ชงช็อปช่วยชาติ แตกต่างปีก่อน แนะให้ถึงSME


เพิ่มเพื่อน    

 คลังเตรียมชง ครม.เคาะมาตรการช็อปช่วยชาติ ยันแนวทางดำเนินงานแตกต่างจากปีที่ผ่านมา นักวิชาการแนะออกมาตรการให้ครอบคลุมถึงกลุ่มเอสเอ็มอีและประชาชนในต่างจังหวัดด้วย  ด้าน ธพว.จ่อผุดของขวัญปีใหม่เอาใจกลุ่มอาชีพอิสระ พร้อมแถลงความชัดเจนสัปดาห์หน้า

     เมื่อวันจันทร์ นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงมาตรการช็อปช่วยชาติว่า คาดว่าจะสามารถเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติมาตรการ เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศได้ภายในวันที่ 4 ธ.ค.61 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดของมาตรการอยู่ ซึ่งแนวทางการจัดทำมาตรการจะแตกต่างจากปีก่อน
      นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มาตรการช็อปช่วยชาติที่รัฐบาลเตรียมนำออกมาใช้นั้น ควรให้ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและประชาชนในต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรม และสินค้าเกษตรเป็นหลัก
     "หากพิจารณาจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยในขณะนี้เริ่มเดินหน้าไปได้ ดังนั้นการผลักดันมาตรการช็อปช่วยชาติเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ ควรให้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มประชาชนในต่างจังหวัด และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวนมากให้สามารถเข้าถึงมาตรการด้วย เพราะมองว่าผู้ประกอบการในเมืองไปจนถึงหัวเมืองหลักๆ ยังมีความสามารถในการประคับประคองธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งอาจจะต่างจากผู้ประกอบการในต่างจังหวัด ดังนั้นจึงอยากเสนอว่ามาตรการช็อปช่วยชาติที่จะออกมาครั้งนี้ควรเปิดโอกาสให้กลุ่มเอสเอ็มอีได้รับประโยชน์ไปด้วย" นายธนวรรธน์กล่าว
     นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ โดยยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน
     โดยหลักการเบื้องต้นของมาตรการที่เตรียมจะมอบเป็นของขวัญปีใหม่นั้น จะเป็นมาตรการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรองรับกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่ได้มีการลงทะเบียนประมาณกว่า 2  ล้านราย และผู้ประกอบการในกลุ่มคนตัวเล็กให้สามารถเดินหน้าธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล้มแล้วลุก และสามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งมาตรการที่เตรียมจะออกมานี้จะเป็นมาตรการถาวร ไม่ใช่มาตรการชั่วคราว  และเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องการได้รับความช่วยเหลืออยู่แล้ว
      "ในกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่ได้ลงทะเบียนกว่า 2 ล้านรายนั้น มีทั้งผู้ประกอบการอิสระที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาด กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กลุ่มที่ไม่มีสวัสดิการ ซึ่งรวมไปถึงผู้ประกอบการแท็กซี่ด้วย แต่รายละเอียดของมาตรการขอยังไม่ตอบตอนนี้ เพราะต้องรอความชัดเจนทั้งหมดก่อน" นายมงคลกล่าว
      ก่อนหน้านี้มีรายงานจากกระทรวงการคลังระบุว่า ธพว.เตรียมจะออกโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมและยกระดับผู้ประกอบการแท็กซี่ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เฉลี่ยภาระค่าผ่อนเพียงวันละ 300 บาท มีระยะเวลา 7 ปี ซึ่งถูกกว่าค่าเช่าแท็กซี่แบบรายวันตกวันละ 700-800 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าแท็กซี่ที่เข้าโครงการจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เช่นการไม่ปฏิเสธลูกค้า ซึ่งจะมีเครื่องมือตรวจสอบ และหากตรวจสอบพบว่ามีการปฏิเสธลูกค้าก็จะให้ออกจากโครงการทันที เบื้องต้นกำหนดเป้าหมายเป็นแท็กซี่ที่ทะเบียนจะหมดอายุซึ่งมีประมาณ 1 หมื่นคัน สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอสินเชื่อในโครงการนี้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายใน 1-2 เดือนหลังจากกระทรวงการคลังและ ครม.เห็นชอบ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"