ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net บทสรุปนาฬิกาฉาวออกมารูปนี้ ต้องบอกตรงๆ งามไส้จริงๆ! ป.ป.ช.ภายใต้การนำ "บิ๊กกุ้ย" ไม่แคร์สื่อ ไม่สนสังคม ยอมหน้าทนเพื่อนาย สู้อุตส่าห์ถูลู่ถูกังลากยาวมาได้ 1 ปี นับจากวันที่แสงแดดเจ้ากรรม (นายเวร) ทิ่มตา "บิ๊กป้อม" ต้องยกมือขวาขึ้นบังตา จนแหวนเพชรเม็ดโต 1 กะรัต ที่นิ้วนางโผล่ส่องประกายวิบวับ พร้อมกับนาฬิกาหรูบนข้อมือ ยี่ห้อ Richard Mille ราคาประมาณ 3 ล้านบาท โชว์หรา ระหว่างถ่ายภาพหมู่รัฐมนตรีใหม่ หรือ "ครม.ประยุทธ์ 5" บนสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ต่อจากนั้นสายสืบไซเบอร์ เพจ CSI LA ก็ทยอยคุ้ยนาฬิกายืมเพื่อนของบิ๊กป้อมทีละเรือนเป็นซีรีส์ ก่อนจะจบที่ 25 เรือน รวมมูลค่า 39.5 ล้านเอง! ที่สำคัญนาฬิกาทั้งหมดที่อยู่ข้อมือรองนายกฯ คนนี้ไม่เคยอยู่ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.เลยแม้แต่เรือนเดียว

      ๐ "คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานฟังได้ว่า นาฬิกาที่ปรากฏเป็นข่าวเก็บรักษาอยู่ในบ้านของนายปัฐวาท และเป็นส่วนหนึ่งของนาฬิการาคาแพงที่นายปัฐวาทได้สะสมไว้ แม้ไม่ปรากฏเอกสารการซื้อขายว่านายปัฐวาทเป็นผู้ซื้อนาฬิกาดังกล่าว แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1369 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ที่ยึดถือทรัพย์สินนั้นไว้เป็นการยึดถือเพื่อตน จึงต้องด้วยบทสันนิษฐานตามกฎหมายดังกล่าวว่านายปัฐวาทเป็นเจ้าของนาฬิกาตามภาพข่าวจำนวน 21 เรือน และได้ให้ พล.อ.ประวิตรยืมใช้ในโอกาสต่างๆ ตามที่ปรากฏในภาพข่าว ประกอบกับนายปัฐวาทได้ให้เพื่อนคนอื่นยืมใช้นาฬิการาคาแพงด้วย จึงรับฟังว่าเป็นการกระทำโดยปกติของนายปัฐวาท ที่ช่วยดูแลกลุ่มเพื่อนเก่าโรงเรียนเซนต์คาเบรียลที่สนิทสนมกัน รวมถึงเพื่อนกลุ่มอื่นด้วย" เสียงโห่ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ต่อให้เป็นก้อนอิฐ "บิ๊กกุ้ย" ก็คงพร้อมจะรับไว้เอง ผลงานชิ้นนี้คงสดุดีกันทั้งประเทศ ต่อให้ถอนตัวไม่ร่วมพิจารณาลงมติ หวังใช้บังหน้าแก้ข้อครหาก็ตาม แต่ "จุดอ่อนของชีวิต" ก็ยังหรากลางหน้าผากบิ๊กกุ้ย

      ๐ ถึงแม้ ป.ป.ช.มีมติฟอกป้อม แต่ยังดีที่ไม่ได้เอกฉันท์ มีเสียงแตก 3 เสียง อย่างน้อยทำให้รู้ว่าไม่ได้อยู่ทีมบิ๊กกุ้ยกันทั้ง 8 คน ยังเหลือทีม ป.ป.ช.บ้าง สื่อก็เลยต้องไปแงะว่าใครเป็นใคร ทีแรกไม่ยอมบอก อ้างว่ามีข้อตกลงกันในที่ประชุมจะไม่เปิดเผยว่าใครลงมติอย่างไร เพราะกลัวถูกนำไปขยายเป็นประเด็นสร้างความขัดแย้ง สุดท้ายไม่เหลือบ่ากว่าแรง ได้รู้ว่าใครอยู่ทีมบิ๊กกุ้ย เสียงข้างมาก 5 ราย นายปรีชา เลิศกมลมาศ นายณรงค์ รัฐอมฤต นายวิทยา อาคมพิทักษ์ นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ ส่วนทีมเสียงข้างน้อย 3 คน น.ส.สุภา ปิยะจิตติ น.ส.สุวณา สุวรรณจูฑะ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง

      ๐ ฟังที่เลขาธิการ ป.ป.ช. "วรวิทย์ สุขบุญ" แถลง ดูไม่ติดใจเลยว่านาฬิกา 21 เรือน ที่พบที่บ้านเสี่ยคราม ปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เจ้าสัวคอมลิ้งค์ เพื่อนรักบิ๊กป้อม ว่าได้คืนมาตอนไหน เพราะเสี่ยครามเสียชีวิตตั้งแต่เดือน ก.พ.60 แต่ทำไมปลายปีบิ๊กป้อมยังใส่ออกงานหราไม่คืนเพื่อน เพิ่งมานึกได้ว่ายืมมาหลังเกิดเรื่องฉาว คนธรรมดาทั่วไปที่เป็นคนชอบนาฬิกา ก็คงต้องซื้อหามาเป็นของตัวเองบ้าง ยิ่งระดับบิ๊กป้อมจะควักเงินซื้อสักเรือนสองเรือนก็ไม่น่าจะสะเทือนขนหน้าแข้ง แต่เล่นยืมใส่ตั้งกว่า 20 เรือน ตอบแบบนี้มันกำปั้นทุบดินชะมัด ถึงจะฟังไม่ขึ้นในแง่ความรู้สึกของสังคม แต่เลี่ยงกฎหมายได้ฉลุย ข้อกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดเวลาไว้ซะด้วยว่านิยามของคำว่า "ยืม" ไม่ควรจะนานแค่ไหน เพราะเคสนี้ไม่ได้ยืมแค่วันสองวัน เดือน 2เดือน แต่นานนับปีทีเดียว บิ๊กป้อมบอกเองว่ายืมเขามาใส่มาเป็น 10 ปีแล้ว ทำให้นึกถึงคำถามที่คุ้นหูมาตั้งแต่เด็กว่า "อะไรเอ่ย คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ?" คำเฉลยที่เรารู้กันมาตลอดก็คือ โลงศพ แต่ถ้าเป็นเด็กรุ่นนี้ก็คงร้องอ๋อตอบว่า "นาฬิกาป้อม"!

      รูป   พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

              พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ

              วรวิทย์ สุขบุญ