‘ชวน’สะบัดมีดกรีด‘คู่แข่ง’


เพิ่มเพื่อน    

 กกต.แจ้ง 41 พรรคมีสิทธิส่ง ส.ส.  ปชป.-เสรีรวมไทย-รักษ์ผืนป่าฯ ลงได้ครบ 77 จังหวัด "ชวน" แนะเคล็ดลับหาเสียงว่าที่ผู้สมัคร กรีด พท.หน้าไม่อายขอเสียงคนใต้แต่ไม่เคยจัดงบให้ "ภูมิธรรม" ปลุก 24 มี.ค. เปลี่ยนรัฐบาลทหารสู่มืออาชีพ แก้ปากท้อง ปชช. เป๋าตุง ชทพ.ย้ำเป็นมิตรกับทุกพรรค เดินตามรอยบรรหาร

    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)? เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ได้มีหนังสือลงวันที่ 30 ม.ค. ส่งถึงผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ แจ้งข้อมูลพรรคการเมืองที่มีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข 4 ประการ ตามมาตรา 141 และสามารถจัดตั้งสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ในจังหวัดที่จะส่งสมัครได้ครบถ้วน โดยข้อมูล ณ วันที่ 29 ม.ค. จากพรรคการเมืองที่ดำเนินกิจการทั้งสิ้น 106 พรรค มีพรรคที่มีสิทธิส่งสมัครรวม 41 พรรค 
    แยกเป็นพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 จำนวน 16 พรรค คือ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ส่งได้ 77 จังหวัด, พรรคเสรีรวมไทย ส่งได้ 77 จังหวัด, พรรคประชาธิปัตย์ ส่งได้ 77 จังหวัด,   พรรคเพื่อชาติ ส่งได้ 74 จังหวัด, พรรคภูมิใจไทย ส่งได้ 67 จังหวัด, พรรคเพื่อไทย ส่งได้ 61 จังหวัด, พรรคชาติพัฒนา ส่งได้ 57 จังหวัด, พรรคชาติไทยพัฒนา ส่งได้ 49 จังหวัด, พรรคไทยรักษาชาติ ส่งได้ 43 จังหวัด, พรรคพลังท้องถิ่นไทย ส่งได้ 29 จังหวัด,    พรรคประชาธิปไตยใหม่ ส่งได้ 33 จังหวัด, พรรคเพื่อธรรม ส่งได้ 15 จังหวัด, พรรคพลังไทยรักชาติ ส่งได้ 7 จังหวัด, พรรคเพื่อสหกรณ์ไทย ส่งได้ 2 จังหวัด, พรรคสังคมประชาธิปไตย ส่งได้ 9 จังหวัด และพรรคพลังสหกรณ์ ส่งได้ 1 จังหวัด   
    ส่วนพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 มีทั้งสิ้น 25 พรรคการเมือง  ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ ส่งได้ 70 จังหวัด,    พรรคอนาคตใหม่ ส่งได้ 69 จังหวัด, พรรคพลังไทสร้างชาติ ส่งได้ 5 จังหวัด, พรรคประชาชาติ ส่งได้ 57 จังหวัด, พรรคเพื่อนไทย ส่งได้ 33 จังหวัด, พรรคไทยธรรม ส่งได้ 9 จังหวัด, พรรครวมพลังประชาชาติไทย ส่งได้ 43 จังหวัด, พรรคพลังแผ่นดินทอง ส่งได้ 1 จังหวัด, พรรคพลังชาติไทย ส่งได้ 43 จังหวัด, พรรคประชานิยม ส่งได้ 3 จังหวัด, พรรคพลังปวงชนไทย ส่งได้ 37 จังหวัด, พรรคพลังธรรมใหม่ ส่งได้ 22 จังหวัด,    พรรครวมใจไทย ส่งได้ 18 จังหวัด, พรรคเพื่อคนไทย ส่งได้ 11 จังหวัด, พรรคแผ่นดินธรรม ส่งได้ 5 จังหวัด,    พรรคไทยรุ่งเรือง ส่งได้ 5 จังหวัด, พรรคประชาชนปฏิรูป ส่งได้ 55 จังหวัด, พรรคทางเลือกใหม่ ส่งได้ 1 จังหวัด, พรรคประชาภิวัฒน์ ส่งได้ 35 จังหวัด, พรรคพลังแรงงานไทย ส่งได้ 1 จังหวัด, พรรคเศรษฐกิจใหม่ ส่งได้ 10 จังหวัด, พรรคประชาธรรมไท ส่งได้ 31 จังหวัด, พรรคพลังรัก ส่งได้ 2 จังหวัด, พรรคกลาง ส่งได้ 1 จังหวัด และพรรคพลังไทยรักไทย ส่งได้ 35 จังหวัด  
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแจ้งข้อมูลดังกล่าว  สำนักงานได้แยกแจ้งเป็นรายจังหวัด เนื่องจากบางพรรคไม่ได้มีการตั้งสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองในจังหวัดนั้นๆ จะทำให้ไม่สามารถส่งผู้สมัครในจังหวัดดังกล่าวได้ สำหรับการส่งข้อมูลทาง กกต.กลางจะมีการอัพเดตข้อมูลพรรคการเมืองที่มีสิทธิส่งสมัคร ให้กับ ผอ.เลือกตั้งประจำจังหวัดไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ.  ซึ่งเป็นสุดท้ายของการรับสมัคร ส.ส.
ชวนแจงไม่ขึ้นบัญชีนายกฯ
    ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) บรรยายหัวข้อ "ทำอย่างไรให้ได้เป็น ส.ส." ต่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 500 คน ว่า หลายคนถามว่าทำไมไม่ยอมรับการเสนอชื่อให้อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่มีหลายคนสนับสนุน อยากจะบอกว่าไม่เคยโกรธคนที่เสนอชื่อและต้องขอขอบคุณที่ให้เกียรติ ซึ่งตนตั้งใจสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคตั้งแต่แรก ก็ควรสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ใครยังสงสัยหรือยังอยากมาถามตนอีก ก็ขอให้จบได้แล้ว จากนี้ไปจะเอาเวลาไปช่วยพรรคหาเสียงตามพื้นที่ต่างๆ นอกจากนี้ ยังบอกกับนายอภิสิทธิ์ภายหลังที่มาหารือว่าควรจะไปจับมือร่วมกับใครดี ตนพูดไปว่าทำไมจะต้องคิดว่าไปจับมือกับเขา เราจะต้องเป็นตัวหลักให้เขามาร่วมกับเรา เราต้องเป็นผู้เลือกให้ใครจะมาอยู่ด้วย
    นายชวนกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ทุกคะแนนมีความหมาย ขอให้ทุกคนทำงานในพื้นที่ลงหาเสียงอย่างเต็มที่ แม้ใครที่คิดว่าจะไม่ชนะก็ขอให้ทำเต็มที่ เพราะคะแนนเหล่านั้นจะมีประโยชน์กับพรรค  เชื่อว่าจะทำให้เรามีจำนวน ส.ส.ทั้งหมดมากขึ้น และต้องขยันแนะนำตัว อีกทั้งเน้นการปราศรัยกับชาวบ้าน พรรคเราอยู่ได้มากว่า 70 ปีแสดงว่าเรามีความเข้มแข็งมาก ขณะเดียวกันนโยบายที่เราเคยทำมาทุกวันนี้ก็ยังสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ นมโรงเรียน กองทุนกู้ยืม ดังนั้น เวลาลงพื้นที่ให้เน้นพูดสิ่งเหล่านี้เป็นหลัก เวลาที่ประชาชนถามเรื่องผลงานของเราก็ต้องอธิบายให้ได้ว่าสองปีกว่าของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์หวังจะให้ทุกอย่างเสร็จ เป็นไปไม่ได้ เพราะมีเวลาเพียงแค่นี้ และทุกคนย่อมรู้แก่ใจว่าความผิดทั้งหมดอยู่ที่ใคร
    “อย่าไปประเมินคนอื่น หรือดูถูกพรรคอื่น หรือคิดว่าตัวเองหน้าตาดีแล้วจะชนะ ขอให้พูดเฉพาะสิ่งที่คิดว่าพรรคและตัวเองสามารถทำได้จริง อย่าไปรับปากอะไรก็ตามที่เป็นไปไม่ได้หรือทำไม่ได้ ที่สำคัญอย่าโจมตีให้ร้ายพรรคการเมืองอื่น และอย่าไปกลัวหากใครถูกโจมตีต้องพูดออกไป อย่าอยู่เฉย” นายชวน ระบุ
    นายชวนกล่าวว่า ยกตัวอย่างพรรคอนาคตใหม่ส่งข้อความทางไลน์มาชวนผู้สมัครของเราในจังหวัดตรังให้ย้ายไปอยู่กับเขาแล้วบอกให้มาโจมตีเรา แต่ผู้สมัครคนนี้ไม่ไป และบอกว่าแม้เขาจะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่พรรคคุณไม่ใช่แนวทางของเรา ตนเห็นมามากแล้วว่าคนที่เคยอยู่กับเราแล้วย้ายออกไป อีกทั้งยังหันกลับมาโจมตีพรรคก็ไม่ได้รับผลดีในอนาคต หรือบางพรรคที่เคยบอกว่าไม่จัดงบประมาณให้ภาคใต้ เพราะไม่เลือกเขา แต่ครั้งนี้ก็ยังไม่อายที่จะมาหาเสียงอีก
ปลุกเปลี่ยนรัฐบาลทหาร
    ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันที่ 24 มี.ค. ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนจากรัฐบาลทหาร มาเป็นรัฐบาลนักบริหารมืออาชีพ เพื่อแก้ไขเศรษฐกิจ ซึ่งคิดเป็น ทำได้ และเคยทำสำเร็จมาแล้ว ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การบริหารประเทศด้วยวิธีคิดและการจัดการแบบทหาร มีข้ออ้างถึงความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นประเด็นหลักในการแก้ไขปัญหา โดยไม่ได้เข้าใจถึงสภาวะความเป็นอยู่ที่แท้จริงของพี่น้องประชาชน  สภาพเศรษฐกิจไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และขาดการจัดการอย่างเป็นระบบ ประชาชนทุกกลุ่มทุกระดับอยู่ในสภาวะของสังคมที่ถูกทำให้สงบจำนนด้วยความทุกข์ทุกหย่อมหญ้า
      วันนี้ทีมเพื่อไทยพร้อมที่จะเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทย เพื่อสร้างและคืนรายได้ให้ประชาชนกลับมามีเงินใช้เต็มกระเป๋า ด้วยการเพิ่มพลังเกษตรกรไทยให้สามารถขายสินค้าได้ราคาดี เพิ่มพลังเอสเอ็มอีให้มีความพร้อมบุกตลาดโลกด้วยเทคโนโลยี เพิ่มพลังการส่งออกด้วยความเชี่ยวชาญในเวทีโลกของทีมเพื่อไทย ซึ่งเราเป็นหนึ่งไม่รองใคร เพิ่มพลังรายได้จากการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ที่นำนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากระจายรายได้ทุกจังหวัด และเพิ่มพลังคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างเถ้าแก่ใหม่ทั่วประเทศ โดยนโยบายดังกล่าวจะดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ ไทยทำ ไทยทันสมัย ไทยเท่า ไทยเชื่อมไทย ไทยเชื่อมโลก และไทยยั่งยืน 
    ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวภายหลังงานแถลงนโยบายและเปิดตัวผู้สมัครพรรคว่า พร้อมส่งผู้สมัครครบ 350 เขต โดยจะเสนอชื่อตนในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคเพียงคนเดียว ซึ่งตั้งเป้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี นโยบายทั้ง 9 ข้อ ถือเป็นไฮไลต์ของพรรค นโยบายของพรรคไม่ได้ไปทะเลาะกับใคร เพราะไม่ได้มีการกล่าวร้ายพรรคใด และเราจะไม่เป็นศัตรูกับพรรคอื่น 
    ที่ศาลาประชาคม ชุมชนคลองเตย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวภายหลังเปิดศูนย์ประสานงานเขตคลองเตย พร้อมแนะนำนายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล หรือ “บิ๊กเบน” ว่าที่ผู้สมัครของพรรคเขต 4 คลองเตย-วัฒนา ว่า พี่น้องประชาชนจะเลือกพรรคเพื่อไทยเราไม่ว่า แต่ขอบอกว่าที่พรรคเพื่อไทยมีพรรคไทยรักษาชาติของเราก็มีหมดทุกอย่าง ซึ่งเรามั่นใจว่าจะคิดนโยบาย ที่ช่วยแก้ไขปัญหา ทำให้ประชาชนอยู่มีกินดี และมั่นใจได้เลยว่าไม่มีการไปสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ
เป็นกลางร่วมได้ทุกพรรค
    ที่โรงแรมเซ็นทารา บาย เซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้จัดงานปฐมนิเทศผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค โดยมีกรรมการบริหารพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค กล่าวว่า พรรคนี้เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่อายุ 44 ปี พรรคการเมืองที่เกิดขึ้นมาแต่ละพรรคจะมีศิษย์เก่าของพรรคชาติไทยพัฒนาอยู่เกือบทุกพรรค ทำให้เราไม่มีปัญหากับใคร และพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น จึงถูกเรียกว่าพรรคเป็นกลางร่วมกับใครก็ได้ ซึ่งเป็นนโยบายตั้งแต่สมัยของนายบรรหาร ศิลปอาชา 
    "ทุกครั้งที่มีการจัดตั้งรัฐบาล ต้องมีการปรึกษาท่านบรรหาร โดยท่านเป็นคนอ่อนน้อม ไม่เคยโอ้อวดว่าพรรคหรือตัวท่านเป็นคนเก่ง อันเป็นสร้างรากฐานให้พรรคมีแต่มิตรโดยไม่มีศัตรู ทั้งหมดจะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองนี้เป็นพรรคเก่าแก่และมีครอบครัวศิลปอาชาคอยสนับสนุนมาตลอด ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาหลายคนปรามาสว่าพรรคนี้จะล่มสลาย ดังนั้น ทุกคนต้องให้กำลังใจหัวหน้าพรรคในฐานะแม่ทัพใหญ่ และนำพาพรรคชาติไทยพัฒนาให้ตลอดรอดฝั่ง ถ้ารักนายบรรหารอย่างไร ก็ต้องรักหัวหน้าพรรคกัญจนาอย่างนั้นเช่นกัน" นายประภัตรระบุ
    จากนั้น น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวเปิดการปฐมนิเทศว่า หลายคนจับตามองว่ากัญจนาจะนำพรรคลงเลือกตั้งอย่างไร เพราะเป็นครั้งแรกที่พรรคลงเลือกตั้งโดยไม่มีพ่อบรรหารแล้ว มรสุมเมื่อครั้งที่พ่อเป็นนายกฯ ทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น วันนี้ไม่มีพ่อก็จริง แต่ได้ทิ้งเลือดนักสู้เอาไว้ให้กับลูก เราทุกคนสามารถเติบโตจากศูนย์ได้เหมือนกับพ่อบรรหารที่ไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง แต่สามารถสู้และเป็นนายกฯ ได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่พรรคส่งผู้สมัครส.ส.มากที่สุด
    ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคและคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรคชาติไทยพัฒนา ได้จัดทำหนังสือ “แผนปฏิบัติการเร่งด่วน 7 ด้าน” เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้สมัครสำหรับใช้ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง โดยมีสาระสำคัญ อาทิ แผนปฏิบัติการชาติไทยพัฒนาด้านการเกษตร ภายใต้แนวคิด “การเกษตรทันสมัย มีเงินใช้ทุกครัวเรือน” ด้วยการส่งเสริมการทำงานของอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) คนละ 1,000 บาทต่อเดือน และทุนเรียนฟรีสำหรับการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการเกษตร, แผนปฏิบัติการชาติไทยพัฒนาด้านสังคม ภายใต้หลัก “สร้างสวัสดิการให้ทุกวัน ใส่ใจกับผู้ด้อยโอกาส” ให้มีกองทุนมรดกเงินล้าน ทุนสำรองยามยาก เพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน เป็นต้น 
    ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ  ขึ้นเวทีปราศรัยระหว่างได้ลงพื้นที่ตำบลหนองหญ้าป้อง จังหวัดสุโขทัย ว่าจะต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ครอบคลุม รวมถึงนโยบายของพรรค ได้ให้ความสำคัญกับเกษตรกร โดยเฉพาะราคาข้าว นอกจากนี้ ยังสนับสนุนอาชีพเสริมด้วยนโยบายโคบาลประชารัฐ พร้อมเดินหน้านโยบาย ส.ป.ก. และการพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปีไม่มีดอกเบี้ย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"