อยุธยาสืบสานศาสตร์พระราชา “รักษามรดกโลก-พัฒนาเกษตรไทย”ยั่งยืน


เพิ่มเพื่อน    

ประเทศไทย แม้จะไม่ใช่ประเทศที่ร่ำรวยมหาศาล แต่ก็ถือเป็นประเทศที่โชคดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกที่มี “ศาสตร์พระราชา” ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้เป็นมรดกทางความรู้แก่พสกนิกรชาวไทย เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ครอบคลุมทุกมิติอย่างรอบด้าน

 

             

นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ศาสตร์พระราชาของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นองค์ความรู้ที่ว่าด้วยวิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นหลักการพัฒนาที่ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเกษตร สังคม เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม

             

ทั้งนี้ในฐานะที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่ได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ขณะเดียวกันยังจัดเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมมูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ  โดยมีปัจจัยพื้นฐานจากการเป็นแหล่งผลิตทางการเกษตร มีการส่งเสริมการจัดทำฟาร์มมาตรฐาน GAP พืชอาหาร ได้แก่ ข้าว พืช ผัก และผลไม้ รวมทั้งส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยของผู้บริโภคตั้งแต่ต้นนำไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งกระบวนการพัฒนาต่างๆเหล่านี้ เป็นการดำเนินการโดยน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” มาเป็นแนวทาง จนสามารถสร้างความสมดุลในการพัฒนาด้านการเกษตร เศรษฐกิจ และสังคม ให้เกิดขึ้นในจังหวัดได้อย่างสมดุล มั่งคง และยั่งยืน

 

             

ดังนั้น เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ รวมทั้งเพื่อเป็นการเผยแพร่และสืบสานศาสตร์พระราชา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย สำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้น้อมนำแนวพระราชดำรัสและพระราชดำริต่างๆ มาขยายผลสู่การจัดกิจกรรมในหัวข้อ “สืบสานศาสตร์พระราชา อยุธยามรดกโลก พัฒนาเกษตรไทยยั่งยืน” ภายในงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ในระหว่างวันที่ 7-16 ธันวาคม ณ อุทยานประวัติศาสตร์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

             

ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวต่อว่า งาน “สืบสานศาสตร์พระราชา อุธยามรดกโลก พัฒนาเกษตรไทยยั่งยืน” เป็นการน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” ด้านต่างๆ มาจัดแสดงเป็นนิทรรศการมีชีวิตในหัวข้อ “ตามรอยศาสตร์พระราชา พัฒนาเกษตรไทยยั่งยืน (นวัตกรรมเกษตรทฤษฎีใหม่)” รวมทั้งการแสดงผลงานวิจัย นวัตกรรม และเครื่องจักรกลทางการเกษตร จากหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน โดยแยกเป็นหมวดหมู่ อาทิ ด้านการบริหารจัดการดิน น้ำ พืช และปศุสัตว์ พร้อมกับการจัดการแสดงสวนไม้ดอก ไม้ประดับ ในรูปแบบ Flower Festival” ซึ่งเป็น Land Mark ขนาดใหญ่และสวยงาม กระจายอยู่รอบบริเวณงานเพื่อให้ประชาชนได้เยี่ยมชม ถ่ายภาพ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกันภายในงาน

             

ขณะเดียวกัน ยังได้มีการจัดแสดงสินค้าพร้อมจำหน่ายทั้งพืชพันธุ์ไม้ผล พืชผัก ไม้ดอก ไม้ประดับ ปศุสัตว์ ประมง และสินค้าแปรรูปทางการเกษตรปลอดภัย จากลุ่มเกษตรกรในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงอีกนับร้อยรายการ เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางการตลาดให้เกษตรกร เพื่อสร้างแรงจูงให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและมาตรฐานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องต่อไป

             

นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มีกิจกรรมการประกวดผลผลิตทางการเกษตรด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ การแข่งขันทำอาหารพื้นบ้าน การอบรมอาชีพระยะสั้น ขณะที่บนเวทีก็มีกิจกรรมบันเทิงมากมาย อาทิ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของสถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการจัดแสดงจากศิลปิน ดารา และ Copy Show อีกมากมาย เช่น ชาลีโชว์, บุ๋มสุกานดา, ดนตรีวงซีนเดอร์เดล่า, Copyshow ปาล์มมี่, Copyshow ชัยยา มิตรชัย Vs Copyshow ป็อป แคลอลี่บาบา, ดนตรี จิน เดอะวอยส์, และ Copyshow ติ๊กชีโร่ Vs มัมลาโคนิค เป็นต้น

             

ขณะที่กิจกรรมที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญอีกกิจกรรมหนึ่งของงาน คือ “การประกวดปลากัดพื้นบ้านไทย มรดกไทย มรดกโลก” โดยจะมีการนำปลากัดพื้นบ้านประจำภาค 4 ชนิดของประเทศไทย จำนวน 52 ตัวมาจัดแสดงโชว์ พร้อมจัดการประกวดปลากัดพื้นบ้านชิงถ้วยรางวัล 21 รางวัล และเหรียญรางวัลอีก 35 เหรียญ

             

“สิ่งที่ถือเป็นความพิเศษอย่างยิ่ง คือ ถ้วยรางวัลทั้ง 21 รางวัล จะถ้วยรางวัล ‘ศิลปะปูนปั้นน้ำอ้อยเคี่ยว’ ซึ่งถือเป็นเอกศิลป์และเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวพระนครศรีอยุธยา โดยตามตำนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ซึ่งมีความเจริญด้านศิลปะหลายแขนง ทั้งงานลายรดน้ำ ลงรักปิดทอง จิตรกรรม ช่างทอง แกะสลักไม้ และงานที่โดดเด่นสร้างชื่อให้กับช่างอยุธยาอย่างมากก็คือศิลปะปูนปั้นน้ำอ้อยเคี่ยว ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของผลงานประติมากรรมหลายแห่ง หลายชิ้นในอยุธยา และปัจจุบันถูกยกให้เป็นสิ่งลำค่าที่โด่งดังไปทั่วโลกจนได้รับการยอมรับให้เป็น 1 ใน 10 ของมรดกโลก ดังนั้นในฐานะที่เป็นเมืองมรดกโลก คณะผู้จัดงานจึงได้สรรค์สร้างถ้วยรางวัลจารึกไว้ด้วยเอกศิลป์ตามตำนานแห่งเกียรติยศดังกล่าว”

             

ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวต่อว่า ดังนั้นจึงอยากขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย และชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมาร่วมงาน “สืบสานศาสตร์พระราช อยุธยามรดกโลก พัฒนาเกษตรไทยยั่งยืน” ภายในงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ในระหว่างวันที่ 7-16 ธันวาคม ณ อุทยานประวัติศาสตร์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมเป็นเกียรติในการเผยแพร่ชื่อเสียงของเมืองมรดกโลก และร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยการขยายผล “ศาสตร์แห่งพระราชา” ให้ถูกนำไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างยั่งยืนสืบไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"