เปิดคอลเลคชั่น Marsi X FLYNOW III แฟชั่นจากภาพฝีพระหัตภ์มารศี


เพิ่มเพื่อน    

 

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทอดพระเนตรแฟชั่นโชว์ Live Exhibition: Marsi X FLYNOW III
 

     เป็นครั้งแรกที่มูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์  บริพัตร และบริษัท FLYNOW III แบรนด์แฟชั่นไทยที่มีเอกลักษณ์ร่วมสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นแรงบันดาลใจจากภาพเขียนของหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร  จิตรกรหญิงชาวไทย ผู้สร้างสรรค์ผลงานตามแนวทางของศิลปะแบบเซอร์เรียลลิสต์–แฟนตาสติก เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงและใกล้ชิดกับงานศิลปะมากขึ้น ผลงานเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้ชื่อว่า  Marsi X FLYNOW III 

     ในโอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จทอดพระเนตร แฟชั่นโชว์ FLYNOW III ประกอบนิทรรศการ"  Beauty and Ugliness: Aesthetic of Marsi ความงามและ ความน่าเกลียด: สุนทรียศิลป์แห่งมารศี" ที่ชื่อว่า  Live Exhibition: Marsi X FLYNOW III  ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนน เจ้าฟ้า กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน  โดยมี ศ.ดร.ม.ร.ว.ชิษณุสรร สวัสดิวัตน์ ประธานกรรมการมูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร,นายสมชัย  ส่งวัฒนา ผู้บริหาร บริษัท FLYNOW III จำกัด นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ตลอดจนคณะกรรมการมูลนิธิฯ และผู้บริหารหอศิลป เฝ้ารับเสด็จ 

 

เปิดคอลเลคชั่น Marsi X FLYNOW III แบบมีเอกลักษณ์
 

    ศ.ดร.ม.ร.ว.ชิษณุสรร สวัสดิวัตน์  กล่าวว่า กิจกรรมพิเศษนี้เป็นการร่วมมือระหว่างมูลนิธิฯ กับ FLYNOW III  ผลงานเสื้อผ้าในคอลเลคชั่น Marsi X FLYNOW III ที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้ประกอบด้วยชุดแฟชั่นโชว์จำนวน 14 ชุด ภายใต้แนวคิดการเล่าเรื่องที่สื่อถึงกระบวนการทำงานศิลปะของหม่อมเจ้ามารศีฯ คู่ขนานไปกับเบื้องหลังการทำงานแฟชั่นของ FLY NOW III เพื่อสะท้อนมุมมองของความงามและความน่าเกลียดที่เชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว การแสดงแฟชั่นโชว์ของ FLYNOW III ประกอบนิทรรศการ จัดขึ้นภายใต้แรงบันดาลใจจากจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ของท่านหญิงมารศีฯ 

    โดยนำปรัชญาการทำงานและแนวคิดที่มีร่วมกันใน 4 ประเด็นมานำเสนอ  ได้แก่ Deconstruction, Surrealism, Sadism และ Futurism สื่อถึงกระบวนการทำงานและบรรยากาศการสร้างสรรค์งานของท่านหญิงมารศีฯ ในยุคสมัยหนึ่งผ่านการตีความของ FLYNOW III ในยุคปัจจุบัน ที่ต่างมีความ หลงใหลในเรื่องราวคล้ายคลึงกัน โดยหยิบยกการทำงานเบื้องหลังเวทีแฟชั่นมาสู่เบื้องหน้าเพื่อให้ผู้ชมได้เห็นว่า กระบวนการทำงานศิลปะของท่านหญิงในยุคก่อน  เมื่อเดินทางมาสู่โลกของแฟชั่นในยุคปัจจุบัน มีกระบวนการสร้างงานที่คู่ขนานกันอย่างไร ทั้งระหว่างยุคสมัยและสถานที่ที่ต่างกันและระหว่างการสร้างสรรค์งานของหม่อมเจ้ามารศี และ FLYNOW III  ถือเป็นการเชื่อมโยงกันของเวลาและมุมมองเรื่องของความงาม ความน่าเกลียด ผ่านกระบวนการที่คู่ขนานของทั้งสองฝ่ายในการสร้างผลงานสู่ผู้ชมให้ซาบซึ้งในความงามของชีวิต

 

สมชัย ส่งวัฒนา เจ้าของแบรนด์ FLYNOW III 
 

    ด้านสมชัย ส่งวัฒนา เจ้าของแบรนด์ FLYNOW III กล่าวว่า แฟชั่นโชว์ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในกระบวนท่าของการทำโชว์บนสเตจหรือมาตรฐานที่ทำกัน แต่เราพยายามทำให้แตกต่าง ความแตกต่างนี้คือวิธีคิดของรายละเอียดการทำโชว์ถือเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งเช่นกัน นอกจากนี้ในการทำงานต้องหาความเชื่อมโยงของสองฝ่ายในแง่ของเรื่องราว ยุคสมัย โดยมีผลงานของท่านหญิงมารศีฯ เป็นประธานในการคิด 

    สำหรับเสื้อผ้าทั้ง 14 ชุดที่ออกแบบเกิดจากการตั้งคำถามที่ว่า ในความจริง ความลวง ความรัก ความตาย ความสวยงาม หรือความน่าเกลียด อะไรคือกฎเกณฑ์ที่กำหนดสิ่งเหล่านี้ ก่อนจะนำมาถ่ายทอดผ่านลวดลายบนผืนผ้าที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพเขียน ไม่ว่าจะเป็นภาพดอกไม้ สัตว์ และธรรมชาติของมนุษย์ จากภาพ อาทิ La mort aux dents, La Belle et la Bête, Le Mariage Mystique du Prince Noui Noui à Vellara, Le Bal  โดยรายได้จากการจำหน่ายเสื้อผ้าทั้ง 14 ชุด FLYNOW III จะมอบให้กับมูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาด้านศิลปะ ตลอดจนให้การสนับสนุนนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะของนักศึกษาและศิลปินรุ่นใหม่ ในหอศิลป์ต่างๆ

ลวดลายบนผืนผ้าที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพเขียน 
 

    นอกเหนือจากเสื้อผ้าที่จัดแสดงในงานแฟชั่นโชว์แล้ว FLYNOW III ยังจัดทำคอลเลคชั่นเสื้อผ้า Basic Line และแอคเซสซอรี่ ที่นำภาพของท่านหญิงมารศีฯ จำนวน 5 ภาพ อาทิ La mort aux dents, La Belle et la Bête, Le Mariage Mystique du Prince Noui Noui à Vellara, Le Bal  รวมถึงข้อความภาษาฝรั่งเศสที่เป็นพระปณิธานของท่านหญิง แปลเป็นไทยว่า “ศิลปะ สะท้อนชีวิตและความตาย ฉันจะใช้ความสามารถของฉัน ถ่ายทอดออกมา” มาจัดพิมพ์ลงบนเสื้อเชิ้ต เสื้อทีเชิ้ต เดรส ผ้าพันคอ ฯลฯ จำหน่ายภายในนิทรรศการ รวมถึงในช้อป FLYNOW III สาขา ดิ เอ็มโพเรียม, สยามเซ็นเตอร์, สยามพารากอน, เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า โดยรายได้จากการจำหน่ายสินค้าคอลเลคชั่นดังกล่าว 20 % จะมอบให้กับมูลนิธิฯ เช่นกัน

    สำหรับการจัดนิทรรศการจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ของท่านหญิงมารศีฯ  ถือเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้การดูแลของมูลนิธิฯ  เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมค้นหาความหมายแห่งสุนทรียศาสตร์จากผลงานทรงคุณค่ากว่า 40 ชิ้น รวมถึงของใช้ส่วนพระองค์กว่าร้อยชิ้นที่สร้างแรงบันดาลใจ  นิทรรศการ“ความงามและความน่าเกลียด : สุนทรียศิลป์แห่งมารศี” จัดแสดงถึงวันที่ 23 ธันวาคมนี้  ณ ห้องนิทรรศการ 5-8 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.30 น. (ยกเว้นวันจันทร์ – วันอังคาร) 

 

 

 


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"