ท้าวัดกันหลังปิดหีบ พท.-ปชป.ฉะคุยโต‘พปชร.’/‘อ๋อย’ลั่นกวาด251


เพิ่มเพื่อน    

  “ปชป.-พท.” ฉะคำโอ่ พปชร.กวาด ส.ส. 350 เก้าอี้ ชี้ต้องวัดหลังปิดหีบถึงรู้พรรคไหนใหญ่  “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข” ยกครัวเข้าพลังประชารัฐ ชี้ ปชช.ฉลาดเลือกพรรคตอบสนองดีสุด ไม่มีพลิก “จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ” ขนแกนนำ นปช.ในเพื่อไทยเข้าคอก “ไทยรักษาชาติ” ฟุ้งอุดมการณ์เดียวกัน พร้อมแก้กับดักสืบทอดอำนาจกวาดชัย 251 เสียง เต้นขออยู่สู้จนได้ ปชต. แย้มอดีต “บิ๊กทหาร-ทูต” เตรียมตบเท้าเข้าอีก “ภูมิธรรม” กัดฟันเชื่อ พท.ยังได้ที่หนึ่ง 

เมื่อวันจันทร์ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นำกลุ่มสามมิตร 60 คนเข้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมระบุว่ายิ่งใหญ่กว่าพรรคไทยรักไทย (ทรท.)  ในอดีตและจะกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้ถึง 350 เก้าอี้
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า คงได้สมัคร 350 คน ถ้าคนฟังฟังไม่ผิด คนที่พูดก็คงพูดผิด ส่วนจะเป็นความได้เปรียบของ พปชร.เพราะเป็นรัฐบาลนั้นก็อยู่ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลว่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำการเมืองที่ไม่ใช้อำนาจรัฐเข้ามาเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ เพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่เป็นวิกฤติทางการเมืองของไทยมาจนถึงปัจจุบัน ถ้า คสช.และรัฐบาลไม่ยึดถือหลักการนี้ ก็อยู่ที่ประชาชนจะยอมรับพฤติกรรมหรือไม่
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า นักการเมืองอย่าหลงตัวเอง คิดว่าพรรคของตัวเองใหญ่กว่าพรรคนั้นพรรคนี้ ในความเป็นจริงความใหญ่ของพรรคการเมืองไม่ใช่ดูจำนวนนักการเมืองก่อนวันเลือกตั้ง แต่หลังปิดหีบบัตรและสรุปผลการนับคะแนนวันนั้นถึงจะรู้ว่าพรรคไหนใหญ่ที่สุด มติของประชาชนต่างหากจะจัดขนาดของพรรคการเมือง 
“วันที่ 24 ก.พ.62 จะเป็นวันตอบโจทย์ของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า ว่าจะใช้สิทธิ์ของตัวเองสนับสนุนให้พรรคการเมืองใดใหญ่ที่สุด ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด” นางลดาวัลลิ์กล่าว
นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พท.และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวตำหนิกลุ่มสามมิตรว่า เป็นนักการเมืองที่ยอมเป็นนั่งร้านให้เผด็จสืบทอดอำนาจและได้ประโยชน์จากกติกา ส่วนที่มีการระบุว่า พปชร.ยิ่งใหญ่กว่าไทยรักไทยนั้น การเลือกตั้งสมัย ทรท.อยู่บนกติกาที่มาจากประชาธิปไตย ไม่ได้เขียนด้วยอำนาจเผด็จการ ดังนั้นคำว่ายิ่งใหญ่ของนายสุริยะคือยิ่งใหญ่ของระบบเผด็จการ ไม่ได้ยิ่งใหญ่ตามความหมายของประชาธิปไตยที่มาจากประชาชน และการจะยิ่งใหญ่หรือไม่อยู่ที่ประชาชนตัดสิน รอให้ถึงวันนั้นก่อนแล้วค่อยมาดูกันจะดีกว่าว่า พปชร.ที่เป็นตัวแทนเผด็จการกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยใครจะยิ่งใหญ่กว่ากัน
เชื่อ ปชช.ฉลาดเลือก
ยังคงมีความเคลื่อนไหวที่พรรค พปชร.ต่อเนื่อง โดยนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ภรรยาได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยนายปรีชากล่าวว่าที่เลือกมาทำงานกับ พปชร.เพราะนโยบายตอบโจทย์ ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้ประชาชน เพราะที่ผ่านมาประเทศชาติบอบช้ำมากว่า 10 ปี 
“ผมเล่นการเมืองมากว่า 30 ปี ไม่เคยเห็นความแตกแยกแบบนี้ สามีภรรยาและลูกอยู่กันคนละสี  แต่มั่นใจว่าวันนี้ประชาชนฉลาดที่จะตัดสินใจได้ว่าพรรคไหนนำนโยบายไปสู่ประชาชน โดยผมได้รับผิดชอบให้ดูแลพื้นที่ 5 จังหวัดภาคอีสานตอนบน ซึ่งมี ส.ส. 19 คน ไม่มีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนโดยเฉพาะ จ.เลย เชื่อว่าจะได้รับการรับเลือกยกทีมทั้ง 3 เขต และไม่กังวลว่าพื้นที่ภาคอีสานจะไม่เอาทหาร เพราะพรรคขับเคลื่อนด้วยนโยบายเป็นหลัก" นายปรีชากล่าว
ต่อมานายสดใส รุ่งโพธิ์ทอง นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคชาติไทยพัฒนา  และนายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคพลังประชาชน เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิก พปชร.ด้วย
ขณะเดียวกันที่พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรค พท.ได้เดินทางมาอำลา  พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค เพื่อไปร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โดยระบุว่าไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งหรืออึดอัดไม่สบายใจ ที่ผ่านมาร่วมงานกันด้วยดีมาตลอด 
    นายภูมิธรรมยอมรับว่า สาเหตุที่มีสมาชิกพรรคลาออกไปนั้นเนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเรา เป็นธรรมดาที่สมาชิกต้องหาเส้นทางเพื่อมาทำงานทางการเมืองตามระบบรัฐสภา  แม้จะรู้สึกใจหายที่สมาชิกลาออกไปจำนวนมาก แต่เชื่อว่าพรรคจะยังคงได้รับความนิยมจากประชาชนได้คะแนนเสียงสูงสุดเป็นอันดับ 1 จึงไม่กังวลใดๆ โดยนอกจากนายจาตุรนต์ที่ลาออกแล้ว ยังมีสมาชิกที่ลาออกอีก อาทิ น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองเลขาธิการพรรค, นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, นางฐิติมา ฉายแสง อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ และ น.ส.กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม 
ต่อมาที่พรรค ทษช.ย่านแจ้งวัฒนะ นายจาตุรนต์, นายวุฒิพงศ์, นางฐิติมา, นางอนุตตมา, นายนิคม  ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา, นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าฯ รฟม., นายประเสริฐ พัฒนผลไพบูลย์, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง  แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายกลุ่ม นปช.ได้เข้าสมัครสมาชิกก่อนตั้งโต๊ะแถลงข่าว
     โดยนายจาตุรนต์ระบุว่า การลาออกจากเพื่อไทยไม่ได้ขัดแย้งหรือมีปัญหาความแตกต่างทางอุดมการณ์หรือนโยบาย แต่สถานการณ์ประเทศอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คือฝ่ายเผด็จการต้องการสืบทอดอำนาจกับฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งโจทย์คือจะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจได้อย่างไร หากหยุดยั้งไม่ได้ ประเทศไทยอาจตกอยู่ภายใต้ คสช. 10-20 ปี เพราะรัฐธรรมนูญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเขา รวมทั้งพรรคการเมืองใหญ่ถูกสกัดไม่ให้มีเสียงข้างมาก เป็นประตูกลเป็นกับดักที่เล่นงาน เมื่อเรารู้เท่าทัน เราเชื่อว่าสามารถทำให้พรรคการเมืองพ้นและฝ่าจากกับดักนี้ไปได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสฝ่ายประชาธิปไตย ลดโอกาสที่เขาจะสืบทอดอำนาจ 
อ๋อยโวกวาด 251 เก้าอี้   
“ที่มาร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ เนื่องจากได้รวมผู้สนใจ มีวิสัยทัศน์มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยตรงกัน ไม่ใช่เพราะหนีกับดักส่วนตัว แต่ต้องการพัฒนาบ้านเมืองด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ๆ เพื่อให้พรรคนี้เป็นยานพาหนะที่ทำให้พรรคนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยหลีกเลี่ยงกับดักที่ออกแบบไว้  เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางพัฒนาประเทศร่วมกัน โดยตั้งเป้านำพาพรรคในฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ 251 เสียง” นายจาตุรนต์ระบุ
       นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตลอดเวลาที่ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยมีแต่ความรักอบอุ่น ถึงทุกวันนี้ก็รู้สึกดีไม่เสื่อมคลาย โดยได้พูดคุยกับหัวหน้าและกรรมการบริหาร ทษช.ต่างมองไปในทางเดียวกันในการต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตย จึงเดินทางมาพรรคนี้โดยไม่มีเงื่อนไข ข้อเรียกร้อง สถานะใดๆ แต่ขอเพียงอย่างเดียวไทยรักษาชาติต้องไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืน หลักการ และหวังว่าประชาชนจะให้โอกาส ทษช. แม้เป็นพรรคใหม่แต่จิตวิญญาณยังคงเดิม ชอบที่พรรคนี้เป็นศูนย์รวมของคนมีความคิดทันสมัยบนรากฐานประชาธิปไตย
      เมื่อถามว่าคนเสื้อแดงมีทั้งไปอยู่ทั้งพรรคเพื่อชาติ (พ.พ.ช.) และ ทษช. นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นปช.ได้หารือจะไม่ตั้งพรรคการเมืองในนาม นปช. ส่วนสมาชิกจะไปร่วมงานพรรคใดถือเป็นเสรีภาพ ตราบใดยืนยันตามหลักประชาธิปไตยก็ถือเป็นแนวร่วม แต่ถ้าใครไปร่วมกับฝ่ายเผด็จการถือว่าขาดกัน ข้อเท็จจริงที่เคยพูดไว้วันนั้นยังยืนยันมาถึงทุกวันนี้ นายจตุพรไปเป็นกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ เรามาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เป็นความขัดแย้ง เพราะไม่ได้ไปร่วมงานกับพรรคใดในนามองค์กร นปช.
    ต่อมาเฟซบุ๊กแฟนเพจนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้เผยแพร่คำชี้แจงของนายณัฐวุฒิกรณีย้ายพรรคเพื่อไทยเข้าสังกัด ทษช. โดยระบุว่าจะร่วมภารกิจทางการเมืองกับพรรคไทยรักษาชาติตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผ่านการเลือกตั้ง หลังการเลือกตั้ง จนกว่าบ้านเมืองจะกลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตย
    รายงานข่าวจาก ทษช.แจ้งว่า ในวันที่ 20 พ.ย. เวลา 11.00 น. พล.อ.ยศนันทน์ หร่ายเจริญ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รอง ผบ.ทสส.) จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค นอกจากนี้ยังจะมีอดีตนายทหารอากาศและอดีตนักการทูตเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกด้วยเช่นกัน
    มีรายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมายังประเทศสิงคโปร์และยังปักหลักอยู่อีกระยะ นอกจากจะมีอดีต ส.ส.เพื่อไทยบางคนเดินทางไปร่วมหารือถึงการกำหนดยุทธศาสตร์เลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้าแล้ว ยังต้องรอต้อนรับครอบครัวของคู่หมั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กที่จะมาสู่ขออย่างเป็นทางการด้วย
วันเดียวกันในกิจกรรมเดินคารวะแผ่นดินของพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ในวันที่ 24  ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ร่วมจัดตั้งพรรค รปช.พร้อมแกนนำ รปช.ได้เดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเริ่มเดินเชิญชวนประชาชนที่บริเวณตลาดแขก และบริเวณย่านท่าวัง โดยมีนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ปชป. และนายยุทธพันธุ์ มีชัย  อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ร่วมเดินด้วย
ทั้งนี้ นายจิมมี่ ชวาลา มหาเศรษฐีเจ้าของร้านขายผ้าชื่อดังของ จ.นครศรีธรรมราช ได้มารอพบนายสุเทพและพากันเข้าร้าน ซึ่งนายจิมมี่กล่าวให้กำลังใจว่า “สู้ๆ และขอให้ทุกคนอดทน และสู้เพื่อประชาชนต่อไป อย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง"
มาร์คลั่นเลี้ยงข้าวได้
ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีมอบหมายให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค สอบข้อเท็จจริงกรณีนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา เปิดบ้านให้นายสุเทพใช้สาขาพรรคหาสมาชิกว่า เรื่องนี้นายนิพิฏฐ์จะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้นและจะรายงานมา แต่ต้องย้ำว่าการที่สมาชิกพรรคไปต้อนรับบุคคลที่มีความผูกพันไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ไม่เป็นปัญหา แต่ประเด็นที่ต้องระมัดระวังคือ การทำกิจกรรมร่วมกับพรรคการเมืองอื่น เพราะมีคนของประชาธิปัตย์ไปเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีเรื่องวินัยพรรค และเป็นประเด็นข้อกฎหมายด้วย 
ถามอีกว่าล่าสุดมีกรณีที่นายวิทยาไปร่วมเดินหาสมาชิกกับนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่ายังไม่ได้ยินข่าว ได้ยินแค่ว่ามีการเลี้ยงข้าว ซึ่งย้ำไปแล้วว่าการต้อนรับไม่มีปัญหา แต่การเกี่ยวข้องกับกิจกรรมพรรคการเมืองอื่นคือปัญหา ทุกคนต้องเข้าใจง่ายๆ ไม่ซับซ้อน คงไม่ต้องย้ำอะไร เพราะกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว  
ส่วนนายธนา ชีรวินิจ โฆษก ปชป.กล่าวถึงกรณีผลโพลมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา  ที่โหวตให้นายอภิสิทธิ์เหมาะเป็นนายกฯ มากที่สุด และจะเลือก ปชป.มากที่สุด ว่าขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจ ซึ่งคะแนนนิยมที่มอบให้นายอภิสิทธิ์และ ปชป.มาจากเหตุผลที่นายอภิสิทธิ์ทำงานการเมืองมา 27 ปี โดยยึดหลักผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ทำงานการเมืองอย่างโปร่งใส ให้ความเคารพหลักกฎหมายและประชาชน แต่ที่ผ่านหลายพรรคทำเพื่อคะแนนนิยมและจำนวน ส.ส. ไม่ว่าจะแตกพรรคหรือสาขาพรรค เป็นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมาย และคิดว่าเป็นเรื่องที่พี่น้องไม่น่าจะยอมรับ ดังนั้น ปชป.จึงยืนยันว่าจะมีพรรคเดียว มี ปชป.เป็นหลักเท่านั้น
“ที่สำคัญนายอภิสิทธิ์ติดดิน สัมผัสได้ กระแสนักเรียนคนนอกหายไปแล้ว และเชื่อมั่นที่สุดว่านายอภิสิทธิ์จะสามารถเป็นผู้นำระดับโลกและภูมิภาคได้อย่างสง่างาม” นายธนากล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"