ประชาชนเห็นด้วยเลื่อนสรรหา ส.ว.เร็วขึ้น ชี้อยากได้คนเป็นกลางทางการเมือง


เพิ่มเพื่อน    

 

ประชาชนเห็นด้วยเลื่อนสรรหา ส.ว.เร็วขึ้น ชี้คุณสมบัติที่อยากได้ คือ ซื่อสัตย์และเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ในการเมือง แต่ประชาชนก็ยังเชื่อมั่น ส.ว. สรรหา ระดับกลางๆ 

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน   เรื่อง “การสรรหา ส.ว. ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10 – 12 ตุลาคม 2561 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,259 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับ การสรรหา ส.ว. ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560   

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการที่ กกต. เลื่อนกำหนดการเลือก ส.ว. เร็วขึ้น ด้วยเหตุผลเพื่อให้ทันกับการเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 87.29 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ อยากเห็นบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และมีความพร้อมก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง รองลงมา ร้อยละ 11.36 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ เร็วเกินไป อาจจะทำให้กระบวนการสรรหาไม่รอบคอบ ไม่เที่ยงตรง ได้บุคคลที่ไม่มีประสิทธิภาพ และอาจมีการล็อกตัวบุคคล ขณะที่บางส่วนระบุว่า ให้เป็นไปตามแผนเดิม      เพื่อผู้สมัครจะได้มีเวลาเตรียมตัว และร้อยละ 1.35 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ด้านลักษณะของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่อยากได้มากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.81 ระบุว่า   มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ยอมรับของประชาชน รองลงมา ร้อยละ 23.83 ระบุว่า มีความเป็นกลางไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด ร้อยละ 11.68  ระบุว่า มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์การทำงานในด้านกฎหมายและด้านอื่น ๆ เพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ ร้อยละ 9.69 ระบุว่า ไม่เห็นแก่ลาภยศ เงินทองหรือผลประโยชน์อันมิชอบ ร้อยละ 4.92 ระบุว่า เป็นผู้มีอุดมการณ์ ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรี ร้อยละ 3.33 ระบุว่า สามารถสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 3.18 ระบุว่า ใช้ความรู้ความสามารถในการทำหน้าที่ ส.ว. อย่างเต็มที่ และร้อยละ 0.56 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงระดับความเชื่อมั่นต่อ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มาจากการสรรหา ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 พบว่า ประชาชน ร้อยละ 16.28 ระบุว่า มีความเชื่อมั่นมาก ร้อยละ 29.95 ระบุว่า ค่อนข้างมีความเชื่อมั่น ร้อยละ 36.46 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่น ร้อยละ 14.93 ระบุว่า ไม่มีความเชื่อมั่นเลย และร้อยละ 2.38 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ โดยผู้ที่ระบุว่า ค่อนข้างมีความเชื่อมั่น – มีความเชื่อมั่นมาก ได้ให้เหตุผลว่า ประเทศไทยขาดอิสระภาพความเป็นประชาธิปไตยมานาน การสรรหาครั้งนี้น่าจะได้บุคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ที่ดี มาช่วยในการพัฒนาบริหารประเทศ ส่วนผู้ที่ระบุว่า ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่น – ไม่มีความเชื่อมั่นเลย ให้เหตุผลว่า ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในแนวทางที่ประชาชนมีส่วนร่วม เกรงว่าจะเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง มากกว่าเข้ามาทำเพื่อประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"