ยูเอ็นพบหลุมศพหมู่เหยื่อไอเอสมากกว่า 200 หลุมในอิรัก คาดฝัง 12,000 ศพ


เพิ่มเพื่อน    

รายงานฉบับใหม่ของยูเอ็นเผยแพร่เมื่อวันอังคารเผยว่า ไอเอสขุดหลุมฝังศพขนาดใหญ่ไว้มากกว่า 200 หลุมในอิรัก คาดฝังร่างเหยื่อกว่า 12,000 ราย ที่อาจใช้เป็นหลักฐานสำคัญของการก่ออาชญากรรมสงคราม

แฟ้มภาพ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ชาวอิรักตรวจสภาพโครงกระดูกของชาวยาซิดีที่โดนไอเอสฆ่าหมู่ หลังจากกองกำลังชาวเคิร์ดพบหลุมศพใหญ่หลุมนี้ที่เขตซินจาร์ / AFP

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2561 อ้างข้อมูลใหม่ของภารกิจให้ความช่วยเหลืออิรักแห่งองค์การสหประชาชาติในอิรัก (ยูเอ็นเอเอ็มไอ) และสำนักงานด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นว่า  องค์กรได้รับเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับหลุมฝังศพรวมขนาดใหญ่ทั้งสิ้น 202 หลุม ในหลายพื้นที่ทางตะวันตกและทางเหนือของอิรักที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เข้ายึดครองระหว่างปี 2557-2560

    รายงานของยูเอ็นเตือนด้วยว่า การตรวจสอบที่ยังดำเนินต่อไปอีกหลายเดือนอาจพบหลุมศพแบบนี้เพิ่มอีก และเรียกร้องให้ทางการอิรักปกป้องดูแลและขุดหลุมเหล่านี้อย่างเหมาะสมเพื่อให้ครอบครัวของเหยื่อทำพิธีฝังให้เรียบร้อย

    ยาน คูบิส ผู้แทนยูเอ็นประจำอิรัก กล่าวว่า สถานที่ฝังศพรวมขนาดใหญ่ที่บันทึกไว้ในรายงานฉบับนี้เป็นบทพิสูจน์ชัดเจนถึงความสูญเสียชีวิตของมนุษย์อย่างน่าเจ็บปวดทรมาน ความทุกข์อย่างร้าวลึกและความโหดร้ายอันน่าตกใจ

     ไอเอสเข้ายึดครองดินแดนกว้างใหญ่ในอิรักเมื่อปี 2557 โดยใช้วิธีการกดขี่หลายรูปแบบเพื่อยึดครองและควบคุมดินแดนทางเหนือและตะวันตกของอิรัก ซึ่งรวมถึงการฆ่าหมู่นักรบอีกฝ่ายและพลเรือน

    ยูเอ็นกล่าวว่า หลุมศพหมู่เหล่านี้อาจเป็นวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่สำคัญยิ่งที่สามารถช่วยเปิดเผยรายละเอียดของการฝ่าฝืน รวมถึงระบุเอกลักษณ์บุคคลของเหยื่อการสังหาร

    คณะสอบสวนของยูเอ็นเริ่มรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมสงคราม, อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ไว้สำหรับศาลของอิรักใช้ในการพิจารณาคดีกับพวกนักรบไอเอส

    จากหลุมศพหมู่ 202 หลุมที่บันทึกไว้ในรายงานฉบับนี้ มีเพียง 28 หลุมที่เจ้าหน้าที่ทางการอิรักได้ทำการตรวจค้นและขุดศพขึ้นมาได้ 1,258 ศพ

    เกือบครึ่งของหลุมศพหมู่นี้พบที่จังหวัดนิเนเวห์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโมซุล ที่ไอเอสเคยยึดถือเป็นเมืองหลวงของรัฐอิสลามและพวกนักรบญิฮาดสุหนี่หัวรุนแรงสุดโต่งกลุ่มนี้เคยสังหารหมู่ชนกลุ่มน้อยชาวยาซิดี ข้าหลวงสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นเคยระบุว่า มีชาวยาซิดีสูญหายมากกว่า 7,000 คนที่นิเนเวห์

    หลุมอื่นที่เหลือนั้นพบในเมืองเคอร์คุกและซาลาเฮ็ดดินทางตอนเหนือของอิรัก หรือที่จังหวัดอันบาร์ในภาคตะวันตก

    รายงานกล่าวด้วยว่า หลุมขนาดใหญ่ที่สุดที่เมืองคัสฟาทางใต้ของโมซุลนั้นอาจฝังศพไว้ถึง 4,000 ศพ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"