ความขัดแย้งระหว่างพรรคเดโมแครตกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยืนกรานให้บรรจุงบสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกไว้ในร่างงบประมาณด้วย อาจส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ก่อนเทศกาลคริสต์มาส หลังจาก ส.ว.เดโมแครตยืนกรานค้านร่างของสภาล่างที่ยัดไส้งบกำแพงไว้ด้วย

แฟ้มภาพ สัญญาณไฟจราจรใกล้อาคารรัฐสภาของสหรัฐในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 / AFP

    เวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2561 ตามเวลากรุงวอชิงตันของสหรัฐคือเส้นตายที่สภาคองเกรสต้องผ่านร่างงบประมาณเพื่อส่งให้ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนาม แต่ถ้าคองเกรสและทรัมป์ไม่สามารถหาทางรอมชอมกันได้ ก็จะทำให้หน่วยงานสำคัญๆ หลายแห่งต้องปิดทำการ และลูกจ้างจำนวนมากต้องถูกพักงานก่อนวันคริสต์มาสโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

    แนวโน้มของภาวะชัตดาวน์เกิดขึ้นหลังจากทรัมป์เปลี่ยนใจเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม ปฏิเสธร่างงบประมาณชั่วคราวที่ผ่านวุฒิสภามาแล้วอย่างเอกฉันท์ และกำลังรอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยทรัมป์ยืนกรานความต้องการของเขาที่ให้บรรจุงบประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโกไว้ในร่างนี้ด้วย

    บรรดาแกนนำของพรรครีพับลิกัน ซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาสูง วางแผนกันว่าจะผ่านกฎหมายข้อมติต่อเนื่อง (ซีอาร์) หรือกฎหมายงบประมาณระยะสั้นฉบับชั่วคราว ซึ่งจะทำให้หน่วยงานภาครัฐเปิดทำการได้ตามปกติต่อไปถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ระหว่างรอการอภิปรายประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งรวมถึงการรักษาความมั่นคงชายแดน ที่ทรัมป์เคยให้คำมั่นไว้ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งปี 2558 เรื่องการสร้างกำแพงป้องกันผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจากเม็กซิโก แต่แรงกดดันจากสมาชิกคองเกรสสายอนุรักษนิยมสุดโต่งและบุคคลในแวดวงสื่อบางรายทำให้ทรัมป์ปฏิเสธกฎหมายซีอาร์นี้

    "ผมมีจุดยืนชัดเจนมากว่า กฎหมายใดก็ตามที่เป็นงบประมาณของรัฐบาล ต้องบรรจุงบด้านการรักษาความมั่นคงชายแดนไว้ด้วย" ทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี "กำแพงใช้ได้ผล ไม่ว่าจะชอบมันหรือไม่ก็ตาม กำแพงใช้ได้ผลกว่าทุกอย่าง"

    สมาชิกพรรคเดโมแครตยืนกรานปฏิเสธว่าจะไม่สนับสนุนร่างงบประมาณรายจ่ายใดๆ ที่ให้ทุนสำหรับการสร้างกำแพงของทรัมป์ แต่ ส.ส.รีพับลิกันพยายามดึงดันต่อไปด้วยการร่างกฎหมายใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงงบสร้างกำแพง 5,700 ล้านดอลลาร์ และงบบรรเทาภัยพิบัติ 7,800 ล้านดอลลาร์ ร่างนี้ผ่านสภาล่างมาได้ด้วยคะแนน 217 ต่อ 185 โดยไม่มี ส.ส.เดโมแครตรายใดเห็นชอบ

    ถึงอย่างนั้น ร่างของสภาล่างฉบับนี้หมดโอกาสที่จะผ่านสภาสูง แม้รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก 51 ที่นั่ง จากสภา 100 ที่นั่ง แต่ร่างนี้ต้องใช้มติเสียงข้างมาก 60 เสียง จึงจะผ่านไปได้ และ ส.ว.เดโมแครตยังคงผนึกกำลังกันคัดค้านอย่างเหนียวแน่น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดภาวะชัตดาวน์ โดย ส.ว.ของทั้ง 2 พรรคหลายคนออกจากกรุงวอชิงตันไปแล้ว เพื่อพักผ่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส.