ษิทราส่ออ่วม!มติเอกฉันท์ สภาทนายสอบ‘ตบทรัพย์’


เพิ่มเพื่อน    

 บอร์ดชุดใหญ่สภาทนายฯ ลงมติเอกฉันท์  23 เสียงให้สอบทนายตั้ม หลังอัจฉริยะร้องเรียกรับเงิน 5 แสนจากผู้ส่งออกกุ้ง ชี้หากมีความผิด โทษตั้งแต่ ภาคทัณฑ์ พักใบอนุญาต จนถึงลบชื่อออกจากสารบบทนาย ด้านบิ๊กหยมแย้มได้รับรายงานตำรวจ 5-6 นายช่วยเอมี่พ้นข้อหาร่วมจำหน่ายยาเสพติด ส่งเรื่องให้ผบช.น.คนใหม่ดำเนินการต่อ 

    เมื่อวันที่ 28 กันยายน มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสภาทนายความ หรือบอร์ดชุดใหญ่ มี ร.ต.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ เป็นประธาน ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน หลังการประชุมเสร็จสิ้น นายสรัลชา ศรีชลวัฒนา  เลขาธิการสภาทนายความ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หยิบยกเรื่องที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้สภาทนายความตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กรณีเรียกรับเงินจากพ่อค้า แม่ค้าส่งออกกุ้ง ใน จ.สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม จำนวน 500,000 บาท เป็นค่าดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางคดี เข้าสู่การพิจารณาว่าจะตั้งเรื่องสอบมารยาททนายความหรือไม่ ซึ่งบอร์ดที่เข้าประชุมทั้งสิ้น 23 คน จากจำนวนเต็ม 25 คน มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้รวบรวมข้อร้องเรียนส่งให้ประธานกรรมการมารยาททนายความ พิจารณาประเด็นนี้ตามขั้นตอน ว่ามีมูลการประพฤติผิดมารยาททนายความหรือไม่
    นายสรัลชากล่าวว่า หลังจากบอร์ดบริหารสภาทนายความชุดใหญ่มีมติแล้ว ก็ต้องมีหนังสือแจ้งให้นายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล ประธานกรรมการมรรยาททนายความ ทราบภายใน 7 วัน โดยจะส่งหนังสือไปในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งเมื่อประธานกรรมการมรรยาทฯ ได้รับหนังสือและเอกสารการร้องเรียนแล้ว ก็จะพิจารณารับคำร้องและตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้โอกาสทนายความที่ถูกกล่าวหาชี้แจงเต็มที่ โดยกระบวนการนี้จะใช้เวลาเท่าใด ขึ้นกับประธานกรรมการมรรยาทฯ จะดูแลควบคุมให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมารยาททนายความ และเมื่อใดคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมรรยาททนายความมีมติอย่างใดแล้ว หลังจากนั้นภายใน 30 วัน ก็จะต้องส่งผลให้คณะกรรมการบริหารสภาทนายความฯ ชุดใหญ่ 25 คน พิจารณาและลงมติชี้ขาดเป็นชั้นสุดท้าย โดยบอร์ดบริหารชุดใหญ่จะต้องพิจารณาและมีมติภายใน 60 วันหลังจากรับรายงานผลสอบ
    สำหรับบทลงโทษการผิดมรรยาททนายความนั้น  นายสรัลชาระบุว่า มี 3 ระดับ คือ 1.ภาคทัณฑ์ 2.พักใช้ใบอนุญาตว่าความ ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี และหากผิดร้ายแรงบทลงโทษระดับที่ 3 คือการลบชื่อออกจากบัญชีการประกอบวิชาชีพทนายความ ซึ่งข้อกล่าวหาที่นายอัจฉริยะยื่นร้องเรียนมานั้น เรียกได้ว่าเข้าลักษณะร้ายแรง กล่าวหาการเรียกรับเงิน 
    "นายอัจฉริยะเคยบอกว่ามี 2-3 เรื่องที่ตรวจสอบ แต่ที่ส่งรายละเอียดให้สภาทนายความตรวจสอบ ขณะนี้มีเรื่องเดียว ยังไม่ใช่ข้อกล่าวหากุ้งมังกรตัวละหลายหมื่นที่กำลังเป็นข่าว" นายสรัลชากล่าว
    ขณะที่นายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล ประธานกรรมการมรรยาททนายความ กล่าวว่า หากผลการพิจารณาของคณะกรรมการมารยาทออกมาแล้วผู้ถูกร้องเรียนไม่ยอมรับ ก็สามารถอุทธรณ์ต่อ รมว.ยุติธรรม และหาก รมว.ยุติธรรมยืนตามมติคณะกรรมการ ผู้ถูกร้องก็ต้องไปฟ้องศาลปกครองขอเพิกถอนคำสั่ง
    ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตามที่นายอัจฉริยะร้องเรียนมีตำรวจช่วยเหลือ น.ส.อาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ ให้พ้นจากข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด หลังจากตนมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มี พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. เป็นประธาน เบื้องต้นได้รับรายงานว่า พบข้อบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 5-6 นาย ทั้งชุดจับกุม พนักงานสอบสวนมีหลายระดับ รวมถึงมีเจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรมระดับสูงรวมอยู่ด้วย แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด แต่คาดว่าจะทราบผลสรุปทั้งหมดในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยตนจะส่งมอบเรื่องดังกล่าวให้ ผบช.น.คนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งในช่วงต้นเดือนตุลาคม ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"