เรือหลวงอ่างทอง พร้อมลุยฝ่าพายุ 'ปาบึก' ช่วยบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล


เพิ่มเพื่อน    

3 ม.ค.62 - พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) สั่งการให้ หมู่เรือเฉพาะกิจบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล มีเรือหลวงอ่างทอง หมายเลข 791 ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ เป็นเรือบัญชาการและฐานปฏิบัติการในทะเล และเรือหลวงมกุฎราชกุมาร ที่จอดเทียบท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เตรียมความพร้อมขั้นสูงสุด ในปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรณีหากเกิดภัยพิบัติจากพายุโซนร้อนปาบึกในพื้นที่ภาคใต้ ด้วยแนวทาง “FROM THE SEA” สามารถออกเรือเดินทางได้เมื่อหน่วยเหนือสั่งการ

ในภารกิจครั้งนี้ยังได้จัดเตรียมอากาศยาน 2 ลำ ชุดปฏิบัติการพิเศษจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร.กร.) หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (น.ย.) หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ชุดแพทย์สนามจากกรมแพทย์ทหารเรือ (พร.) และชุดฟื้นฟูพื้นที่จากกรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ (กสพ.ฐท.สส.) และยุทโธปกรณ์ เครื่องมือจักรกลหนักที่ใช้ในการฟื้นฟูพื้นที่และสิ่งปลูกสร้าง โดยมอบหมายให้พล.ร.ต.ชวิน เวียงวิเศษ เป็นผู้บังคับหมู่เรือฯ

ทั้งนี้ เรือหลวงอ่างทอง เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ประเภท LPD (Landing Platform Dock) เป็นเรือในชั้น Endurance Class เข้าประจำการในสังกัด กองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ เมื่อวันที่ 19 เม.ย.55 มีกำลังพลประจำเรือ 151 นาย มีระวางขับน้ำปกติ 7,600 ตัน  มีความยาว 141 เมตร กว้าง 21 เมตร กินน้ำลึก 4.6 เมตร มีความสูงถึง 9 ชั้น ความเร็วสูงสุดมากกว่า 17 นอต ระยะปฏิบัติการมากกว่า 5,000 ไมล์ทะเล และสามารถปฏิบัติการในทะเลไม่น้อยกว่า 45 วัน ถือว่ามีความใหญ่เป็นอันดับสามรองจาก เรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงจักรีนฤเบศร ที่ประจำการอยู่ในฝูงเรือรบแห่งราชนาวีไทย

นอกจากภารกิจการสนับสนุนการยกพลขึ้นบกให้กับกำลังรบ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จากทะเลสู่ฝั่งในการเข้าโจมตีโฉบฉวยสะเทินน้ำสะเทินบกแล้ว ยังสามารถขนส่งลำเลียงทางทะเล รวมไปถึงการลำเลียงขนส่งทางอากาศด้วยอากาศยาน อีกทั้งยังเป็นเรือบัญชาการฐานปฏิบัติการในทะเล ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ การส่งอาหาร และยาเวชภัณฑ์ทางอากาศ รวมถึงการช่วยเหลืออพยพประชาชนออกจากพื้นที่ภัยพิบัติจากฝั่งสู่อู่ลอยของเรือได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลที่กำลังเกิดคลื่นลมแรง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นทั้งฐานลอยน้ำและฐานบินเคลื่อนที่ สำหรับรับ-ส่งผู้ประสบภัยกลางทะเล รวมไปถึงเป็นโรงพยาบาลเคลื่อนที่สำหรับการปฐมพยาบาล และใช้ในการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยได้อีกด้วย

ทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติจากวาตภัย เรือหลวงอ่างทอง พร้อมที่จะออกเรือจากท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เดินทางเข้าพื้นที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใน 15 ชั่วโมง สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"