25 พ.ย.61- นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)คนที่ 2 กล่าวถึงกรณี นายพิชญุตม์ พอจิต นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอุตรดิตถ์ และนายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต บุตรชายและลูกเขย สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า เป็นการตัดสินใจของคนหนุ่ม ทั้งคู่จบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ มีความคิดความอ่านของตัวเอง นายพิชญุตม์ บุตรชาย เป็นนายกสมาคมกีฬาอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย สนใจเรื่องกีฬาและเรื่องท้องถิ่น นายสายสิทธ์ เขาเป็นนักกฏหมาย ถนัดกฏหมายมหาชน เป็นนักกฎหมาย ความจริงทั้งคู่ ศึกษาแนวทางทางการเมืองไว้หลายพรรคเหมือนกัน ทั้งเพื่อไทย  ประชาธิปัตย์ หรือพรรคอื่นๆ ตนไม่เคยปิดกันเลยเขาจะอยู่พรรคไหนก็ได้ 

เมื่อถามว่ามีสนช.ลงพื้นที่ โซนภาคเหนือไปจัดผู้สมัคร ส.ส.ส่งให้พรรคพลังประชารัฐ ใช่หรือไม่ นายพีระศักดิ์ ปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวกัน ตนลงพื้นที่ไปจริงๆแต่ไปเน้นรับฟังปัญหาตามโครงการสนช.พบประชาชนตามวิถีไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งสนช.คนอื่นๆก็ไปด้วยตลอด ไปทุกภาคด้วย ไม่ใช่เเค่ภาคเหนือ เหตุใดไม่ถามถึงเนื้องานบ้าง ว่าลงไปแล้วรับฟังปัญหาส่งต่อให้รัฐบาลได้เท่าไหร่ ยกตัวอย่างขณะนี้ ฝ่ายการเมืองที่ไม่ชอบรัฐบาลคสช.ก็โจมตีว่า โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เท่าที่ตนลงพื้นที่ ชาวบ้านเเทบทุกภาคเขาตอบรับ และพอใจ ในการเห็นความสำคัญของเขา ไม่ทอดทิ้งเขา หลายพื้นที่ยังฝากเรื่องนี้ไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและหัวหน้าคสช.เลย .