28ธ.ค.61-พรรคประชาชาติได้จัดการประชุมสัมมนาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาชาติเขตภาคใต้ ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอัลมีรอซ กรุงเทพฯ โดยมีว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.ภาคใต้ 50 คน เข้าร่วมประชุมกันอย่างคับคั่งและก่อนร่วมประชุมทางพรรคได้มอบเสื้อแจ็กเก็ตให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ได้สวมใส่ และถ่ายรูปติดบัตร บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น

นายนัจมุดดีน อูมา โฆษกพรรคประชาชาติ กล่าวว่าการประชุมสัมมนาในครั้งนี้ได้จัดขึ้นเพื่อให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และแนวทางปฏิบัติในการหาเสียงให้มีการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมาให้ความรู้ด้วย ซึ่งพรรคประชาชาติมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ จึงได้เริ่มจัดการประชุมผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มแรก คือกลุ่มภาคใต้ในครั้งนี้ และจะกำหนดจัดการประชุมในภูมิภาคอื่นๆเป็นลำดับต่อไป โดยพื้นที่ภาคใต้มีผู้สมัครครบทั้ง 50 เขต ซึ่งล้วนแต่เป็นบุคคลมากความสามารถและมีศักยภาพสูงที่พร้อมทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน และมุ่งหวังจะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในครั้งนี้

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ตั้งเป้าว่าจะได้รับเลือกตั้ง ส.ส.ในภาคใต้ไม่น้อยกว่า 10 ที่นั่ง และตั้งเป้ารวมทั้งประเทศไม่น้อยกว่า 20 ที่นั่ง โดยพื้นที่ที่ตั้งเป้าหมายสูงคือในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล แม้ว่าจะมีคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคใหม่อย่างพลังประชารัฐ ก็พร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ ยุทธศาสตร์สำคัญของพรรคประชาชาติในการหาเสียงคือ “นโยบายที่โดดเด่น” โดยเฉพาะในเรื่องสังคมพหุวัฒนธรรมที่จะสร้างสังคมให้มีความสงบสุขท่ามกลางความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ศาสนา และวัฒนธรรม สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีศักดิ์ศรี เคารพ และให้เกียรติในการอยู่ร่วมกันในสังคม ดังเช่นสัญลักษณ์ของพรรคที่เป็นรูปดอกไม้หลายสีที่ผสมรวมกันอย่างสวยงาม ร่วมสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศชาติของเรา ซึ่งเราผ่านยุคที่มีความแตกแยกมาพอสมควร พรรคประชาชาติมีความชัดเจนว่าจะสร้างความสมานฉันท์ปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศ อาจจะมีความแตกต่างทางความคิดได้ แต่ต้องไม่แตกแยก เพราะจะเป็นประเด็นที่จะทำให้เรา ไม่สามารถที่จะพัฒนาประเทศต่อไปได้

พรรคประชาชาติมีนโยบายที่จะกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เลิกผูกขาดทางเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องของประชาชน แก้ปัญหาผลิตการเกษตรให้มีราคาสูงที่สุด รวมทั้งปัญหาประมงที่ต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ประชาชนอยู่ได้

ส่วนความพร้อมด้านการเลือกตั้ง ขณะนี้พรรคประชาชาติมีความพร้อมในการส่งผู้ลงสมัคร ส.ส.แบบเขตทั้งหมดแล้ว ลำดับต่อไปจะสรรหาผู้ลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อ ส่วนจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น วันที่ 14 มกราคม 2562 นี้ จะมีความชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ว่าพรรคประชาชาติจะสามารถร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับทุกฝ่ายทั้งฝ่ายประชาธิปไตยและเผด็จการได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาชาติตอบว่าต้องดูที่นโยบายว่าจะสามารถทำให้ประเทศดีขึ้นได้มากน้อยเพียงใด แก้ปัญหาเรื่องเศรษกิจ สังคม และกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ได้หรือไม่ นี่คือจุดที่พรรคประชาชาติต้องพิจารณาก่อนร่วมจัดตั้งรัฐบาล.