพสหรัฐเตรียมยกเลิกเงินช่วยเหลือแก่ปากีสถาน 300 ล้านดอลลาร์ (ราว 9,840 ล้านบาท) เหตุจากรัฐบาลปากีสถานไม่ได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับพวกกองกำลังติดอาวุธอิสลามิสต์ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านเอเชียใต้ของสหรัฐ

แฟ้มภาพ ชาวปากีสถานชุมนุมประท้วงสหรัฐที่เมืองลาฮอร์เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 / AFP

    เงินกองทุนสนับสนุนชาติพันธมิตร (ซีเอสเอฟ) ที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศจะระงับนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการระงับเงินช่วยเหลือรวมๆ ที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยคราวนั้นทรัมป์กล่าวโจมตีปากีสถานและรัฐบาลสหรัฐชุดที่่่ผ่านมาว่ าให้เงินช่วยเหลือแก่ปากีสถานมหาศาล แต่สิ่งที่ได้รับตอบแทนมีแต่คำโกหกหลอกลวง

    คำชี้แจงของพันโทโคเน ฟอล์กเนอร์ โฆกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ต่อสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันเสาร์ที่
1 กันยายน ระบุว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐกำลังรอให้สภาคองเกรสอนุมัติการตัดเงินช่วยเหลือ 300 ล้านดอลลาร์ที่จะต้องให้แก่ปากีสถาน "สืบเนื่องจากปากีสถานขาดการดำเนินการที่เด็ดเดี่ยวในการสนับสนุนยุทธศาสตร์เอเชียใต้" และว่า สหรัฐจะยังคงกดดันปากีสถานต่อไปเพื่อให้พุ่งเป้าหมายกลุ่มก่อการร้ายทั้งหมดโดยไม่เลือกหน้า

    คำประกาศของโฆษกเพนตากอนมีออกไม่กี่วันก่อนที่ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ จะเดินทางไปเยือนกรุงอิสลามาบัดพร้อมกับพลเอกโจเซฟ ดันฟอร์ด เพื่อพบกับอิมรอน ข่าน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของปากีสถาน โดยแมททิสกล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ทั้งสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับการต่อสู้กับพวกนักรบในปากีสถานด้วย

    ทางการปากีสถานต่อสู้กับพวกนักรบภายในประเทศมาอย่างดุเดือด รัฐบาลปากีสถานกล่าวว่า สงครามกับพวกนักรบหัวรุนแรงสุดโต่งทำให้ปากีสถานต้องสูญเสียกำลังพลนับหมื่นนายและสูญงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกลับกล่าวหารัฐบาลปากีสถานว่า เพิกเฉยหรือแม้แต่ร่วมมือกับกลุ่มนักรบเหล่านี้ ซึ่งใช้ปากีสถานเป็นแหล่งกบดานเพื่อข้ามไปโจมตีในอัฟกานิสถาน

    ทำเนียบขาวเชื่อว่า สำนักงานข่าวกรองปากีสถานและองค์กรอื่นๆ ของกองทัพ ช่วยเหลือด้านเงินทุนและอาวุธแก่กลุ่มตอลิบัน ด้วยเหตุผลด้านอุดมการณ์ และเพื่อต้านทานอิทธิพลของอินเดียในอัฟกานิสถานที่กำลังเพิ่มพูนยิ่งขึ้น รัฐบาลสหรัฐยังเชื่อด้วยว่า การปราบปรามของปากีสถานจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินผลลัพธ์ของสงครามในปากีสถานที่ยืดเยื้อมานาน

    รัฐบาลสหรัฐเคยหงุดหงิดกับการเพิกเฉยของปากีสถานหลายครั้ง ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยสั่งการให้ใช้โดรนโจมตีแหล่งกบดานของพวกนักรบในปากีสถานและยังเคยอนุมัติให้หน่วยซีลบุกสังหารอุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำอัลกออิดะห์ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองแอบบอตตาบัดของปากีสถานมาแล้ว

    กรณีของทรัมป์ เขาแสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผยและทวีตโจมตีปากีสถานอย่างรุนแรงเมื่อต้นปีนี้ว่า สหรัฐให้เงินปากีสถานอย่างโง่เง่ามากกว่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ได้รับกลับคืนมีแต่คำโกหกและการหลอกลวง คิดว่าพวกผู้นำสหรัฐนั้นโง่เง่า.