คาบูลแตก ตอลิบันลั่นสงครามจบแล้ว 'ทรัมป์'จี้'ไบเดน'ลาออก


เพิ่มเพื่อน    

นักรบตอลิบันบุกเข้ายึดครองกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานแล้วเมื่อวันจันทร์ รูดม่านสงครามอัฟกานิสถานยาวนาน 20 ปีแบบชาติตะวันตกไม่ทันตั้งตัว ชาวอัฟกันแตกตื่นบุกเข้าสนามบินหวังหนีออกนอกประเทศ ทหารอเมริกันยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อคุมฝูงชน "โดนัลด์ ทรัมป์" เรียกร้องประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลาออกเพื่อรับผิดชอบ

นักรบตอลิบันลาดตระเวนในกรุงคาบูลเมื่อวันอาทิตย์ ภายหลังเข้ายึดครองได้สำเร็จ (Photo by Sayed Khodaiberdi Sadat/Anadolu Agency via Getty Images)

    เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม ถึงสภาพความโกลาหลวุ่นวายภายในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ภายหลังนักรบตอลิบันโอบล้อมกรุงเมื่อวันอาทิตย์ แล้วประธานาธิบดีอัชราฟ กานี หนีออกนอกประเทศในช่วงค่ำ โดยอ้างว่าต้องการหลีกเลี่ยงการนองเลือด

    "ตอลิบันชนะโดยใช้ดาบและปืนเป็นเครื่องตัดสิน และตอนนี้พวกเขาต้องรับผิดชอบต่อเกียรติยศ, ทรัพย์สิน และการเอาตัวรอดของเพื่อนร่วมชาติของพวกเขา" กานีกล่าว

    ตอลิบันใช้เวลาเพียงแค่ 10 วันก็สามารถยึดทุกเมืองไว้ได้ ถือเป็นชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โมฮัมหมัด นาอีม โฆษกสำนักงานฝ่ายการเมืองของตอลิบันกล่าวกับอัลจาซีราห์ทีวีว่า วันนี้เป็นวันอันดีของชาวอัฟกันและมูจาฮีดิน พวกเขาได้ประจักษ์ผลของความพยายามและความเสียสละยาวนาน 20 ปี "สงครามในประเทศยุติแล้ว" เขากล่าว

    กองกำลังของรัฐบาลอัฟกันล่มสลายลงเมื่อไม่มีการสนับสนุนจากกองทัพสหรัฐ ที่นำกองกำลังพันธมิตรรุกรานประเทศนี้เมื่อปี 2544 เพื่อโค่นล้มระบอบตอลิบันที่ให้การหนุนหลังกลุ่มอัลกออิดะห์ของอุซามะห์ บินลาดิน ที่โจมตีสหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปีเดียวกัน แม้สหรัฐจะทุ่มเททรัพยากรและเงินจำนวนนับล้านล้านดอลลาร์ ในการสร้างรัฐบาลประชาธิปไตยและกองกำลังความมั่นคง เพื่อต้านทานนักรบอิสลามกลุ่มนี้ ไม่นับรวมการสูญเสียชีวิตทหารหลายพันนาย แต่ความพยายามเกือบ 20 ปีมานี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าสูญเปล่าในช่วงเวลาไม่กี่เดือน

    กลุ่มตอลิบันเริ่มเปิดฉากรุกขนานใหญ่เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม พร้อมกับที่สหรัฐและพันธมิตรเริ่มการถอนทหารระยะสุดท้ายให้ทันตามแผนถอนทหารภายในสิ้นเดือนสิงหาคม หลังจากกวาดกลืนพื้นที่ชนบทที่ไม่ค่อยมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ได้ส่วนใหญ่ ช่วง 10 วันที่ผ่านมาตอลิบันก็รุกโจมตีเขตเมือง ขับไล่กองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลแตกกระเจิง จนกระทั่งมาถึงคาบูลได้อย่างรวดเร็ว

    หลังจากตำรวจและกองกำลังต่างๆ ของรัฐบาลถอนออกจากที่ตั้งในกรุงคาบูลเมื่อวันอาทิตย์ นักรบตอลิบันก็เข้ายึดจุดตรวจทั่วเมืองหลวงและเข้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดีอย่างง่ายดาย ในวันจันทร์นักรบตอลิบันหลายคนถือปืนไรเฟิลออกเดินลาดตระเวนในเขตกรีนโซน ซึ่งเคยเป็นป้อมปราการแน่นหนาและที่ตั้งของสถานทูตต่างชาติและองค์กรระหว่างประเทศเกือบทั้งหมดในอัฟกานิสถาน

    บรรดาผู้นำตอลิบันให้ความมั่นใจต่อประชาคมระหว่างประเทศว่า ชาวอัฟกันไม่ควรต้องหวาดกลัวพวกเขา และพวกเขาจะไม่ล้างแค้นพวกที่เคยสนับสนุนกองทัพพันธมิตรของสหรัฐ

    อับดุล กานี บาราดาร์ ผู้ร่วมก่อตั้งตอลิบัน ยังเผยแพร่ข้อความทางโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้นักรบของเขารักษาวินัยหลังจากยึดกรุงคาบูลไว้ได้ "ตอนนี้เป็นเวลาที่จะทดสอบและพิสูจน์ พวกเราต้องแสดงให้เห็นว่าเราสามารถรับใช้ประเทศของเรา และสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายในชีวิต" เขากล่าว

    แม้ตอลิบันจะยึดเมืองหลวงได้โดยปราศจากการเสียเลือดเนื้อ เหมือนกับที่หลายเมืองยอมศิโรราบให้พวกเขาโดยดีก่อนหน้านี้ แต่ชาวอัฟกันในกรุงคาบูลยังคงแตกตื่นและแห่กันไปที่สนามบิน หวังขึ้นเที่ยวบินที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่เที่ยว รายหนึ่งเป็นอดีตทหารวัย 25 ปีบอกกับเอเอฟพีระหว่างยืนปนอยู่ในฝูงชนที่บุกเข้าไปถึงลานวิ่งของเครื่องบินว่า เขากลัวกับการใช้ชีวิตที่นี่ เพราะเขาเคยเป็นทหารและตอลิบันต้องจัดการเขาแน่

    กองทัพสหรัฐส่งทหาร 6,000 นายมายังสนามบินแห่งนี้เพื่อรักษาความปลอดภัยระหว่างการอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูต รวมถึงชาวอัฟกันที่ทำงานเป็นล่ามหรือสนับสนุนการทำงานของสหรัฐ รัฐบาลอีกหลายประเทศก็ส่งเที่ยวบินพิเศษมารับคนของตนเช่นกัน

    แม้รัฐบาลสหรัฐจะยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่าสามารถควบคุมสนามบินนี้ไว้ได้แล้ว แต่ก็ยังเกิดภาพความโกลาหลวุ่นวาย พยานหลายคนกล่าวว่า ทหารอเมริกันยิ่งปืนขึ้นฟ้าเพื่อเตือนฝูงชนหลายพันคนที่แห่กันมายังลานสนามบิน หวังขึ้นเครื่องบินออกนอกประเทศ และทำให้ต่อมาเจ้าหน้าที่ยกเลิกเที่ยวบินพาณิชย์ทุกเที่ยวบินที่เหลืออยู่

    "จะไม่มีเที่ยวบินโดยสารออกจากสนามบินฮามิดการ์ไซ เพื่อป้องกันการฉกชิงและปล้นทรัพย์ โปรดอย่ามาที่สนามบิน" การท่าอากาศยานคาบูลกล่าวในข้อความถึงนักข่าว

    ที่สหรัฐอเมริกา อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ผลักดันการถอนทหารอเมริกันทั้งหมดพ้นอัฟกานิสถาน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ประธานาธิบดีไบเดนลาออกจากตำแหน่ง

    "ถึงเวลาแล้วที่โจ ไบเดน จะต้องลาออกด้วยความอัปยศกับสิ่งที่เขาปล่อยให้เกิดขึ้นกับอัฟกานิสถาน" ทรัมป์กล่าวพร้อมกับโจมตีไบเดนด้านอื่นๆ ด้วย เช่นการรับมือโควิด-19 และนโยบายคนเข้าเมือง, เศรษฐกิจและพลังงาน

    ตอลิบันเข้าควบคุมคาบูลได้เมื่อวันอาทิตย์ มากกว่า 2 สัปดาห์ก่อนเส้นตายวันที่ 31 สิงหาคม ที่ไบเดนประกาศไว้ว่าจะการถอนทหารอเมริกันออกจากประเทศนี้จะเสร็จสมบูรณ์

    รัฐบาลของทรัมป์เป็นฝ่ายทำความตกลงกับตอลิบันไว้เองที่กรุงโดฮาเมื่อปี 2563 ว่ากองทัพสหรัฐจะถอนกำลังพลทั้งหมดออกจากประเทศนี้ภายในเดือนพฤษภาคม 2564 เพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับประกันด้านความมั่นคงต่างๆ จากกองกำลังติดอาวุธกลุ่มนี้ ซึ่งเคยครองอำนาจยาวนานหลายปีก่อนที่สหรัฐจะนำกองทัพพันธมิตรบุกโค่นล้มและยึดครองนานเกือบ 20 ปี

    เมื่อไบเดนเข้ารับตำแหน่งช่วงต้นปี เขายืดเส้นตายที่ทรัมป์ขีดไว้สำหรับการถอนทหารและไม่ได้ยื่นเงื่อนไขใดๆ ไว้ ทรัมป์เคยโจมตีการดำเนินการของไบเดนหลายครั้ง และคุยว่า ถ้าเขายังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ การถอนทหารจะแตกต่างกว่านี้มากและประสบความสำเร็จกว่านี้เยอะ

    "สิ่งที่โจ ไบเดน ทำไว้กับอัฟกานิสถานจะกลายเป็นตำนานเล่าขาน มันจะถูกบันทึกไว้ว่า เป็นหนึ่งในความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา" ทรัมป์กล่าวในคำแถลงอีกฉบับเมื่อวันอาทิตย์.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"