หนุน'มาร์ค'สู้ศึกโวทักษิณกลัว


เพิ่มเพื่อน    


    "มาร์ค" ถก กก.บห.เตรียมจัดประชุมใหญ่ ปชป. 26 ก.ย.นี้ เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคก่อนเปิดหยั่งเสียงเลือกหัวหน้า "จุติ" โวชิงหัวหน้าพรรคหลายคนเป็นเรื่องดี ไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือสั่งใครได้ มั่นใจสมาชิกที่ยังอยู่เป็นของจริงไม่มีใครทิ้งพรรค "บุญยอด" ยก "อภิสิทธิ์" เป็นบุคคลที่ระบอบทักษิณกลัว ต้องหนุนสู้ศึกเลือกตั้งอีก
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เวลา 11.30 น. วันที่ 17 กันยายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดปัจจุบัน โดยมีกรรมการเข้าประชุมอย่างพร้อมหน้าขาดเพียง 7 คนที่แจ้งลาเนื่องจากติดภารกิจ อาทิ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช, ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร, น.ส.รัชดา ธนาดิเรก, นายสรรเสริญ สมะลาภา เป็นต้น
    นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขั้นตอนที่พรรคจะต้องดำเนินการทั้งทุนประเดิมและจำนวนสมาชิกพรรคได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการแก้ไขข้อบังคับพรรคเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการ เหรัญญิก  นายทะเบียน และกรรมการบริหาร รวมทั้งการจัดตั้งสาขาพรรค การเปิดรับสมาชิกใหม่ ซึ่งทุกอย่างต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่พรรค โดยจะต้องทำหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ทราบล่วงหน้า 5 วัน ตนจึงต้องขอมติจากที่ประชุม ซึ่งจะส่งหนังสือให้ กกต.ทราบภายในวันนี้ 
    จากนั้นเวลา 14.50 น. นายอภิสิทธิ์แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้มีการจัดประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สอดคล้องกับกฎหมายในวันที่ 26 ก.ย. เวลา 13.00 น. ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยในวันนี้จะลงนามหนังสือเพื่อขอดำเนินการต่อ กกต. อย่างไรก็ตาม ร่างข้อบังคับขณะนี้เรียบร้อย โดยมีอุดมการณ์ของพรรคซึ่งยืนหยัดตั้งแต่ปี 2489 และนโยบายพรรคซึ่งจะเป็นฉบับย่อ เพราะต้องรอให้ กก.บห.ชุดใหม่มาปรับปรุงอีกครั้ง เบื้องต้นประกอบด้วยความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การศึกษา การกระจายอำนาจ การเมืองที่สุจริต 
    "สิ่งที่จะยังไม่ทำในการประชุมวันดังกล่าว คือการเลือกหัวหน้าพรรคและ กก.บห. เพราะเราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม เราถึงออกรูปแบบการหยั่งเสียงเพื่อให้มีความเที่ยงธรรมมากที่สุด ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการออกระเบียบว่ารูปแบบหยั่งเสียงจะเป็นอย่างไร คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะชัดเจนหลังที่ประชุมใหญ่มีมติเห็นชอบข้อบังคับพรรค ส่วนการหยั่งเสียงตัวผู้สมัคร ส.ส.จะมีหรือไม่นั้นต้องดูกรอบระยะเวลา เพราะขณะนี้ทำได้แค่งานด้านธุรการเท่านั้น เพราะหากพูดไปแล้วก็ต้องทำ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว 
     นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค ปชป.ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม กก.บห.ว่า เป็นการประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคเพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และเรื่องงบการเงินของพรรคที่ไม่เคยได้มีการพูดคุยกันในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงเรื่องการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี และกฎระเบียบการเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งมีความชัดเจนว่าจะมีการหยั่งเสียงเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค 
    เลขาธิการพรรค ปชป.กล่าวว่า กรณีที่จะมีสมาชิกพรรคประกาศเข้าร่วมลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป.นั้น ถือเป็นเรื่องดีเพราะพรรคไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีใครสั่งใครได้ แต่ละคนน่าจะมีความคิดที่อยากปฏิรูปพรรค รวมถึงเสนอวิธีทำงานเพื่อแก้ปัญหาประเทศชาติ ถ้าหากคนนั้นมีความซื่อสัตย์สุจริตก็สามารถลงสมัครได้ สำหรับการประกาศชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. เราไม่ขัดข้องและไม่เกี่ยวกับการที่นายอลงกรณ์เคยอยู่ใน สปท. หากเป็นเรื่องที่กฎหมายสามารถกระทำได้ ทางพรรคก็ไม่มีอะไรติดใจ ส่วนกรณีผู้ไม่ได้เป็น ส.ส.จะสามารถดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้หรือไม่นั้น อย่าเพิ่งไปกีดกันใคร เพราะเชื่อว่าสมาชิกทุกคนมีวิจารณญาณที่ดีในการเลือกหัวหน้าพรรค
    "ไม่คิดว่าเรื่องการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะเป็นการต่อสู้ภายในพรรค แม้แต่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก และนายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรค ก็มาพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคแล้ว ซึ่งจะมีการแข่งขันกันอย่างตรงไปตรงมา แบบพี่แบบน้อง หากใครแพ้ก็จะช่วยงานในพรรคต่อ"
    เมื่อถามว่าหากท้ายที่สุดมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคจะกระทบกับจำนวน ส.ส หรือไม่ นายจุติกล่าวว่า เชื่อว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังอยู่ในขณะนี้คือของจริง เพราะเราได้คัดกรองคนมาระดับหนึ่งและเชื่อว่าคงไม่มีใครทิ้งพรรค หากจะทิ้งก็คงทิ้งไปนานแล้ว เพราะที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ก็เป็นฝ่ายค้านมาโดยตลอด
    ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.กล่าวถึงกระแสการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า ตนยืนยันที่จะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากนายอภิสิทธิ์เป็นผู้นำพรรคในการสู้กับระบอบทักษิณมานาน แต่จนถึงตอนนี้ระบอบทักษิณยังคงอยู่ จึงสมควรให้นายอภิสิทธิ์ทำหน้าที่ต่อไป เพราะเป็นบุคคลที่ระบอบทักษิณกลัวมากที่สุด และนายอภิสิทธิ์ควรมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศ เนื่องจากการเป็นนายกฯ ในสมัยที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสทำงานเต็มที่ เพราะบ้านเมืองมีความขัดแย้ง
     "อีกเหตุผลสำคัญที่นายอภิสิทธิ์ควรเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป เพราะเป็นที่รู้โดยทั่วกันว่านายอภิสิทธิ์เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและทำงานการเมืองเต็มเวลา ก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วที่ทุกคนควรสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะการเป็นผู้นำที่มีหัวก้าวหน้า สร้างสรรค์กระบวนการใหม่ภายในพรรค ด้วยการเสนอให้สมาชิกหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคได้โดยตรง" นายบุญยอดกล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"