'นคร'ปลุกอีกรอบทำสงครามครั้งสุดท้าย ก่อนจะกลายเป็น'ทาส'ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน


เพิ่มเพื่อน    

11 ธ.ค.61 - นายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันเป็นมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กวานนี้ว่า 

วันรัฐธรรมนูญ

ในอดีตกาลหลายร้อยปี ประเทศไทยในปัจจุบันปกครองแบบพ่อขุน มีรัฐอิสระหลายรัฐ เช่น อาณาจักรทวาราวดี อาณาจักรโยนก เชียงแสน อาณาจักรศรีวิชัย อาณาจักรล้านนา อาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรอโยธยา ต่อมารวมชาติเข้มแข็งขึ้น เป็นอาณาจักรยุคธนบุรี และรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน มีการปกครองแบบพ่อขุน แบบเทวาธิปไตย และแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ คือเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่ที่พระมหากษัตริย์พระองค์เดียว ทั้งอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และ อำนาจตุลาการ

ต่อมาเมื่อลูกหลานของประชาชนมีความรู้มากขึ้น ได้มีโอกาสไปศึกษาเล่าเรียนที่ต่างประเทศ เห็นความเจริญรุ่งเรืองของชาติตะวันตก ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ที่เขาปฏิวัติประเทศสำเร็จ ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพที่เรียกว่าประชาธิปไตย จึงรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ปรึกษาหารือกันว่า ถึงเวลาแล้วที่จะทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงรวมตัวกันเป็น คณะราษฎร ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร รวม 99 คน ทำการยึดอำนาจจากพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 7 ได้สำเร็จ ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ถือเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เป็นการอภิวัฒน์สยาม อย่างแท้จริง

คณะราษฎร ได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรก คือ พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475 

ต่อมา มีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร ถือว่าเป็นฉบับที่ 2 คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม

และต่อมา มีการแย่งชิงอำนาจการเมืองการปกครอง ทั้งฝ่ายเผด็จการและฝ่ายประชาธิปไตย รวมไปถึงฝ่ายเผด็จการด้วยกันเอง เพื่อแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ ประกอบกับก่อนนั้น คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจดี ไม่รู้สึกหวงแหนสิทธิ เสรีภาพความเสมอภาคและภราดรภาพในระบอบประชาธิปไตย จึงปล่อยให้ชนชั้นปกครอง ที่ประกอบด้วย นายทุน ขุนศึก ศักดินาอำมาตย์ แย่งชิงอำนาจสลับกันมาปกครอง และเมื่อฝ่ายไหนยึดอำนาจได้ ปล้นอำนาจสำเร็จก็เป็นผู้ครองตำแหน่งผู้นำเป็นรัฐฐาธิปัตย์ ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเก่าทิ้ง ร่างฉบับใหม่ขึ้นมาเพื่อให้พวกตนมีอำนาจเด็ดขาด ไทย จึงมี การใช้รัฐธรรมนูญเปลืองที่สุดในอันดับตันของโลก คือ

ฉบับที่ 3. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489

ฉบับที่ 4. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490รัฐธรรมนูญใต้ตุ่ม

ฉบับที่ 5. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2492

ฉบับที่ 6. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2495

ฉบับที่ 7. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2502

ฉบับที่ 8. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2511

ฉบับที่ 9. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2515

ฉบับที่ 10. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517...2.4,(::: 

ฉบับที่ 11. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2519

ฉบับที่ 12. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช2520

ฉบับที่ 13. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521

ฉบับที่ 14. ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2534

ฉบับที่ 15. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534

ฉบับที่ 16. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540

ฉบับที่ 17. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549

ฉบับที่ 18. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550

ฉบับที่ 19. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557

ฉบับที่ 20. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

กลุ่มคนฉีกรัฐธรรมนูญ และ กลุ่มคนร่างรัฐธรรมนูญ เป็นคนกลุ่มเดียวกัน ยกเว้นที่เห็นได้ชัดเจนและแตกต่าง กเพียง รัฐธรรมนูญ ปี 2517 และ รัฐธรรมนูญปี 2540ที่หลังจากวิกฤติการเมืองแล้ว ประชาชนมีส่วนร่วมร่างและถือเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ส่วนรัฐธรรมนูญที่ถือว่า อัปลักษณ์ เลวร้ายและทำลายอำนาจประชาชน ทำลายระบอบประชาธิปไตยมาที่สุด น่าจะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน คือ ปี 2560 

ที่บรรดาเหล่าเผด็จการ ที่มีทั้ง นายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ และนักการเมืองบางคน พรรคการเมืองบางพรรคที่นิยมชมชอบระบอบเผด็จการ ร่างขึ้น ผ่านการยึดอำนาจของคณะ รัฐประหาร คสช. ที่ แม่น้ำ 5 สาย ซึ่งคือคนพวกเดียวกัน กลุ่มเดียวกัน ร่วมกันร่างขึ้น เพื่อคงสถานะ ความเป็นชนชั้นปกครองของพวกเขา ต่อไป ใช้เป็นเครื่องมือกดขี่ ข่มเหง คนไทยให้ตกเป็นทาส ไพร่ ตลอดไป ชั่วลูกชั่วหลาน

โดยมีการออกกฎหมาย คำสั่ง ระเบียบ กฎ กติกามาเพื่อให้ระบอบเผด็จการ เข้มแข็ง มั่นคง และทำลายอำนาจประชาชน อำนาจอธิปไตย ทำลายสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ ให้คนไทยทุกคน สยบยอม อยู่ภายใต้กฎของเผด็จการ
นิยามทางวิชาการกฎ กติกา คำสั่ง ทั้งหมดที่ออกมาโดยพวกเผด็จการที่ปล้นอำนาจประชาชนไป สากลโลกเขาเรียกว่า เป็นกฎโจร ไม่ถือเป็นกฎหมาย 

ทั่วโลกเขาก็รู้สึกแปลกใจว่า ทำไมคนไทยจึงยอมรับกฎโจรให้เป็นกฎหมาย เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น การที่ องค์กรจัดการการเลือกตั้ง กกต. ที่รับลูกมาจาก คสช. สนช. ค.ร.ม. กรธ. ที่พวกเขาคือแกนกลางของระบอบเผด็จการ จะพยายามจัดการการเลือกตั้งที่วิปริต ผิดเพี้ยน ในการไม่ให้มีโลโก้พรรค ไม่ให้มีชื่อผู้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มันก็เป็นเพียงแนวรบ ด้านหนึ่งของการต่อสู้ระหว่างเผด็จการ กับ ประชาธิปไตย เท่านั้น พี่น้องประชาชน นักการเมืองและพรรคการเมือง อย่าพึ่งตกใจ ยังมีอีกหลายยุทธศาสตร์ หลายยุทธวิธี หลายแนวรบ ที่จะได้พบได้เจอจากนี้ไป รวมไปถึง การใช้อำนาจรัฐ อำนาจการบังคับบัญชา อำนาจเงิน การสร้างสถานะการณ์เพื่อใส่ร้าย ทำลาย นักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยอย่างหนักหน่วงรุนแรง เพื่อให้ชนะและได้ฟอกขาว ระบอบเผด็จการให้สังคมโลกยอมรับ

จึงขอกราบเรียน คนไทยที่รักทุกท่านว่า การศึกสงครามครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้าย ต้องใช้สติ ใช้ปัญญา พิเคราะห์อย่างมีเหตุผล และพร้อมต่อสู้ทุกแนวรบที่ฝ่ายเผด็จการกำลังใช้ทุกองคาพยพรุกฆาตอยู่ อย่างรู้เท่าทัน แยกแยะถูก ผิด ขาว ดำ ให้ออก ว่านักการเมืองคนไหนสนับสนุนเผด็จการ นักการเมืองคนไหนสนับสนุนประชาธิปไตย พรรคการเมืองพรรคไหนสนับสนุนและเป็นแนวร่วมเผด็จการ พรรคการเมืองพรรคไหนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ที่เปิดหน้าชนกับเผด็จการชัดเจนที่สุด คือพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคอนาคตใหม่ 

วันรัฐธรรมนูญ หลังจากการอภิวัฒน์สยาม ถึงวันนี้ยาวนานมากพอแล้ว แต่การณ์ กลับกลายเป็นว่า คนไทยได้รับรัฐธรรมนูญที่เลวร้ายและอัปลักษณ์ที่สุด จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า หากคนไทยส่วนใหญ่ยังนิ่งเฉย ไม่สนใจ เห็นแก่ประโยชน์และความสุขส่วนตน ไม่เสียสละให้กับประเทศและประชาชน เราคงจะเป็นทาส ไพร่ไปชั่วลูกชั่วหลาน แต่หากคนไทยส่วนใหญ่ลุกขึ้น ล้มระบอบเผด็จการที่วางและสืบทอดอำนาจเผด็จการเป็นมรดกบาปให้หมดสิ้นในวิถีแห่งประชาธิปไตยด้วยประชาชนคนไทยเอง พวกเราคนไทย และลูกหลานของเราก็จะปลดปล่อยตัวเองให้พ้นจากความเป็นทาส และเป็นไท อย่างแท้จริง ประวัติศาสตร์จะจดจำท่านไว้

ช่วยกันนะครับ คนไทยที่รัก"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"