ฟังนะ สช.พูดชัด ๆ"เอสไอเอสบี"ต้องเสียภาษี!!!


เพิ่มเพื่อน    


     

"เลขาฯ สช." แจงกรณีเอสไอเอสบี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  ในฐานะผู้ได้รับอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน แต่ในฐานะเป็นบริษัท จะต้องเสียภาษี ตามกฎหมายกำหนด ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีแต่อย่างใด  ยังยืนยันไม่มีโรงเรียนแห่งใด เข้าขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้  ยันยังดูแลค่าเล่าเรียนเอกชนไม่ให้ผู้เรียนเดือดร้อน

นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ออกมาคัดค้านการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของบริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจโรงเรียนเอกชน เนื่องจากมองว่าธุรกิจโรงเรียนเอกชนมีสิทธิพิเศษที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีต่างๆ อันเป็นการให้ความช่วยเหลือด้านศึกษาจากภาครัฐโดยเงินประชาชนของผู้เสียภาษี ว่า ปกติแล้วไม่ว่าโรงเรียนไหนก็ไม่สามารถนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ แต่ในกรณีที่เกิดเป็นข้อถกเถียงกันในขณะนี้  ผู้ที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทเอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้ถือใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนเอกชน กฏหมายไม่ได้ห้ามบริษัทหรือเป็นนิติบุคคลอื่นๆ จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น จึงไม่ผิดอะไรที่บริษัทจะไปจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ในกรณีผู้ที่ถือใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน ได้รับประโยชน์จากการประกอบการบริษัทนั้นๆ ก็จะต้องเสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้รับการยกเว้นเรื่องภาษีแต่อย่างใด 


"หลายคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเอาโรงเรียนไปเข้าตลาดหลักทรัพย์ จริงๆแล้วไม่ว่าโรงเรียนไหนก็ไม่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ แต่ที่เขาทำในขณะนี้คือผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนเป็นบริษัท และบริษัทดังกล่าวก็อาจจะประกอบธุรกิจหลากหลายประเภทไม่เฉพาะด้านการศึกษา จึงไม่มีข้อห้ามใดที่บริษัทจะเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ "นายชลำกล่าว

 เลขาธิการสช.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เมื่อเกิดกระแสและข้อสงสัยเกิดขึ้นในสังคม ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ สช.จะต้องทำความเข้าใจว่ากระบวนการบริหารงานโรงเรียนเอกชนเป็นอย่างไร แม้จะมีคณะกรรมการบริหารโรงเรียนคอยกำกับดูแลโรงเรียนเอกชนอยู่แล้ว แต่ สช.ก็เข้าไปช่วยกำกับดูแลด้วย และยิ่งหากมีผู้ร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากโรงเรียนเอกชน ซึ่งที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนเข้ามาตกเดือนละ 80-90 เรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการศึกษา หากสูงเกินไป สช.ต้องไปติดตามตรวจสอบให้ลดลงในอัตราที่เหมาะที่ควร เพราะกฏหมายกำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าผู้ประกอบธุรกิจด้านการศึกษาจะต้องไม่แสดงหาผลประโยชน์เกินควร
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"