มาเลเซียและสิงคโปร์ตกลงกันได้แล้วว่าจะเลื่อนโครงการพัฒนาบริการรถไฟความเร็วสูงออกไปก่อน 2 ปี ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียภายใต้การนำของนายกฯ มหาเธร์ โมฮัมหมัด กำลังทบทวนเมกะโปรเจ็กต์เพื่อลดภาระหนี้สินของประเทศ

แฟ้มภาพ นายกฯ มหาเธร์ โมฮัมหมัด / AFP

    รายงานรอยเตอร์เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 อ้างข้อมูลจากนิตยสารธุรกิจรายสัปดาห์ "ดิเอดจ์" ของมาเลเซียที่วางแผงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าแหล่งข่าวหลายรายยืนยันว่ารัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องกันว่าจะเลื่อนโครงการรถไฟความเร็วสูงออกไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 โดยจะไม่มีการลงโทษฝ่ายใด เพื่อให้เวลาแก่มาเลเซียในการทบทวนสถานะทางการเงิน

    โมหะเหม็ด อัซมิน อาลี รัฐมนตรีเศรษฐกิจของมาเลเซีย ยืนยันเมื่อวันจันทร์เช่นกันว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกันแล้วว่าจะเลื่อนโครงการนี้โดยไม่มีการลงโทษปรับ และจะมีการจัดทำรายละเอียดที่ชัดเจนเมื่อมีการลงนามความตกลงฉบับใหม่ในเร็ววันนี้

    นายกฯ มหาเธร์เคยประกาศความตั้งใจของเขาที่จะยกเลิกโครงการนี้ภายในไม่กี่สัปดาห์ หลังจากนำกลุ่มแนวร่วมฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียได้อย่างเหลือเชื่อเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่อัซมินย้ำว่า รัฐบาลมาเลเซียยังคงยึดมั่นกับโครงการนี้ แต่ต้องเกิดขึ้นโดยที่มาเลเซียสามารถจ่ายไหวด้วย

    "เราต้องการเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป เพราะจะก่อประโยชน์แก่ทั้ง 2 ประเทศ" เขากล่าว "อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่เลื่อนโครงการนี้ เราจะหารือวิธีที่จะลดค่าใช้จ่ายกัน"

    ด้านกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ปฏิเสธจะให้ทัศนะต่อรายงานนี้ โดยโยนให้ไปอ่านข้อความที่เคา บุน วาน รัฐมนตรีคมนาคม โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า จะมีการประกาศการตัดสินใจ "ในไม่ช้า"

    สิงคโปร์เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมว่า หากมาเลเซียยกเลิกโครงการ สิงคโปร์จะพยายามขอเงินคืนจากมาเลเซียเป็นจำนวนกว่า 250 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (5,968 ล้านบาท) ที่เป็นค่าใช้จ่ายจนถึงปัจจุบัน

    นายกฯ มหาเธร์กล่าวไว้ว่า มาเลเซียจะหาทางเจรจาต่อรองเลื่อนโครงการนี้ เพื่อลดภาระการต้องจ่ายเงินชดเชย.