ซัดตระกูลเพื่อที‘ปู’หนีดีเบต


เพิ่มเพื่อน    

  ดีเบตระอุ! โซเชียลฯ ตอกตระกูลเพื่อหน้าหงาย สมัย "ยิ่งลักษณ์" ทำไมไม่ส่งขึ้นเวที "จตุพร" หยาม "บิ๊กตู่" ไม่น่ากลัว เป็นเผด็จการที่ขอโทษมากที่สุดในโลก พปชร.แบไต๋ไม่ส่ง "ประยุทธ์" ประชัน อ้างประชาชนรู้จักดีแล้ว  25 ก.พ.นี้เปิดตัวหนังสือ “ประชารัฐ สร้างชาติ” กับ 11 เหตุผลทำไมต้องเลือกลุงตู่เป็นนายกฯ "ธนกร" ลั่นคนเป็นนายกฯ ต้องไม่เคยขึ้นเวทีเหลือง-แดงมาก่อน 

    เมื่อวันเสาร์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณีที่ตนได้ประกาศท้าดีเบตกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) แต่นายสุเทพตอบกลับมาว่าตนเองไม่ใช่คนสำคัญและไม่ให้ความสำคัญว่า ตนนั้นยังให้ความสำคัญกับนายสุเทพอยู่อย่างที่เคยประกาศไว้ 
    "เมื่อวานนี้ได้ให้ลูกน้องมาบอกว่าจะให้เล่าปี่มาดีเบตกับคนเลี้ยงช้างได้อย่างไร แต่เนื่องจากเป็นเวทีดีเบต ผมจึงพยายามไม่หยิบยกเรื่องนี้กลับมาพูดอีก ระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นสิ่งที่คุณสุเทพจะต้องไปอบรมสมาชิกให้รับรู้ว่า ระหว่างคนเลี้ยงช้างกับเล่าปี่นั้น ถ้าเล่าปี่ยังอยู่ในยุคสมัยนี้ คนเลี้ยงช้างกับเล่าปี่เสียงเท่ากันในวันเลือกตั้ง ดังนั้นวันเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ว่าใครใหญ่กว่าจะได้เสียงมากกว่า คนที่เป็นพลเอกกับประชาชนเข้าคูหาเลือกตั้งก็ใช้สิทธิ์เท่ากัน และนี่คือประชาธิปไตย" 
    นายจตุพรยืนยันว่า ไม่ได้จะเกาะกระแสอะไรกับนายสุเทพ เพราะไม่ทราบว่าจะไปเกาะกระแสเรื่องอะไร อีกทั้งเคยฟาดฟันกันในเวทีรัฐสภา นอกสภา และอยู่สถานะที่ยืนคนละฝ่าย ซึ่งความเป็นจริงตนก็ไม่อยากสนใจ แต่เมื่อนายสุเทพประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ วิจารณ์พรรคฝั่งตรงข้ามด้วยการประกาศว่าจะไม่ร่วมด้วย ทั้งที่ไม่เคยถามฝั่งนี้เลยว่าจะร่วมสังฆกรรมกับนายสุเทพหรือไม่ ทั้งนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยต้องการรักษาบรรยากาศ และหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 
    ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะจัดเวทีดีเบตนโยบายบริหารประเทศ 54 พรรค โดยยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นดีเบตได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม นายจตุพรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่สิ่งน่ากลัวในเวทีดีเบต ในช่วงห้าปีที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์พูดข้างเดียวมาโดยตลอด ไม่เคยมีการพูดในลักษณะตอบโต้ แม้แค่ถูกตั้งคำถาม ก็ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังคงมีนิสัยดี ด้วยการขอโทษทีหลัง คนไทยก็ให้อภัยมาโดยตลอด 
    "เป็นเผด็จการที่ขอโทษมากที่สุด อย่าว่าแต่ในประเทศไทย ทั้งโลกก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นในวันนี้ ผมมองว่าทุกคนไม่ได้กลัวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาในสนามการดีเบต เพราะทุกคนรู้ว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาในสนามดีเบตหรือสนามการเลือกตั้งนั้น ทุกคนก็รู้ดีว่าจะจัดการกับ พล.อ.ประยุทธ์อย่างไร"
    นายจตุพรยืนยันว่าไม่เคยแช่ง พล.อ.ประยุทธ์ให้เครื่องบินตก ซึ่งแปลกใจว่าทำไมมีคนแช่งให้เครื่องบินตก เพราะฉะนั้นขอร้องคนไทย อย่าไปแช่งให้เครื่องบินตก เพราะบนเครื่องบินไม่ได้มี พล.อ.ประยุทธ์เพียงคนเดียว 
"เสี่ยอ๋อย"ยังวนที่เดิม
    นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า พลเอกประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้จริงหรือ ตามที่มีการยกประเด็นว่าพลเอกประยุทธ์มีสิทธิ์ที่จะไปร่วมเวทีดีเบตหรือไม่นั้น ผมไม่คิดว่าเป็นประเด็นที่ กกต.จะต้องพิจารณาอะไรเลย รวมทั้งการที่พลเอกประยุทธ์จะออกไปเดินหาเสียงพบปะประชาชนด้วย เพราะพลเอกประยุทธ์มีสถานะเป็นผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้รับการคัดเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคการเมือง
    "แต่ที่เป็นประเด็นที่จะต้องพิจารณาก็คือ พลเอกประยุทธ์มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 และมาตรา 98 (15) หรือไม่ เนื่องจากพลเอกประยุทธ์เป็นหัวหน้า คสช. ซึ่งต้องถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าหัวหน้า คสช.และสมาชิก คสช.ไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วเป็นอะไรกันครับ" นายจาตุรนต์ระบุ
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง? เพราะ พล.อ.ประยุทธ์?อาสาตัวเป็นนายกฯ ?แล้ว? ก็?ต้องมาแสดงวิสัยทัศน์?ให้ประชาชนได้เห็น? โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อห้ามทางกฎหมาย? เพราะยิ่งแสดงวิสัยทัศน์? ประชาชนก็เข้าถึงได้มากขึ้น? เป็นสิ่งที่ดีกับบ้านเมือง? เวลาอยู่บนเวที? มันชกมันกว่า? และตนเองก็อยากร่วมเวทีดีเบตกับพล.อ.ประยุทธ์?อย่างมาก
    พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ถือว่าเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย ที่เปิดโอกาสให้กับทุกคน ทุกฝ่าย ได้มีโอกาสในการแสดงความเห็น แสดงวิสัยทัศน์ ทั้งนี้ การที่ท่านนายกฯ จะตอบตกลงมาร่วมเวทีดีเบตหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถก้าวล่วงไปเสนอแนะได้ เพราะอยู่ที่การตัดสินใจของตัวท่านนายกฯ เอง
    นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในเมื่อกฎหมายไม่ได้ห้ามผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นแคนดิเดตนายกฯ เข้าร่วมเวทีดีเบต นายกฯ ก็ควรจัดเวลาประชันวิสัยทัศน์กับแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองต่างๆ เพราะประชาชนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งจะได้พิจารณาว่า วิสัยทัศน์ของคนที่จะมารับผิดชอบบริหารประเทศอีก 4 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไร 
    เขากล่าวว่า การแสดงวิสัยทัศน์ดีเบตของว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ดังนี้ 1.ส่งเสริมการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่างๆ อย่างมีเหตุผล 2.ประชาชนจะได้เปรียบเทียบวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯ ในประเด็นสำคัญของบ้านเมือง และ 3.แคนดิเดตนายกฯ จะได้แสดงความรู้ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
    นายองอาจกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเกือบ 5 ปี นายกฯ สื่อสารทางเดียวมาตลอด ไม่เปิดโอกาสให้ใครแสดงความคิดเห็นต่างๆ ในเวทีเดียวกัน แม้แต่นักข่าวจะสอบถามเรื่องที่ประชาชนสนใจ ท่านก็มักใช้ท่าทีแสดงออกที่ไม่เหมาะสมอยู่บ่อยๆ รวมถึงชาวบ้านต้องการบอกถึงความเดือดร้อนของตน ท่านก็ตวาดใส่มาแล้ว ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯ ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ดีเบตกับแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมืองอื่นด้วย เพื่อความสง่างามของคนที่จะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี 
    นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องการดีเบตพรรคได้ทำเรื่องขอความชัดเจนด้านกฎหมายจาก กกต. ดังนั้นเราต้องดูในแง่ของกฎหมายด้วย และความจริงแล้วทัศนะของพรรคเอง เรื่องของการดีเบตไม่ใช่เรื่องที่พรรคต้องไปกังวลใจอะไรมาก และ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ แตกต่างจากพรรคการเมืองคนอื่น และประชาชนรู้จักท่านดีอยู่แล้ว หรือว่าท่านตั้งใจทำงานให้บ้านเมือง ท่านทุ่มเทแค่ไหน มีแนวคิดในการทำงานให้ชาติบ้านเมืองอย่างไร 
พปชร.ปูพรมเปิดตัว "บิ๊กตู่"
    "คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความชัดเจนในตัวอยู่แล้ว และพี่น้องประชาชนก็รู้จักท่าน โดยที่ท่านไม่ต้องพูดอะไร เพียงแต่ว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสพูดกับพี่น้องประชาชน ในความรู้สึกของท่าน หลังจากการเลือกตั้งแล้วว่ามีความคิดอย่างไร น่าจะเป็นประโยชน์ พรรคจะพยายามหาเวที ถ้าเป็นไปได้ในทางกฎหมาย เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสพูดกับพี่น้องประชาชน"
    เขายืนยันว่า พรรคให้ความสำคัญมากๆ กับเรื่องกฎหมาย จะเห็นได้ว่าพรรคอยู่ในกฎเกณฑ์กติกาเสมอ และเพื่อให้เรื่องนี้มีความชัดเจน ซึ่งก็ต้องรอคำตอบจาก กกต. เมื่อได้ผลมาอย่างไร พรรคก็จะมาดู ว่าสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์จะแสดงบทบาทได้อย่างไร ขอรอความชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรจาก กกต.ก่อน ตอนนี้มีแต่การพูดกันลอยๆ 
    ด้านนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากที่พรรคเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีพรรคและพรรคได้จัดทำปูมชีวิตบางส่วน สะท้อนตัวตน ความตั้งใจ ปณิธานของชีวิต ผลงานที่โดดเด่นและก้าวต่อไปของท่าน ผ่านภาพอินโฟกราฟฟิก กับ 11 เหตุผลทำไมต้องเลือก "ลุงตู่" เป็นนายกฯ ได้แก่ 1.นำความสงบกลับคืนมา 2.มีความเป็นผู้นำสูง 3.กล้าตัดสินใจที่น้อยคนจะทำได้ 4.ทำจริง ทำได้ และทำให้เห็นมาแล้ว 5.ตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช่นอมินี 6.เสียสละเพื่อชาติ 7.รักประชาชน รักประเทศไทย 8.เป็นนายกรัฐมนตรีที่สัมผัสได้ ติดดิน ประชาชนเข้าถึง พึ่งได้ 9.มีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล 10.สร้างฐานรากประชาธิปไตย 11. มีความเป็นมนุษย์สูง เข้าถึงจิตใจของประชาชน สัมผัสได้ถึงรอยยิ้มที่อบอุ่น จริงใจ มีอารมณ์ขัน อารมณ์ไม่ดีกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผ่านโซเชียลมีเดียไปแล้วนั้น
    นายสุวิทย์เปิดเผยว่า วันที่ 25 ก.พ. เวลา 11.00 น. ที่ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ทางพรรคจะแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “ประชารัฐ สร้างชาติ” ภายในหนังสือจะพบกับมุมของลุงตู่ ที่หลายคนไม่เคยสัมผัส เส้นทางชีวิต ความเป็นมา คู่ชีวิต และชีวิตที่กล้าสละ เพื่อการปกป้องรักษาแผ่นดิน แต่ทำไมลุงตู่ถึงต้องก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมือง และคำตอบว่าทำไมพรรคพลังประชารัฐจึงเสนอชื่อลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรี ให้เป็นคำตอบสุดท้ายของบ้านเมืองในปัจจุบันนั้น และ 4 ปีที่ผ่านมาการบริหารประเทศของรัฐบาลลุงตู่ ถือว่าเสียของจริงหรือไม่ หาคำตอบได้เล่มนี้
    รวมถึงผลงานต่างๆ ที่ปรากฏ พิสูจน์ได้ด้วยข้อเท็จจริง ประเทศชาติมีปัญหาหมักหมมมานาน เศรษฐกิจเคยเติบโตแค่ 0.9% แต่ยุคลุงตู่กลับโตมากกว่า 4 เท่าในช่วงเวลา 4 ปีด้วยวิธีบริหารอย่างไร เปิดมุมมองทิศทางนโยบายสำคัญ ความมุ่งมั่นในการสร้างชาติ สร้างบ้านเมือง ให้ประเทศชาติมั่นคง ความจริงที่พิสูจน์ได้ที่คนไทยทุกคนจะได้รับรู้ พบกับ “ประชารัฐ สร้างชาติ” หนังสือจากหัวใจ ...ที่ท่านจะอดรักลุงตู่ไม่ได้.....สร้างไทยให้สุขสงบมั่นคง แข็งแรง เติบโต ยั่งยืน โดยหนังสือจะแจกให้ผู้สมัครนำไปใช้รณรงค์หาเสียงกับประชาชน
นายกฯ ต้องไม่ขึ้นเวทีม็อบ
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ พรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่อย่างหนักเพื่อขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เน้นนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ซึ่งประเทศไทยต้องการความสงบ ความสามัคคีเป็นอันดับแรก บุคคลที่เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องไม่ใช่คนที่เคยขึ้นเวทีเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง เพราะนั่นคือคนที่อยู่ในความขัดแย้งมาก่อน ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นทางออกของประเทศไทย
    เขากล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ เราไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร แต่หลายพรรคพยายามจะให้เราเป็นคู่ขัดแย้งด้วย กลายเป็นเหมือนเราถูกรุม แต่เราจะมุ่งสู่การเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว และเชื่อว่านโยบายของพรรคจะตอบโจทย์พี่น้องประชาชนได้ สามารถสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับพี่น้องประชาชนได้ โดยเฉพาะนโยบายราคาพืชผลทางการเกษตร นโยบายสวัสดิการต่างๆ นโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี ขอให้เชื่อมั่นว่าทุกนโยบายพรรคทำได้จริง และบางนโยบายจะต่อยอดนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย โดยเราจะทำให้ดีกว่าเดิมอีก 
    ส่วนกรณีที่หลายพรรคการเมืองต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นดีเบตด้วยนั้น นายธนกรกล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงออกมาเรียกร้องแบบนี้ เพราะทุกพรรครู้ดีแก่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องดูข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะท่านวางตัวเป็นกลางมาตลอด และเป็นสิทธิของท่านว่าจะดีเบตหรือไม่ก็ได้ วันนี้พรรคการเมืองบางพรรคก็ยังโจมตีท่านอยู่ดี ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูผิดไปหมดในสายตาของพรรคคู่แข่ง หลอกด่าท่านไปวันๆ อยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องแสร้งทำเป็นมาขอท้าดีเบต น่าจะเอาเวลาไปหาเสียงดีกว่า 
    กรณีหลายพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ ล่าสุดสังคมออนไลน์กำลังให้ความสนใจต่อโพสต์ของสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งที่โพสต์ว่า  "มันแปลกดีนะ วันนี้พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้นายกฯประยุทธ์มาดีเบต ย้อนไปตอนเลือกตั้งปี 54 กลับไม่กล้าส่งยิ่งลักษณ์มาดีเบต" ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวมีผู้กดไลก์และแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"