จีพีเอสซีย้ำชัดซื้อหุ้นโกลว์โปร่งใส และปลอดการเมืองเอี่ยว


เพิ่มเพื่อน    

 

จีพีเอสซี ย้ำซื้อหุ้นโกลว์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ตลท. เดินสายชี้แจงลูกค้ายันไม่มีเจตนาเข้าไปผูกขาดในพื้นที่ ห่วงโยงเข้าการเมือง พร้อมเผยเอกชนหลายรายทำธุรกิจในพื้นที่ลูกค้าเลือกได้ตามความพอใจ

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) หรือ จีพีเอสซี เปิดเผยว่ากรณีการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด(มหาชน) หรือ โกลว์ ว่าการเจรจาซื้อขายหุ้น ครั้งนี้เป็นการซื้อขายเชิงพาณิชย์ตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งอยู่ในความต้องการที่ว่าผู้ซื้ออยากจะซื้อผู้บายอยากจะขาย และเป็นราคาประเมินแล้วว่าเหมาะสม ไม่มีนอกมีใน แต่หากลูกค้าไม่เข้าใจก็ต้องเป็นหน้าที่ที่เราจะต้องชี้แจง

ทั้งนี้ในวันที่ 18 ก.ย. ได้เข้าไปพบกับนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อชี้แจงและเข้าไปยืนยันว่าไม่ต้องการสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบในพื้นที่ เพราะไม่ใช่เป้าหมายของธุรกิจ จึงไม่มีความจำเป็นที่ จีพีเอสซีต้องดำเนินการเช่นนั้น แต่เราดำเนินการภายใต้หลักความยุติธรรม และวันที่ 21 ก.ย. นี้ จะเข้าพบกับบริษัท ดาวเคมิคอล ประเทศไทย จำกัด เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน

“ทางจีพีเอสซียืนยันดีลนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ แต่ส่วนตัวยอมรับว่ามีความเป็นห่วงที่ขณะนี้มีความพยายามจะดึงประเด็นนี้ไปเชื่อมโยงกับการเมือง ซึ่งเราก็ต้องเร่งสร้างความเข้าใจกันกับลูกค้า และรวมถึงคณะกรรมกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ด้วย”นายสุรงค์ กล่าว

นายสุรงค์ กล่าวว่า การทำธุรกิจไฟฟ้าที่ปัจจุบันเปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรี จึงทำให้จีพีเอสซีไม่มีความสามารถเข้าไปผูกขาดที่ใดได้ เนื่องจากลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการกับใคร ขณะเดียวกันในพื้นที่มาบตาพุดก็มีเอกชนหลายราย ที่ดำเนินธุรกิจด้านไฟฟ้าทั้งบริษัท บีแอลซีพี พาวเวอร์ จำกัด หรือ บีแอลซีพี , บริษัท บางกอกโคเจนเนอเรชั่น จำกัด และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ด้วย

ทั้งนี้การพิจารณาซื้อหุ้นดังกล่าว จะต้องแยกประเด็นที่ว้า 1.การซื้อขายหุ้นครั้งนี้จึงไม่น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 75 (2) ที่ห้ามรัฐวิสาหกิจทำธุรกิจแข่งกับเอกชน เนื่องจาก จีพีเอสซี บริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประกอบธุรกิจในลักษณะเอกชน มีประชาชนเป็นผู้ถือหุ้นนับหมื่นรายเป็นผู้มีส่วนได้เสียในจีพีเอสซี

2.ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กำกับกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 มาตรา 8 และ 72 เนื่องจากส่วนแบ่งการตลาดของทั้งสองบริษัทเมื่อควบรวมกันแล้วจะมีกำลังการผลิตเพียง 6.9% ของกำลังการผลิตทั้งประเทศ จึงไม่เข้าข่ายการผูกขาดหลังการควบรวมธุรกิจ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่อันดับ 3 ของประเทศ ทั้งยังมีแหล่งผลิตไฟฟ้าในต่างประเทศทั้งญี่ปุ่น ลาว และเมียนมา

3.ผู้ถือหุ้น 99.98% เห็นชอบให้ธุรกรรมนี้ได้ และยืนยันว่าการดำเนินการไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยเป็นการซื้อทรัพย์สินในส่วนธุรกิจไฟฟ้าบริษัท เอ็นจี้ โกลบอล เดเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในฐานะบริษัทแม่ที่ถือหุ้นอยู่ในโกลว์ เท่ากับเป็นการซื้อหุ้นจากต่างชาติกลับมาประเทศ เงินปันผล 5,000 ล้านบาท ก็อยู่ในประเทศไทยไม่ไหลออก

“ความเสี่ยงที่เป็นห่วงคือ ผู้ซื้อจะไม่ซื้อ ถ้าลูกค้าหนึ่งรายไม่ซื้อเราเจ๊ง ดังนั้นเราต้องมีประสิทธิภาพให้ลูกค้าเลือกซื้อเรา เพราะมีผู้ผลิตไฟฟ้าอีกหลายราย ยืนยันการดำเนินธุรกิจต้องดำเนินไปตามสัญญา ถ้าไม่ดำเนินการตามสัญญา ลูกค้าสามารถร้องเรียนได้ ซึ่งสัญญานี้ได้ดำเนินการไว้ตั้งแต่ยังไม่มีการควบรวม เราไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงได้”นายสุรงค์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม กรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่า กกพ. ชุดใหม่จะพิจารณาดีลนี้ล่าช้าออกไปหรือไม่ ทางบริษัทมองว่าเรื่องนี้มีเงื่อนเวลาอยู่แล้วภายใน 90+15 วันนับตั้งแต่วันที่ยื่นเอกชนการซื้อหุ้นโกลว์ให้ กกพ. พิจารณาตามที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์ ซึ่งจะครบกำหนดภายในวันที่ 27 ก.ย.2561 ระหว่างนี้จึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกกพ. เท่านั้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"