ชงตั้งโต๊ะเจรจาทักษิณ ยงยุทธอ้างแก้ปัญหายั่งยืน ป้อมยํ้าเข้ากระบวนการกม.


เพิ่มเพื่อน    


    “ประวิตร” ลั่นไม่เคยห้าม “ทักษิณ” กลับไทย แต่เหยียบแผ่นดินเมื่อไหร่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม “ยุทธ ตู้เย็น” ร่ายเฟซบุ๊กแจงเหตุ ยก “นายใหญ่” มีสปิริตสูง อ้างถูกบิ๊กบังยึดอำนาจ  “เลขาฯ ยูเอ็น” ขอให้ประณามแต่แม้วปฏิเสธ อึ้ง! ตรรกะบอกหลายนโยบายที่ดูเลววันนี้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ชงตั้งโต๊ะเจรจาเพื่อให้ปัญหาสะเด็ดน้ำ หลายพรรคแพลมนโยบายขายฝัน “พปชร.” ดัน ส.ป.ก.4-01 เป็นที่ดินทองคำ “พ.พ.ช.” ผุดหนึ่งตำบล หนึ่งหมอ
    เมื่อวันจันทร์ที่ 7 มกราคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กห.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ  (พ.พ.ช.) ปราศรัยที่จังหวัดพิษณุโลก โดยชูว่าจะขอโอกาสครั้งที่ 4 นำนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ  กลับประเทศไทยให้ ว่าเราก็ไม่ได้ไม่ให้กลับ ให้กลับมาตลอด ไม่เคยห้ามไม่ให้กลับ แต่ก็ต้องมารับทราบคดี เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ยืนยันว่าไม่เคยห้ามว่าไม่ให้กลับ 
    เมื่อถามว่า นายทักษิณเคยประสานกลับไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกลับย้ำว่า "กลับได้เลย มาเข้ากระบวนการตามกฎหมาย เพราะเป็นคนไทย" เมื่อถามย้ำว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยได้ถามนายทักษิณหรือไม่ว่าทำไมไม่กลับ พล.อ.ประวิตรสวนว่า "ถามอะไร ยังไม่เคยคุยเลย"
    ขณะที่นายยงยุทธผู้จุดประเด็นเรื่องดังกล่าวได้โพสต์เฟซบุ๊กขยายความว่า "ประเด็นการจะกลับบ้านของ ดร.ทักษิณก็ต้องให้มีกระบวนการร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งคนทั่วไปทำกันอยู่แล้ว เช่น ทบทวนการได้มาซึ่งพยานหลักฐาน เพราะคนสอบเป็นคนอยู่ฝั่งตรงข้ามหมด คนสั่งการก็ยึดอำนาจเขามา จะบอกว่า ดร.ทักษิณเป็นคนดีได้ยังไง ก็ต้องบอกว่าเลว แต่วันนี้เรื่องเลวหลายเรื่องเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง เช่น ปล่อยเงินกู้เมียนมา เขาคืนให้เรามาหมดแล้ว การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้านเป็นเรื่องที่ดี เราย้ายประเทศหนีกันไม่ได้" 
    “ยังมีเรื่องอื่นๆ เช่น กระบวนการทางศาลยังต้องถามพยานทุกครั้ง ว่ามีเรื่องขัดแย้งกันมาก่อนหรือไม่ หรือผู้สอบวางตัวไม่เป็นกลางในกระบวนการสอบสวนยังขอเปลี่ยนตัวได้ ผมว่าคุยกันดีๆ ระหว่างพี่น้องเตรียมทหารด้วยกัน หากกลัว ดร.ทักษิณจะกลับมามีอำนาจ ก็คุยกันด้วยเหตุผลโดยเอาเรื่องบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง ยังง่ายกว่าการสร้างรัฐธรรมนูญและแก้กฎหมายเลือกตั้ง" นายยงยุทธระบุ
    นายยงยุทธโพสต์อีกว่า "ทุกวันนี้ทุกฝ่ายที่มีอำนาจเพื่อไม่ให้ระบอบทักษิณกลับมา เราสูญเสียและต้องแลกกับระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงและเป็นสากล ซึ่งในช่วงปี 2549 ดร.ทักษิณประชุมที่ยูเอ็น โดน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ยึดอำนาจ เลขาฯ ยูเอ็นถามว่าจะประณามตอบโต้ไหม ดร.ทักษิณปฏิเสธ และบอกว่าแค่นี้บ้านเมืองก็บอบช้ำพอแล้ว แสดงให้เห็นว่าความรักบ้านเมือง สปิริตยังมีอยู่" 
ชงตั้งโต๊ะเจรจา 'ทักษิณ'
    “ทำไมผมรู้ เพราะว่าผมก็ถูกขังเกือบครึ่งเดือน บ้านก็โดนทุบ ครอบครัวแตกเป็นเสี่ยงๆ เหล่านี้มีหลักฐานและภาพประกอบชัดเจน ไปดูในยูทูบได้ ซึ่งผมเข้าใจว่าลูกพี่สั่งมา เราไม่โกรธกัน เพราะรู้อยู่ว่าใครสั่ง สำหรับเรื่องปราศรัยที่พิษณุโลก ผมได้รับเชิญไปพูดเรื่องการเมืองในฐานะวิทยากร ก็บอกไปตามความเป็นจริงว่า หน้าเลือกตั้งก็อ้างเอา ดร.ทักษิณกลับ 3 ครั้งแล้ว ผมเชื่อว่าการเป็นรัฐบาลไม่สามารถคืนความเป็นธรรมให้กับใครได้ ตราบที่สังคมยังแบ่งเป็นฝักฝ่าย ด่าคนนั่นชั่ว คนนี้เลว ลืมนึกถึงตัวเองและพวก ผมว่าคุยกันดีๆ ยังจะสร้างความสุขให้ประเทศของเราได้มากกว่า การเปิดโต๊ะพูดคุยกับ ดร.ทักษิณนั่นแหละ คือการแก้ปัญหาที่จะยั่งยืนและตรงจุด เหตุเกิดที่ไหนก็แก้ที่นั่นครับ” นายยงยุทธ์โพสต์ทิ้งท้าย
    ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเรื่องนี้ว่า ไปห้ามกันไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของท่านที่จะพูด ต่างจิตต่างใจ เรื่องนี้มีคนตั้งใจหลายคน แต่ยังไม่ถึงเวลาจะพูด
    ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย  (รปช.) มั่นใจว่าจะได้ ส.ส. 250 ที่นั่ง ว่าคงต้องนับคะแนนหลายรอบ แต่ในส่วนของ พท.และพรรคเครือข่ายจะได้เกือบๆ 300 เสียง ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มั่นใจว่าจะได้ 150 เสียง ขอบอกเลยว่าไม่มีทาง ถ้าได้ 24 ที่นั่งจะเสนอชื่อนายกฯ ก็คงไม่ได้ เพราะยิ่งมาเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งยิ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจ 
    “มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐ 100 ที่นั่งไม่ถึง พื้นที่อีสานตอนบน เฉลิมโพลสำรวจแล้ว พปชร.ไม่ได้แม้แต่คนเดียว พะเยาที่บอกว่าได้แน่ๆ ก็ยังยาก ส่วนที่จะได้ก็คือเพื่อไทย แต่ถ้าพื้นที่ พปชร.จะได้คือ จ.สุโขทัย เพชรบูรณ์ และพื้นที่ภาคกลางอีกนิดหน่อย ถ้าได้ไม่ถึง 25 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยก็เป็นรัฐบาล  หรือถ้าเขาจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็แล้วแต่ อย่าไปคิดว่านรกไม่มีจริง ถ้าพลังประชารัฐได้ไม่ถึง 25  ที่นั่งก็บ้านใครบ้านมัน ตอนนั้นจะรู้ว่านรกมีจริง ส่วนที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเสนอนโยบายตองเจ็ด  เลขตองมันอยู่ในที่อโคจรทั้งนั้น” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
    ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค พท.ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าจะได้ ส.ส.เท่าใด แต่ยืนยันว่าขอทำงานอย่างเต็มที่ โดยส่งผู้สมัครให้ได้มากที่สุด ส่วนที่ พปชร.จะส่งเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มาเป็นหนึ่งในบัญชีนายกฯ ของพรรคก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ 
    นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)  กล่าวถึงกรณีที่พรรค รปช.จะไม่เสนอชื่อนายกฯ ว่าเป็นแนวทางใหม่ของพรรคการเมืองที่พร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะเกิดขึ้นในอีกหลายพรรคการเมืองที่เป็นพรรคใหม่  เป็นการสร้างความชอบธรรมให้คนที่พรรค พปชร.จะเสนอ โดยแสดงให้เห็นตรงกันว่าควรเป็นคนคนนี้  ซึ่งทำให้ประชาชนตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะการเลือกพรรคใดก็ทำให้ชี้ชัดว่าเลือกใครเป็นนายกฯ ซึ่ง ทษช.ชัดเจนว่าไม่มีทางยกมือหนุนคนที่คุณก็รู้ว่าใครให้มาเป็นนายกฯ ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ  ของ ทษช.นั้นต้องรอการชี้แจงจากการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง 
หญิงหน่อยอ้อนชาวอีสาน
    วันเดียวกัน พรรคการเมืองต่างลงพื้นที่เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครและเริ่มเสนอนโยบายต่างๆ มากขึ้น  โดยคุณหญิงสุดารัตน์ได้นำคณะลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยทันทีที่ขึ้นเวทีคุณหญิงสุดารัตน์ก็ทักทายประชาชนเป็นภาษาอีสานว่า “คิดฮอดพี่น้องชาวบุรีรัมย์ สบายดีบ่” ทั้งนี้คุณหญิงสุดารัตน์ยังระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกที่ต้องรักตัวเอง และต้องถามว่า 4-5 ปีที่ผ่านมาสามารถทนกับสภาพปัญหาต่างๆ ได้หรือไม่ ถ้าไม่ต้องการทนขอให้ออกมาเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย หากไปน้อยเลือกน้อยจะได้อยู่กับลุงต่อไป อยู่กับเรากระเป๋าตุง จากนั้นประชาชนตอบรับอย่างพร้อมเพรียงว่า "อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ"
    ต่อมาที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.นางรอง นางพุทธชาติ ศรีสุริยันโยธิน ภรรยาของนายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีบอกเล่าความรู้สึกพร้อมกับร่ำไห้บนเวทีที่นายพรชัยไม่สามารถเดินทางมาร่วมปราศรัยได้ เนื่องจากถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง  ถูกตั้งข้อหาอย่างไม่เป็นธรรม จึงอยากถามไปยังผู้มีอำนาจว่าการอยู่พรรคเพื่อไทยผิดมากหรือไม่ ซึ่งหลังภรรยานายพรชัยเปิดใจแล้วเสร็จ คุณหญิงสุดารัตน์ได้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อให้กำลังใจโดยสวมกอดให้มีกำลังใจต่อสู้ 
    นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยกล่าวเรื่องนี้ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเท่าไหร่ ส่วนจะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ ขออย่าเพิ่งพูดถึง ขอเราตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
    ส่วน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงกำหนดการปราศรัยว่า ในวันที่ 15 ม.ค. เวลา 17.00 น. ที่สนามฟุตบอลบ้านริมคลอง จะปราศรัยช่วยนายวัน อยู่บำรุง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางบอน พรรคเพื่อไทย โดยจะอุทิศเวลาทั้งหมดให้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะบอกข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการรัฐประหาร จากนั้นในวันที่ 21-28 ม.ค.จะยกคณะทีมปราศรัยหาเสียงพรรคลงพื้นที่ภาคอีสาน
    ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์เฟซบุ๊กย้ำถึงจุดยืนของพรรคและแนวทางการแก้ปัญหาให้ประชาชนว่า พูดหลายครั้ง หลายเวทีว่าอยู่ข้างประชาชน ประชาชนบอกอย่างไร ตัดสินอย่างไรจะทำตามนั้น ทุกวันนี้ประชาชนบอกว่าเดือดร้อนเรื่องปากท้อง พรรคก็ทำเรื่องนี้  ประชาชนไม่อยากให้มีความขัดแย้งของคนในชาติเกิดขึ้นอีก ก็ไม่สร้างความขัดแย้ง 
“ใครจะด่า ใครจะว่า ผมนิ่งเงียบ ผมรับฟังด้วยความอดทน ไม่ตอบโต้ เพราะไม่อยากทำให้เกิดความขัดแย้ง เรื่องจับขั้วกับใคร อยู่ข้างใคร พรรคไหน เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ ขอให้ประชาชนบอกมา ผมจะทำตามนั้น ผลการเลือกตั้งจะบอกได้ดีที่สุด ณ ขณะนี้ผมบอกได้เพียงว่า ผมไม่เอาความขัดแย้ง ถ้าท่านอยากได้ความขัดแย้งไม่รู้จบสิ้น ก็เลือกพรรคที่ชูความขัดแย้งเป็นนโยบายหาเสียง แต่ถ้าท่านไม่ต้องการเห็นขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทย พรรคจะยุติความขัดแย้งของคนในชาติด้วยความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ชัดเจนแล้วนะครับว่าผมไม่ได้กั๊ก” นายอนุทินกล่าว
    นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พรรค ทษช.จะจัดทีมลงพื้นที่เพื่อปราศรัยกับประชาชน มีทั้งเวทีย่อยและเวทีใหญ่ที่กระจายตามภูมิภาคต่างๆ 7 ชุดด้วยกัน โดยมีคนรุ่นใหญ่ที่มากประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ทำงานร่วมกับผู้สมัครในเขตนั้นๆ เสริมเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการเข้าถึงประชาชน 
ส.ป.ก.4-01=ที่ดินทองคำ
    ขณะที่นายสุชาติ ตันเจริญ กรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรค พปชร.กล่าวว่า หลังหารือกับทีมงานร่างนโยบายของพรรคถึงแนวนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจนให้คนไทยทั่วประเทศ เล็งเห็นถึงปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน จึงได้ร่างนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 กว่า 30 ล้านไร่ให้เป็นที่ดินทองคำ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรค รวมไปถึงผลักดันให้เห็นผลตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้ โดยจะเปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นใบสลักสิทธิ และจะเสนอให้เพิ่มเติมวัตถุประสงค์ใหม่ในพระราชบัญญัติปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 สามารถทำเกษตรอุตสาหกรรม โรงงาน พาณิชย์ ท่องเที่ยว หรือรีสอร์ตสุขภาพ เป็นต้น 
    “นอกจากเพิ่มวัตถุประสงค์ใหม่แล้ว ยังต้องเพิ่มศักยภาพให้ที่ดินมีมูลค่าในการลงทุน ด้วยการให้สามารถเปลี่ยนมือได้ ไม่ใช่เฉพาะทายาทเท่านั้น โดยให้ซื้อ ขาย โอน และเช่าได้ แต่ต้องเสียภาษี ค่าธรรมเนียม ซึ่งจะใช้หลักการใกล้เคียงกับที่ดินของกรมธนารักษ์และกรมที่ดิน ซึ่งจะทำให้ ส.ป.ก.4-01 มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นในทันทีเป็น 10-30 เท่าตามศักยภาพของพื้นที่ และเมื่อเราเพิ่มวัตถุประสงค์ใหม่ให้ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 แล้วก็น่าจะเรียกใหม่ว่า ส.ป.ก.4.0 ให้สอดคล้องไทยแลนด์ 4.0” นายสุชาติกล่าว
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค พปชร.กล่าวว่า พรรคจะลงพื้นที่รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน จ.นครราชสีมาในวันที่ 9 ม.ค.นี้ โดยการนำของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสานและคณะ โดยจะมีการเสวนาเรื่องการจัดทำนโยบายแก้ไขปัญหาที่ดินให้ชาวบ้าน และนำความเห็นของประชาชนมาจัดทำเป็นนโยบายของพรรคด้วย โดยเฉพาะเรื่องของ ส.ป.ก.
    นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรค พ.พ.ช.กล่าวว่า นโยบายพรรคจะยกฐานะโรงพยาบาลประจำตำบลให้เป็นโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณแห่งละสามล้านบาท ทั้งประเทศมีกว่าเจ็ดพันแห่ง รวมแล้วใช้เงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท และยังมีนโยบายหนึ่งตำบล  หนึ่งนักศึกษาแพทย์ โดยให้ทุนแก่นักเรียนที่ขาดโอกาส โดยไม่ต้องเป็นเด็กเรียนเก่ง ขอเพียงมีใจ อยากเรียนและกลับมาทำงานใช้ทุนที่บ้านเกิด
    “เรายังมีนโยบายโฉนดใบเดียว ยกเลิกเอกสารสิทธิทุกประเภท อาทิ ส.ป.ก., น.ส.2 ให้เหลือเพียงโฉนดเท่านั้น อาจแบ่งแยกเป็นโฉนดเพื่อการเกษตร การปศุสัตว์ การประมง เป็นต้น แต่จะใช้มาตราส่วนเดียวกันเพื่อลดความขัดแย้ง และเพิ่มความเท่าเทียมกันให้เจ้าของโฉนด จะไม่มีใครต้องอายใครเวลาถือโฉนดไปกู้เงิน” นายรยุศด์กล่าว
เทือกลั่นชนเสาไฟฟ้า
    ส่วนที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พรรค รปช.จัดอบรมเตรียมความพร้อมสำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช.กล่าวในหัวข้อหัวใจสำคัญและอุดมการณ์ของพรรค รปช.ตอนหนึ่งว่า "พรรคการเมือง นักการเมืองทั้งหลายละเลยต่อเสียงของประชาชน ฟังแต่คำสั่งหัวหน้าพรรคแบบเอาจริงเอาจังมาก สั่งให้ล้อมศาลากลางก็ไป ไปเผาก็ไป เอาอาวุธเข้ามาใน กทม.ก็ได้ ฆ่าคนก็ได้ ติดคุกก็ได้ โดยยอมตายขายชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย การเมืองไทยจึงกลายเป็นเรื่องของการต่อสู้แย่งชิงอำนาจรัฐ เจ้าของกิจการธุรกิจทั้งหลาย มีกลุ่มทุน ครอบครัวทำธุรกิจเข้ามาเป็นเจ้าของพรรค เริ่มลงทุนมากมายมหาศาล เรียกว่าทุนสามานย์ เมื่อเข้าไปมีอำนาจก็ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อำนาจโดยไม่เกรงใจประชาชน แต่พรรค รปช.ทำเพื่อประชาชน ไม่เป็นพรรคของคนใดคนหนึ่ง
    พรรคการเมืองต้องรับใช้ประชาชน ทำตามคำสั่งประชาชน โดยประชาชนเป็นใหญ่ และเพื่อผลักดันเปลี่ยนแปลงการปฏิรูปประเทศ วันนี้ รปช.มีสมาชิก 2 หมื่นกว่าคน เราฝันว่าต้องมีสมาชิก 1 ล้านคน แล้ววันนั้นเราจะมีพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง” นายสุเทพกล่าว
    นายสุเทพกล่าวอีกว่า รปช.ไม่มีเสาโทรเลข เสาไฟฟ้า หลักกิโลเมตร รอบนี้พรรคจะส่ง ส.ส.ไปล้มเสาไฟฟ้า ดูอย่างพรรคอื่นสมาชิกประจบสอพลอหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เพื่อให้ได้ลง ส.ส. ดูตัวอย่างนายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ที่เกือบไม่ได้ลงสมัคร ส.ส. แต่พรรค รปช.ไม่มี หัวหน้าพรรคไม่ได้มาสั่ง เพราะพรรคให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทั้งผู้หญิงและผู้ชาย 
    ที่ จ.สุรินทร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมแกนนำและคณะ เดินทางไปประชาสัมพันธ์พรรคและแนะนำว่าที่ผู้สมัคร โดยได้ขึ้นรถแห่ไปในหลายพื้นที่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"