สหรัฐส่งคืนโบราณวัตถุของไทยเพิ่มอีก 38รายการ 


เพิ่มเพื่อน    

31ต.ค.61- สหรัฐส่งคืนโบราณวัตถุของไทยเพิ่มอีก 38 รายการ พิสูจน์แล้วมีต้นกำเนิดในไทย ส่วน’หนองหงส์-เขาโล้น’ยังสู้ต่อ สั่งกรมศิลป์เพิ่มข้อมูลพยานบุคคล-วิเคราะห์เนื้อหิน    ‘วีระ’เผยชิ้นส่วนพระพุทธรูปโผล่อังกฤษ คาดศิลปะลพบุรีอายุกว่า 800 ปี เตรียมตรวจสอบ ก่อนส่งหนังสือขอส่งคืนกลับไทย

คณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยจัดการประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยครั้งที่ 3/2561 ณ ห้องประชุมใหญ่ สำนักหอสมุดแห่งชาติ โดยมีนายวีระ  โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมฯ นายวีระ เปิดเผยว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยในรัฐบาลชุดนี้ได้รับโบราณวัตถุคืนแล้ว 6 ครั้ง  โดย 5 ครั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกา และ 1 ครั้งจากประเทศออสเตรเลีย รวมโบราณวัตถุที่ได้คืนจำนวน 705 รายการ อีกทั้งที่ประชุมมีมติรับทราบกรณีชาวต่างและคนไทยในสหรัฐอเมริกามีความประสงค์ที่จะส่งคืนโบราณวัตถุที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศไทย 2 กรณี โดยรายที่ 1 จำนวน 16 รายการ และรายที่ 2 จำนวน 22 รายการ รวมทั้งหมด 38 รายการ ได้แก่ กรณีนางลิเซต คริสเตียนเซน  ประสงค์ส่งคืนโบราณวัตถุ 16รายการ กลับคืนสู่ประเทศไทย โดยแจ้งว่า นายดอน คริสเตียนเซน  บิดาของสามี เป็นผู้สะสมโบราณวัตถุ และได้ซื้อโบราณวัตถุดังกล่าว เมื่อครั้งเป็นนักการทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงจาการ์ตา ซึ่ง ดร.จอยซ์ ไวท์  ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะบ้านเชียง และผู้อำนวยการ Institute for Southeast Asian Archaeology มหาวิทยาลัย Pennsylvania ได้พิจารณาเบื้องต้นจากภาพถ่ายโบราณวัตถุดังกล่าว มีความเห็นว่า เป็นรูปแบบโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมบ้านเชียง แต่ไม่สามารถระบุจากภาพถ่ายได้ว่ามีการลงสีใหม่หรือซ่อมแซมหรือไม่ โดยเสนอแนะให้ส่งคืนให้กับประเทศไทย
สำหรับโบราณวัตถุ 16 รายการ ได้แก่ กำไลสำริด 3 รายการ, ชิ้นส่วนกำไลสำริด 1 รายการ ,กระดิ่งสำริด 1 รายการ ภาชนะดินเผา 8 รายการ ,ลูกกลิ้งดิน 3 รายการ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการด้านวิชาการฯ ได้ศึกษาโบราณวัตถุ 16 รายการแล้ว มีความเห็นว่าเป็นโบราณวัตถุที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศไทยและควรนำกลับสู่ประเทศไทย   โดยที่ประชุมมติเห็นชอบให้รับคืนโบราณวัตถุกลับสู่ประเทศไทย 

นายวีระ กล่าวต่อว่า อีกกรณี นพ. ศานติ วิบูลมงคล ชาวไทยที่อาศัยในสหรัฐอเมริกา ประสงค์ส่งคืนโบราณวัตถุ 22 รายการ กลับคืนสู่ประเทศไทย โดยแจ้งว่าตนได้รับมอบมาจากทายาทของผู้ครอบครองซึ่งถึงแก่กรรม ทั้งนี้ เชื่อว่าเป็นโบราณวัตถุที่นำออกมาจากประเทศไทยเมื่อประมาณ 40 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากพิจารณาจากกระดาษหนังสือพิมพ์ไทยที่ใช้ห่อโบราณวัตถุดังกล่าว ระบุวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 ซึ่ง ดร.จอยซ์ ไวท์ ได้ตรวจสอบแล้วเห็นสมควรให้ส่งคืนประเทศไทย สำหรับโบราณวัตถุ 22 รายการ ได้แก่ ภาชนะดินเผา 20 รายการ ช้อนดินเผา 1 รายการ เบ้าดินเผา 1 รายการ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการด้านวิชาการฯ ได้ศึกษาโบราณวัตถุ 22 รายการแล้ว มีความเห็นว่าเป็นโบราณวัตถุที่มีแหล่งกำเนิดในไทยและควรนำกลับสู่ไทย ทั้ง 2 กรณีรวมโบราณวัตถุ 38 รายการ คาดว่าจะได้รับคืนกลับสู่ประเทศไทยเร็วๆนี้

นายวีระ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการด้านวิชาการเพื่อติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งได้ศึกษาโบราณวัตถุ 47 รายการ จากบัญชีโบราณวัตถุ 133 รายการ  พบว่า มีโบราณวัตถุ 41 รายการจากหลายยุคสมัย ที่มั่นใจว่า มีแหล่งกำเนิดในประเทศไทย ได้แก่ ประติมากรรมกลุ่มประโคนชัย 9 รายการ อาทิ พระโพธิสัตว์ไมเตรยะ 4 กร, พระโพธิสัตว์ไมเตรยะ,       พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นต้น ประติมากรรมกลุ่มศรีเทพ 2 รายการ ได้แก่ เศียรพระกฤษณะ (หรือพระวิษณุ), เศียรพระหริหระ ประติมากรรมศิลปะทวารวดี 30 รายการ อาทิ พระพิมพ์ภาพพระพุทธรูปปางสมาธิ, พระพิมพ์พระพุทธรูปปางสมาธิใต้ต้นโพธิ์, พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม, เศียรพระพุทธรูป, พระพุทธรูปปางนั่งแสดงธรรม พระพุทธรูปนั่งปางสมาธิ, พระพุทธรูปประทับเหนือพนัสบดี, ศีรษะบุรุษ เป็นต้น ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กรมศิลปากร (ศก.) จัดทำหนังสือไปถึงสำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ  (Homeland Security Investigations; HSI) สหรัฐอเมริกา เพื่อติดตามทวงคืนโบราณวัตถุ 41 รายการ กลับคืนสู่ไทยอย่างเป็นทางการ  อีก 57 รายการจากบัญชีโบราณวัตถุ 133 รายการ ให้เร่งศึกษาแหล่งที่มาและรายงานผลตามขั้นตอนต่อไป

รมว.วธ.กล่าวอีกว่า  นอกจากการทวงคืนโบราณวัตถุของประเทศไทยจากสหรัฐแล้ว ขณะนี้ยังได้รับการประสานงานจากคนไทยในสหราชอาณาจักร ซึ่งพบหลักฐานโบราณวัตถุชิ้นสำคัญเป็นชิ้นส่วนพระพุทธรูปตั้งโชว์อยู่ภายใน  SOAS University of London  หรือมหาวิทยาลัย SOAS  สหราชอาณาจักร  คาดว่าจะเป็นของไทย  โดยทางผู้แจ้งได้ส่งภาพถ่ายให้กรมศิลปากรตรวจสอบ เมื่อนำภาพมาเทียบเคียงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่อยู่ในยุคสมัยใกล้เคียงกัน ได้ข้อสันนิษฐานว่า  น่าจะเป็นพระพุทธรูปปางประทานอภัย ศิลปะลพบุรี  เป็นศิลปะแบบเขมรในประเทศไทย ราวพุทธศตวรรษที่ 18-19 หรือมีอายุมากถึง 700-800 ปี มาแล้ว  ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้มีการตรวจสอบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุของยุคดังกล่าวที่หายไป พร้อมทั้งศึกษารายละเอียดและหลักฐานของโบราณวัตถุที่พบ ภายใน มหาวิทยาลัย SOAS    เพื่อนำมาเทียบเคียงและสรุปผล ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการทวงคืนกลับสู่ประเทศไทยต่อไป    

รมว.วธ. กล่าวต่อว่า หลังจากตั้งคณะกรรมการติดตามฯ พบว่า แนวโน้มผู้ที่มีความประสงค์จะส่งคืนโบราณวัตถุกลับคืนไทยจะมีเพิ่มขึ้น มากกว่า 2 กรณีที่กล่าว เพราะรัฐบาลไทยเอาจริงแล้ว  ส่วนโบราณวัตถุที่กลับคืนสู่ไทยทุกรายการจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนการอนุรักษ์ จัดแสดงให้ความรู้ทั้งในส่วนกลางและแหล่งกำเนิดโบราณวัตถุ  ตลอดจนมอบหมายให้กรมศิลปากร (ศก.) จัดงานสัมมนาระดับชาติ เรื่องการติดตามโบราณวัตถุในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ เชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆ มาบรรยายถ่ายทอดความรู้แนวทางการดำเนินการ จากนั้นจะส่งกลับไปจัดแสดงถาวรยังแหล่งกำเนิดของโบราณวัตถุ

นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงความคืบหน้าทวงคืนทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้วจากสหรัฐว่า   ขณะนี้สำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ  สหรัฐ ตั้งอัยการขึ้นมาต่อสู้เรื่องนี้ เพราะทางพิพิธภัณฑ์ผู้ครอบครองโบราณวัตถุก็ตั้งอัยการสู้ และขอให้ไทยส่งหลักฐานเพิ่มเติม 4 ข้อ ประกอบด้วย1.ให้จัดทำหนังสือแจ้งว่าราชอาณาจักรไทยมีความพยายามอย่างจริงจังที่จะทวงคืน ซึ่งเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการติดตามทวงคืนขึ้นมา มี รมว.วธ. เป็นประธาน 2.ให้วิเคราะห์เนื้อหินเชิงวิทยาศาสตร์ ศก.นำตัวอย่างหินจากหนองหงส์และเขาหัวโล้นเพื่อรายงานผลต่อไป 3.นอกจากพยานหลักฐานภาพถ่ายแล้ว ให้จัดหาพยานบุคคลที่เคยเห็นทับหลังทั้งสองชิ้น ซึ่งตนสั่งการสำนักศิลปากรที่ 5 และสำนักศิลปากรที่ 10 ลงพื้นที่สัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้าน  4.ให้จัดส่งเอกสารแจ้งการครอบครองโบราณวัตถุ ต้องป้อนข้อมูลให้ครบ  

“ การต่อสู้เป็นเรื่องปกติ แต่กรมศิลปากรจะทำหน้าที่ยืนยันไปว่า ทับหลังสองชิ้นนี้มีแหล่งกำเนิดในประเทศไทย และนำออกนอกประเทศไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นสิ่งที่เราต้องยืนยัน  “ นายอนันต์ กล่าว

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"