เรียนหัวหน้าคสช. 'จตุพร' บอกท่านสิ้นความสง่างามนั่งหัวโต๊ะถก 7 ธ.ค.


เพิ่มเพื่อน    

 4 ธ.ค. 61 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์หัวข้อ "เรียน หัวหน้า คสช. กรณี ถกพรรคการเมือง 7 ธ.ค. 61" ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หมดความสง่างามที่จะนั่งเป็นประธานในที่ประชุม

นายจตุพรให้เหตุผลว่า เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นบุคคลที่ถูกพรรคพลังประชารัฐเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีบัญชีคนที่ 1 เพื่อแข่งขันระหว่างการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้น หากตามกำหนดเดิมเป็น 24 ก.พ. 2562 ยังไม่ถูกเลื่อนออกไป

“ผมย้ำมาตลอดว่า ถ้ากรรมการประสงค์เป็นผู้เล่นต้องลาออก รวมทั้งควรยอมรับความจริงว่า กกต. (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) อยู่ใต้อำนาจ ม.44 ของหัวหน้า คสช.สามารถถูกปลดออกเมื่อไรก็ได้ เพื่อเอาเปรียบพรรคอื่น และเมื่อเป็นคู่แข่งขันนายกฯ เป็นตัวแทนของพรรคแล้ว ผมว่าพรรคการเมืองจึงยากจะยอมรับได้”

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าเวทีประชุมพรรคการเมือง 7 ธ.ค.นี้ ให้พรรคมารับฟังอย่างเดียว ไม่เปิดโอกาสให้แสดงความเห็นแล้ว ไม่แตกต่างจากการสั่งให้มาฟังคำสั่ง ม.44 ซึ่งอยู่ที่ไหนสามารถฟังได้ ไม่จำเป็นต้องเข้ามาร่วมประชุมด้วยแต่อย่างใด

“ผมเรียกร้องให้คุยกันหาทางออก แต่เมื่อให้มาฟังฝ่ายเดียว ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ท่านคงเคยชินกับการพูดฝ่ายเดียว อีกทั้งเมื่อเรียกร้องประเทศต้องการความสงบของบ้านเมือง แต่ทุกองคาพยพต้องคิดหาทางออกกันด้วย ดังนั้น ประชุม 7 ธ.ค.จะมีประโยชน์อะไร เมื่อมาฟังอย่างเดียวไม่ได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนด้วย และโอกาสรับฟังจากพรรคการเมืองได้เสียโอกาสไปแล้ว พรรคไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชา จึงมีสิทธิ์แสดงความเห็นได้”

ประธาน นปช.ย้ำว่า ควรเริ่มต้นปรับทัศนคติ โดยเอาชาติเป็นที่ตั้ง ให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ การพูดกับพรรคการเมืองโดยฟังอย่างเดียว ตนไม่สนับสนุน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯของ พปชร.แล้วสถานะทางการเมืองเปลี่ยนไป ความชอบธรรมเป็นกรรมการก็ไม่เหลืออีกต่อไป

“ผมมีจุดยืนประชาธิปไตยชัดเจน เป็นประชาธิปไตยภายใต้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไม่เปลี่ยนแปลง ผมเห็นว่า ถ้ายังใช้แต่คำสั่งกัน ย่อมหาความสงบได้ยาก สิ่งสำคัญสถานการณ์การเมืองขณะนี้ถูกแบ่งฝ่ายชัดเจน เป็นฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการ หรือฝ่ายประยุทธ์กับไม่อาประยุทธ์ แต่ขณะเดียวกันยังมีพรรคการเมืองบางพรรคได้เปรียบพรรคอื่นอย่างมาก เช่นนำชื่อนโยบายรัฐบาลไปตั้งชื่อพรรคยังไม่เป็นไรด้วย”

นายจตุพร กล่าวว่า คนไทยต้องการความสงบนั้นเป็นความจริง ต้องการเลือกตั้งเป็นความจริง อยากได้รัฐบาลมาแก้ปัญหาปากท้องก็เป็นความจริง จึงอยากให้มีการปรับทัศคติวันประชุม 7 ธ.ค.นี้ใหม่ โดยไม่ให้มีการฟังฝ่ายเดียว แต่พรรคการเมืองสามารถร่วมแลกเปลี่ยน พูดคุยกันได้

“เลือกตั้งครั้งนี้จะเอวัง ถ้าไม่สุจริตและไม่เป็นเที่ยงธรรม หวังว่าหัวหน้า คสช.คงได้ปรับทัศนคติการประชุม ไม่ใช่แค่ให้ไปฟังการระบายของใคร คนใดคนหนึ่ง” นายจตุพร ระบุ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"