เลขาฯส้มหวานชูรัฐประหาร 57 เป็นโมฆะ - ดำเนินคดีคณะยึดอำนาจ


เพิ่มเพื่อน    

10 ธ.ค. 61 - ที่ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ อาคารเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดงานเสวนาในหัวข้อ “ฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญ” จัดโดยคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) และพรรคใต้เตียงมธ. โดยมีนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่  นายราเมศ รัตนะเชวง ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเสวนา

นายโภคิน กล่าวว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่ถูกครอบงำ โดยวัฒนธรรมและความคิดแบบอำนาจนิยม ซึ่งเป็นหัวใจของเรื่องทั้งหมด ไม่ใช่เพียงประชาชน แต่ยังรวมไปถึงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งคอนเซปต์ดังกล่าวมีมาอย่างยาวนาน ขณะที่รัฐธรรมนูญ 2560 ระบุว่าอำนาจเป็นของประชาชน หน่วยงานต่างๆต้องยึดหลักนิติธรรม พร้อมระบุว่า หากนายกใช้ม.44 ให้ถือว่า ชอบด้วยกฎหมาย ยิ่งเป็นการตอกย้ำแนวคิดดังกล่าว ซึ่งการยึดอำนาจนั้นเป็นการโกงประชาชน พร้อมมีการเขียนเรื่องการนิรโทษกรรมผู้ยึดอำนาจ กระบวนการ และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งศาลเองก็เห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้ไปด้วย ซึ่งปัญหาคือ ทำอย่างไรให้ศาลไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้

ประเทศนี้น่ารักตรงที่ บางยุคมีนายกที่โปร่งใส แต่เมื่อมีบางเรื่องที่ไม่โปร่งใสขึ้นมา พอประชาชนถาม เขากลับบอกว่าต้องเชื่อ เพราะผมเป็นคนโปร่งใส นี่คือตรรกะของระบอบอำนาจนิยม ขณะที่อีกคนบอกว่ารัฐรณรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับปราบโกง ต้องโปร่งใส แต่เมื่อขอให้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน กลับลาออกจากตำแหน่ง แล้วสรุปว่าใครเป็นคนดีหรือคนไม่ดี หากเราแก้ความคิดเรื่องอำนาจนิยมไม่ได้ เราก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากวงเวียนนี้ได้ สิ่งสำคัญ คือการทำให้สังคมเข้าใจ ผ่านกลไกลการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างรอบด้าน สร้างความเป็นอยู่ที่ดีแก่ประชาชนผ่านกลไกต่างๆ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าประชาธิปไตยกินได้ และเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว มีปัญหาอย่างไร  

นายปิยบุตร กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ ต้องอาศัยเสียงพรรคฝ่ายค้าน 20% สว.อีก 1 ใน 3 หรือหากเป็นประเด็นสำคัญต้องผ่านประชามติ แม้ในทางตัวอักษรจะเขียนว่าแก้ได้ แต่ในทางปฏิบัติจริงนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยจากเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้พรรคอนาคตใหม่มองว่า มาตรา 279 เป็นหลุมดำ ที่ทำให้รัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ควรต้องมีการยกเลิก เมื่อยกเลิกแล้ว บรรดาประกาศของคสช.จะไม่มีเกราะคุ้มกันอีกต่อไป ทำให้เราสามารถตรวจสอบได้ จากนั้นต้องมีการนำประกาศคำสั่ง คสช.มาพิจารณาใหม่ทั้งหมด หากฉบับไหนสามารถใช้ได้ ให้นำเข้าสภา เปลี่ยนเป็นพ.ร.บ. หรือ กฎกระทรวง แต่ประกาศฉบับไหนมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ต้องยกเลิก และผู้เสียหายต้องได้รับการเยียวยา ทั้งนี้ในวันที่ 25 ก.พ. หลังการเลือกตั้ง 1 วัน พรรคอนาคตใหม่ จะเริ่มรณรงค์แคมเปญแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันที

“การป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหารในอนาคต  ผมคิดว่ามีเทคนิคทางกฎหมายที่ทำได้หลายเรื่อง คือการล้มล้างผลพวงรัฐประหาร โดยการประกาศให้การยึดอำนาจเมื่อปี 57 เป็นโมฆะ หมายความว่าเกราะคุ้มกันคนยึดอำนาจไม่มีแล้ว สามารถนำผู้ยึดอำนาจไปดำเนินคดีได้ทันที หลายประเทศทำสำเร็จมาแล้ว อย่าง ฝรั่งเศส กรีซ หรือตุรกี  ซึ่งหากไม่ทำในส่วนนี้ คนที่มีอาวุธในมือ เขาก็จ้องจะออกมายึดอำนาจอยู่ดี เมื่อสถานการณ์สุกงอม แต่หาก เราแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง ผมเชื่อว่า อาจไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก เพราะมีตัวอย่างโดยการดำเนินคดีอดีตผู้มีอำนาจ และในอนาคตเราต้องเขียนมาตราสุดท้ายในรัฐธรรมนูญให้ได้ว่า การยึดอำนาจเป็นสิ่งผิด หากมีการยึดอำนาจ เกิดขึ้น และเมื่อประชาชนได้รับอำนาจคืนมา สามารถดำเนินคดีกลุ่มผู้ยึดอำนาจได้ทันที โดยไม่มีอายุความ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ระบุ

นายราเมศ กล่าวว่า การตั้งต้นร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน ตั้งแต่เริ่ม เมื่อคนที่แสดงความเห็น ไม่เห็นด้วยกับการร่างถูกเชิญตัวไป ขณะที่คนที่สนับสนุน กลับได้รับโอกาสในการแสดงออกอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามหากผู้มีอำนาจยึดหลักประชาธิปไตยในการร่าง ผลลัพธ์คงไม่ออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งการทำประชามติครั้งที่ผ่านมา เป็นการรณรงค์อยู่ฝ่ายเดียวคือฝ่ายสนับสนุน สมเจตนาของผู้มีอำนาจ อย่างไรก็ดี หากรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาธิปไตยจริง คะแนนการลงประชามติต้องเป็นเอกฉันท์ แต่ที่ผ่านมากลับไม่เป็นไปตามนั้น เพราะคะแนนที่ไม่เห็นด้วยกลับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

“ขณะที่วิกฤตที่รุนแรงของรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวในสายตาผม คือ การมี ม.44 ติดมาด้วยเท่ากับว่าประชาชนสามารถโดนยึดอำนาจได้ทุกวัน เป็นการตอกย้ำว่า ม.44 อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง สวนทางกับคำพูดที่บอกว่าจะปฏิรูป ม.35 ระบุเรื่องสิทธิเสรีภาพ ของสื่อมวลชน แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อมีการตรวจสอบผู้มีอำนาจ กลับถูกเรียกไปปรับทัศนคติ” นายราเมศ กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"