อุทธรณ์สั่งจำคุก 10กปปส.พัทลุง ขวางเลือกตั้ง57


เพิ่มเพื่อน    

 ศาลอุทธรณ์ปรับแก้โทษจำคุกอดีต ส.ว.พัทลุง พร้อมแกนนำ กปปส. รวม 10 คน ฐานขัดขวางเลือกตั้งปี 57 "ศรีวราห์" เค้นหนุ่มอดีต กปปส.ซุกอาวุธสงคราม หวั่นโยงการเมืองใกล้เลือกตั้ง

    ที่ศาลจังหวัดพัทลุง อ.เมืองฯ จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพัทลุงได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทรณ์ภาค 9 ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องแกนนำกลุ่ม กปปส.พัทลุง ประกอบด้วย นายทวี ภูมิสิงหราช อดีต ส.ว.พัทลุง จำเลยที่ 1, นายจรูญ พรรณราย จำเลยที่ 2, นายประหยัด อินทองปาน จำเลยที่ 3, นายปิติพันธุ์ จุรุพันธุ์ จำเลยที่ 4, นายปราโมทย์ เพชรดวง จำเลยที่ 5, นายดรณ์ พุ่มมาลี จำเลยที่ 6, นางโฉมพิไล บุญผลึก จำเลยที่ 7,  นางวิมล พงศ์จั่นเผือก จำเลยที่ 8, นายสันติชัย ชายเกตุ จำเลยที่ 9, นายเฉลียว เกื้อสุข จำเลยที่ 10 (เสียชีวิต) และนายสุพลชัย คงเขียว จำเลยที่ 11 ในความผิดฐานขัดขวางการเลือกตั้ง ตามหมายเลขดำที่ 832/2561 คดีหมายเลขแดงที่ 1543/2561 โดยเหตุเกิดระหว่างการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.พัทลุง ในช่วงวันที่ 25-31 ธ.ค.2556 และวันที่ 1 ม.ค.2557 จนไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้  
    ต่อมาวันที่ 17 ม.ค.2557 กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ได้ร่วมกันชุมชนบริเวณโรงเรียนนักปกครอง ต.ตำนาน อ.เมืองพัทลุง และสำนักงานเทศบาลตำบลท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานชั่วคราวของพนักงานสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพัทลุง เพื่อให้หยุดการปฏิบัติงานจนไม่สามารถปฏิบัติงานได้ และผู้ชุมชนเอาเอกสารการเลือกตั้ง เอกสารราชการของสำนักงาน กกต.ประจำ จ.พัทลุง จากห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลท่ามิหรำไป จากนั้นวันที่ 26 ม.ค.2557 ผู้ชุมนุม กปปส.ร่วมกันชุมนุมปิดกั้นทางเข้า-ออกสถานที่เลือกตั้งกลางนอกเขตจังหวัด บริเวณสนามฟุตบอล กองร้อย ตชด.434 พัทลุง และสถานที่เลือกตั้งกลางในเขตจังหวัด เขตเลือกตั้งที่ 1 บริเวณลานจอดรถสำนักงานเทศบาลตำบลท่ามิหรำ จนไม่สามารถจัดให้มีการลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งได้
    กระทั่งวันที่ 1 ก.พ.2557 ผู้ชุมนุม กปปส.ร่วมกันชุมนุมบริเวณ สภ.เมืองพัทลุง ซึ่งเป็นสถานที่เก็บบัตรเลือกตั้ง และอุปกรณ์การเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.พัทลุง กกต.ประจำจังหวัดพัทลุง กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 และพนักงานสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดพัทลุง ไม่สามารถนำบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์การเลือกตั้งออกจากสถานที่ดังกล่าว เพื่อแจกจ่ายให้แก่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ประธานกรรมการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 ถึงที่ 3 จึงประกาศงดการลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 นั้น
    ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้มีคำพิพากษาปรับแก้โทษของจำเลยทั้ง 10 คน โดยพิพากษาลงโทษจำคุก จำเลยที่ 1 จำนวน 2 ปี  24 เดือน, จำเลยที่ 2, 3 คนละ 2 ปี 16 เดือน, จำเลยที่ 4, 8 คนละ 1 ปี 24 เดือน, จำเลยที่ 5, 6, 7 คนละ 8 เดือน, จำเลยที่ 9 จำนวน 16 เดือน และจำเลยที่ 11 จำนวน 3 ปี 16 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
    สำหรับคดีดังกล่าวนี้ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1, 4, 8 คนละ 3 ปี  จำคุกจำเลยที่ 2, 3, 9 คนละ 2 ปี จำคุกจำเลยที่ 5, 6, 7 คนละ 1 ปี และจำคุกจำเลยที่ 11 จำนวน 2 ปี พร้อมทั้งให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งจำเลยที่ 1-4, 8, 11 คนละ 5 ปี  
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำเลยทั้ง 10 คน ที่มานั่งฟังการอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาลจังหวัดพัทลุง แต่ศาลมีคำสั่งให้ยื่นต่อศาลฎีกาเป็นผู้สั่ง ทำให้จำเลยทั้ง 10 คนถูกนำตัวไปคุมขังในเรือนจำกลางพัทลุงเพื่อรอคำสั่งจากศาลฎีกา ว่าจะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ 
    เมื่อวันที่ 16 ม.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 
(รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1),  พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง  ร่วมกันสอบสวนปากคำเพิ่มเติม นายจักรกฤษณ์ ไทยพรหมทัต อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/306 หมู่ 1 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พนักงานบริษัทเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งถูกจับวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลาง อาทิ อาวุธปืนอาก้า เอเค 47 จำนวน 1 กระบอก, แมกกาซีนอาก้าจำนวน 2 อัน, ลูกกระสุนปืนอาก้า จำนวน 219 นัด หน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง หมู่ 8 ถนนสาย 340 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
    จากนั้นได้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 30/306 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย พบของกลางเพิ่มคือ ระเบิดควันจำนวน 3 ลูก, ปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก, แมกกาซีนขนาด M16 จำนวน 2 อัน, ลูกกระสุนปืนอาก้า จำนวน 40 นัด, ลูกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 38 นัด, ปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด, ลูกกระสุนปืน ขนาด M16 จำนวน 91 นัด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนและวัตถุระเบิดซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
    จากการสอบสวน นายจักรกฤษณ์รับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นขอตนจริง โดยสั่งซื้อจากนายต้น ไม่ทราบนามสกุล ผ่านทางไลน์ ในราคา 43,500 บาท และได้นัดกับนายต้นให้นำอาวุธมาส่งที่หน้าบริษัทดังกล่าว โดยตนเป็นคนชอบสะสมอาวุธปืน เป็นความชอบส่วนตัว ส่วนระเบิดควันเอาไว้ไปใช้ขว้างกลางทุ่งนา
         พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า ยังไม่เชื่อในคำให้การนายจักรกฤษณ์ เพราะเคยร่วมชุมนุมอยู่กับกลุ่ม กปปส. จึงมีเหตุสงสัยที่มาที่ไปของอาวุธหรือน่าจะมีนายทุน และช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งด้วย ส่วนจะเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่นั้น จะต้องสอบสวนต่อไป. 
        


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"