'พปชร.'ยกทัพใหญ่ลุยอีสาน เจาะฐานที่มั่นเพื่อไทย


เพิ่มเพื่อน    

26 ม.ค. 62 - ที่จ.อุบลราชธานี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)  พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ  กรรมการบริหารพรรค และนายสุพล ฟองงาม กรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ตระเวนลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เดินสายปราศรัย 3 จุดถึงแนวทางการทำงานรวมถึงนโยบายต่าง ๆ ของพรรค แต่ละจุดมีสมาชิกพรรคและประชาชนที่ให้ความสนใจมาร่วมรับฟังแนวนโยบายอย่างเนืองแน่น พร้อมกันนี้นายอุตตม ได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ 4 จังหวัด 23 เขต ประกอบด้วย จ. อุบลราชธานี จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ และ จ.ศรีสะเกษ 

นายอุตตม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้พรรคมานำเสนอนโยบายของพรรคให้พี่น้องชาวอุบลราชธานีได้รับทราบ และได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ที่อาสามาทำงานให้พี่น้องประชาชนในภาคอีสานด้วย สำหรับนโยบายในการหาเสียงนั้นเป็นสิ่งที่พรรคคิดกันมานาน และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในปัจจุบันบางส่วนแล้ว  ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า นโยบายของพรรคสามารถทำได้จริง เราจะสามารถดูแลให้โอกาสและสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนคนไทยแน่นอน 

“พี่น้องชาวอุบลราชธานีจะมีอนาคตที่ยั่งยืนมีโอกาสใหม่ๆซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่า จะเป็นนโยบายการจัดสวัสดิการถ้วนหน้า ซึ่งคนไทยควรจะมีมานานแล้วแต่ไม่มีเพื่อให้เป็นชุมชนคนไทยเป็นสังคมที่เข้มแข็ง มีการดูแลสวัสดิการ ไม่ว่า จะเป็นเรื่องรายได้ สาธารณสุข การศึกษา เมื่อมีสวัสดิการที่ดี ทำให้ครอบครัวเข้มแข็งแล้ว ต่อไปก็จะเดินหน้าในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะทำให้เศรษฐกิจภาคการเกษตรเป็นเกษตรที่ยั่งยืน สร้างมูลค่าเพิ่มได้ อุตสาหกรรมต้องเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสามารถด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ขณะเดียวกันต้องเป็นสังคมประชารัฐที่เข้มแข็ง เป็นสังคมที่รู้จักแบ่งปันของคนไทยด้วยกัน และต้องเป็นสังคมประชารัฐสีขาว คือ ปลอดยาเสพติด ปลอดภัย ปลอดโรค ครอบครัวอบอุ่นมีกำลังไปทำงานมีกำลังสร้างอนาคตให้กับครอบครัวให้กับประเทศที่ยั่งยืนต่อไป เหล่านี้คือ นโยบายที่เราเสนอ แต่นโยบายไม่เพียงเท่านั้นเรามีคนที่ทำงานจริงวันนี้เรามาพบพี่น้องประชาชนชาวอุบลฯให้เห็นว่า เราตัวจริงมีนโยบายจริงที่ทำได้” หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าว 

นายอุตตม ยังกล่าวเรื่องการเสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นว่า ตามกฎหมายทางพรรคสามารถนำส่งรายชื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ถึงวันสุดท้ายของการรับสมัครเลือกตั้ง คือ วันที่ 8 ก.พ.  ในส่วนจะยืนยันว่า เป็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่นั้น ตอนนี้เรายังไม่ได้ทาบทามท่าน จากนี้ไปถึงวันที่ 8 ก.พ. ไม่นานเดี๋ยวได้เห็นรายชื่อแน่นอน

วันเดียวันนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรค ลงพื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เปิดศูนย์ของพรรคพลังประชารัฐโดยมีประชาชนให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้บรรดาว่าที่ผู้สมัครลงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ จ.นครปฐม ทั้ง5เขต ได้เดินทางมาด้วย คือ เขต 1 นายธนกร เชาวนเมธา เขต 2 พ.ต.อ.วีระยศ ชื่นกลิ่นธูปศิริ เขต 3 นายพรศักดิ์ เปี่ยมคล้า เขต 4 นายปฐมพงษ์ สูญจันทร์ และ เขต 5 ดร.ระวัง เนตรโพธิ์แก้ว 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อมาพบปะว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคว่ามีความคืบหน้าในการลงพื้นที่เป็นอย่างไร แต่วันนี้ชาวบ้านได้สะท้อนและต้องการให้พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าแก้ปัญหาในเรื่องข้าว ราคาอ้อย พืชเกษตรต่างๆ ผลักดัน สัตว์เศรษฐกิจ เช่น การเลี้ยงปลาสวยงาม นก ไก่ ทุกอย่างที่เสนอมาอยู่ในแนวทางนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งเสริมให้คนทำธุรกิจ และ มีอาชีพเสริม ในส่วนของจ.นครปฐม ถือได้ว่า เป็นเมืองกระจายสินค้าได้ทุกภาค มีมหาวิทยาลัยถึง 3 แห่ง มีวัฒนธรรม และหากบ้านเมืองสงบสุขจังหวัดนครปฐม จะยิ่งดีขึ้นเพราะสามารถผลักดันให้เป็นเมืองท่องเที่ยวได้

"พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคทหาร แต่เวลานี้เราได้รวบรวมคนที่มีความสามารถในทุกด้าน อาทิ เกษตร ธุรกิจ มารวมกันเพื่อจะทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี ผมอยากให้ทุกคนเดินทางสายกลางก้าวข้ามความขัดแย้งเพราะหากบ้านเมืองไม่สงบอีกประเทศจะอยู่ในวังวนเดิม" นายสมศักดิ์กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐจะสามารถปักธงได้ส.ส.ยกจังหวัดนครปฐม หรือไม่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้สมัครของเราทั้ง 5 เขต ขยันพบปะชาวบ้านแบบเคาะประตูบ้าน ทุกคนทุ่มเท ตนไม่สามารถไปโม้โอ้อวดว่าเราจะเหมายกจังหวัด แต่ส่วนตัวเชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะมี ส.ส.ในจ.นครปฐมแน่นอน

ถามว่าการลงพื้นที่เวลานี้มักถูกโจมตี บางครั้งมีการจัดฉากนำวีดีโอ ไม่มีประชาชนเข้าฟังปราศรัย นายสมศักดิ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติ ตนเป็นผู้ไปชี้แจงนโยบายต่างๆในหลายจังหวัดทั่วทุกภูมิภาค เป็นรื่องธรรมดาที่จะต้องถูกโจมตี เตะตัดขา แต่การถูกกระทำแบบนี้ทำให้เห็นว่าคะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐดีขึ้น ฝ่ายตรงข้ามจึงเล่นเกมใต้ดิน 

"ผมไม่เคยท้อแท้ หรือรู้สึกอะไร ยิ่งทำร้ายเราเท่าไหร่ นั้นคือแรงผลักดันผมจะเดินหน้า ผมไม่เคยกลัว เราเดินมาถูกทาง การเมืองเป็นเรื่องปกติของการป้ายสี มันเกิดขึ้นมาตลอด แต่ผมและพรรคต้องระมัดระวังไม่พลีพลาม เหตุการที่เกิดขึ้นที่จ.มหาสารคาม เราตอบโต้ได้ชัดเจน เรามีหลักฐานที่เป็นวีดีโอ และภาพนิ่ง ประชาชนจึงรู้ว่าเวลานี้ พรรคพลังประชารัฐถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว เพราะแนวทางของพรรคชัดเจนเราไม่ต้องการให้ประเทศจมปลักในจุดเดิม" แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าว

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"