ดาวรุ่งของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้รับการกล่าวขานที่สุดอีกดวงหนึ่ง เห็นจะเป็น “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ วังทองหลาง (แขวงพลับพลา) เบอร์ 8 และอีกฐานะหนึ่งเป็นหลานชายของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในช่วงแรกเริ่ม “พริษฐ์” ถูกตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับตระกูลที่มีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติกันกับหัวหน้าพรรคของเขา แต่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการได้รับโอกาสเป็นผู้สมัครในนามประชาธิปัตย์ มาจากความสามารถและการกล้าคิดกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง

        ภายหลังที่เจ้าตัวพร้อมทีมงานลงพื้นที่พบปะประชาชนได้ระยะหนึ่ง วันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับ “พริษฐ์” ซึ่งเขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อตัดสินใจกระโดดเล่นการเมือง พูดเสมอว่าอยากร่วมสร้างประชาธิปัตย์ยุคใหม่ 3 อย่าง ซึ่งขณะนี้ได้รับการตอบสนองจากพรรคแล้ว คือ 1.อุดมการณ์ชัดเจนมากขึ้นว่าเราจะเป็นตัวแทนของคนที่เชื่อมั่นในเสรีนิยมประชาธิปไตย และเป็นตัวแทนของผู้คนที่ยึดมั่นในหลักมาตรฐานประชาธิปไตยสากล

        ทั้งนี้ ประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่ออกมาชัดเจนว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และเป็นพรรคแรกที่เรียกร้องให้ 250 สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่ควรขัดเจตนารมณ์ ส.ส. ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชน นอกจากนี้ เรามีหัวหน้าพรรคที่มาจากการเลือกตั้งของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นพรรคเดียว และตนเองคิดว่านี่คือจิตวิญญาณประชาธิปไตยในพรรค

        2.พูดเสมอว่าอยากนำเทคโนโลยีมาใช้กับประชาชนและสมาชิกของพรรคในทางการเมือง ซึ่งเราก็ได้ปรับเว็บไซต์พรรคให้มีการสื่อสารสองทาง อย่างนโยบายหาเสียงที่เราแถลง ประชาชนสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ อย่างไร และ 3.โลกเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ดังนั้น นโยบายจึงต้องคิดนอกกรอบ ต้องพยายามหาวิธีการตอบโจทย์ปัญหาใหม่ๆ เช่น สังคมสูงวัย ความเสี่ยงตกงานอันเนื่องมาจากเทคโนโลยีที่เข้ามาทดแทน เป็นต้น

        “ผมเชื่อมั่นว่านโยบายพรรครอบนี้เป็นนโยบายที่ชัดเจน รูปธรรม ทำได้จริง เพราะเรามีกระบวนการร่างนโยบายที่แตกต่างไปจากเดิม มีการตั้งสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย ซึ่งอิงข้อมูลวิชาการและภาคเอกชน ได้ทดลองนำร่องนโยบาย เช่น เรามีเป้าหมายอยากเห็นเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษได้ เราก็ได้ลองปรับหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนแห่งหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก ทดลองมา 3 ปีกับโครงการที่ชื่อ English for all ซึ่ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่านโยบายของเราทำได้จริง”

        “พริษฐ์” เชื่อว่าผลงานที่ผ่านมาของพรรคจะทำให้ประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งในการเลือกตั้งปี 62 นี้ โดยยกเหตุผลว่าเพราะพรรคเป็นทางหลักในการนำพาประเทศพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคแสดงให้เห็นว่ายามที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกแฮมเบอร์เกอร์ รัฐบาลประชาธิปัตย์ได้นำพาประเทศออกจากวิกฤติตรงนั้นได้ จากประสบการณ์ จากทีมงาน ผสมกับนโยบายที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี ครั้งนี้ก็เช่นกัน นโยบายของเราจะตอบโจทย์วิกฤติความเหลื่อมล้ำได้หลายอย่าง

        นอกจากนี้ เชื่อว่าพรรคจะกอบกู้วิกฤติทุจริตได้ "เราเห็นแล้วไม่ว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือรัฐบาลมาจากรัฐประหาร ปัญหาทุจริตยังมีเหมือนเดิม ในทางกลับกัน จะเห็นได้ว่าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนไม่เคยมีใครที่มีปัญหาเรื่องการทุจริต และยิ่งไปกว่านั้น พรรคมีนโยบายเอาจริงกับทุจริต คือ เปิดตัวคนโกงได้ รัฐให้รางวัล"

        “พริษฐ์” ขยายว่า ที่ผ่านมาคนรอบตัวของหัวหน้าพรรคเพียงแค่ถูกกล่าวหาตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีก็ต้องลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้ตรวจสอบ ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการเมืองที่กฎหมายไม่ได้กำหนด แต่มันคือมาตรฐานที่สร้างขึ้นเองภายในพรรคของเรา และต้องเรียนตรงๆ ว่าไม่ใช่ทุกพรรคจะทำได้แบบนี้

        ท้ายสุด สาเหตุที่ประชาชนจะต้องเลือกเรา เพราะประชาธิปัตย์จะนำพาให้ประเทศพ้นจากวิกฤติการเมือง โดยการสร้างประชาธิปไตยที่ยั่งยืนและเคารพเสียงของประชาชน อีกทั้งเราจะทำประชาธิปไตยแบบถ่วงดุลอำนาจที่ชัดเจน

      “วันนี้ ประชาธิปัตย์ชัดเจนมากว่าจิตวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตยสูงสุด ภายในพรรคก็มาจากการเลือกตั้ง สำหรับเรา เราแสดงให้เห็นแล้วว่ายึดมั่นประชาธิปไตยตั้งแต่ในพรรคกันเอง เช่นเดียวกันกับในระดับประเทศเราก็จะสวมวิญญาณเดิม” พริษฐ์ ผู้สมัครส.ส.เขตบางกะปิ วังทองหลาง (แขวงพลับพลา) หมายเลข 8 กล่าวสรุป.

 

ชื่อ พริษฐ์ นามสกุล วัชรสินธุ ชื่อเล่น ไอติม

เกิด 10 ธ.ค.2535

การศึกษา ปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 และปริญญาโท คณะปรัชญาเศรษศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ

ประสบการณ์ที่ผ่านมา ปี 2561 จนปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ และปี 2558-2561 ผู้บริหารโครงการ บริษัท MCKINSEY & COMPANY ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ให้รัฐบาลและธุรกิจในทวีปยุโรปและเอเชีย