'สนธิรัตน์'ตอกเจ็บชี้พื้นที่ 'บางบอน' ต้องไม่ใช่เมืองนักเลงอีกต่อไป


เพิ่มเพื่อน    

 

 3 มี.ค. 2562 เมื่อ​ 07.30 น.​  ที่ตลาดเช้าวัดหนองแขม  นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ​ (พปชร.)​ พร้อมด้วยนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้สมัคร เขต 26 บางบอน หนองแขม หมายเลข 14  ลงพื้นที่พบปะประชาชนและผู้ค้า โดยนายสนธิรัตน์​ กล่าวว่า​ เป็นคนต้นคิดและเป็นเจ้าของบัตรคนจน 14 ล้านคน ที่ทุกคนได้อานิสงค์ วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยมเยืยน ชาวตลาดหนองแขม และถ้าอยากปรับเปลี่ยนหนองแขมและบางบอนก็จะต้องเลือกคนของพรรคเข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร

“ถึงเวลาต้องเปลี่ยนบางบอน ถ้าไม่อยากให้บางบอนเป็นเมืองนักเลง หรือเมืองอิทธิพลก็ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผมเป็นคนริเริ่ม แต่พรรคอื่นกลับจะให้ยกเลิก” นายสนธิรัตน์​ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับป้ายหาเสียงที่ทีมงานของผู้สมัครใช้ในการเดินเท้าเพื่อพบปะประชาชนและขอคะแนนเสียงในวันนี้มีทั้งป้าย​ "เปลี่ยนคนเก่า" “ไม่เอาคนเกเร” “เลือกคนใหม่” ซึ่งหลังจากเดินพบปะบรรดาผู้ค้าที่ตลาดวัดหนองแขม นายสนธิรัตน์และผู้สมัครได้แวะรับประทานข้าวต้มและโจ๊กร่วมกับผู้นำและชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งได้รับฟังการสะท้อนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆจากชาวบ้าน​ ซึ่งบางส่วนได้ร้องทุกข์ถึงปัญหาการเป็นเมืองนักเลงของย่านหนองแขมบางบอนรวมทั้งปัญหาเรื่องปากท้องและการค้าขายโดยนายสนธิรัตน์ได้ระบุได้ยืนยันว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหาก็จะสามารถคลี่คลายไปได้ และถ้าเลือกพรรคจะมีการสานต่อบัตรพลังประชารัฐ การเพิ่มรายได้และแก้ปัญหาต่างๆในแต่ละพื้นที่ให้ดีขึ้น เนื่องจากพรรค พปชร.มีทีมงานของคนรุ่นใหม่ซึ่งมีแนวคิดต่างๆที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนทุกทุกพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการลงพื้นที่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.หนองแขมมาสังเกตการณ์บริเวณตลาด พร้อมถ่ายรูปขณะนายสนธิรัตน์และทีมงานกำลังหาเสียงและรับประทานอาหารเช้า

ต่อมานายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรค​ พปชร.อาสามาทำให้กรุงเทพต้องดีกว่าเดิม การลงพื้นที่หนองแขมวันนี้เพื่อเป็นการรับฟังปัญหา และมาดูว่าในพื้นที่นี้จะเชื่อมโยงกับการทำงานของพรรคอย่างไร โดยจากที่ตนลงพื้นที่ต่างๆในกทม.พบว่าปัญหาใหญ่คือการขาดการเชื่อมโยง ระหว่างผู้นำชุมชนในพื้นที่กับผู้แทนในอดีต ซึ่งตรงนี้พปชร.จะใช้เป็นนโยบายหลัก ในการเชื่อมโยงแกนนำของชุมชน และปัญหาของพื้นที่ เข้าสู่การบริหารจัดการ และพรรคจะขับเคลื่อน แก้ปัญหาถ้าหากมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล

"ในส่วนของพื้นที่นี้ ปัญหาใหญ่คือเรื่องน้ำเสีย ที่นี่มีคลอง แต่น้ำนั้นเสีย นอกจากนี้ที่นี่ยังขาดการพัฒนาการยกระดับม่าเป็น​ 10​ ปี น้ำท่วม น้ำขัง หรือกระทั่งเรื่องของยาเสพติดที่ระบาดอยู่ในชุมชนสิ่งเหล่านี้เราต้องเชื่อมโยงกันแก้ปัญหา"นายสนธิรัตน์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ ในเรื่องเมืองนักเลง อย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มันเป็นความรู้สึกของชาวบ้านที่ไม่อยากให้คนมองว่าพื้นที่บางบอนและหนองแขมเป็นพื้นที่อิทธิพล ตนจึงบอกกับชาวบ้านว่าให้เชื่อมั่นว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น และเราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงให้ภาพลักษณ์นั้นไม่ใช่เป็นอย่างเดิม นี่คือเสียงความรู้สึกจากชาวบ้านว่าเขาอยู่ที่ตรงไหน ก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น ซึ่งถ้าไม่ได้เป็นก็จะรู้สึกไม่สบายใจ

เมื่อถามว่า ประเมินตัวผู้สมัครอย่างไรบ้าง เพราะไม่เคยมีฐานเสียงมาก่อน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นายวัชระทำงานหนัก และยากพอสมควร แต่ด้วยความตั้งใจเขาเดินเข้าหาประชาชน ซึ่งขณะนี้เสียงตอบรับในตัวนายวัชระสูงมาก เพราะเขาอยากเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิมๆไปสู่สิ่งใหม่ๆนายวัชระจึงกลายเป็นความหวังใหม่ในพื้นที่ และตนมั่นใจว่าเวลาที่เหลือจนถึงวันเลือกตั้ง หากนายวัชระยังเดินเข้าหาประชาชนอย่างนี้ มั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในเขตนี้แน่นอน 

"สามสัปดาห์สุดท้ายขอให้จับตาดูพรรคพลังประชารัฐให้ดี​ เพราะเราจะมีไม้เด็ดหลายเรื่อง ส่วนการเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาร่วมหาเสียงนั้นตอนนี้ทางพรรคกำลังหารือกันเรื่องนี้อยู่ ยืนยันว่าพรรคมีแผนและยุทธศาสตร์ในการหาเสียง และปราศรัยใหญ่ และหากจะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ มาช่วย ก็ต้องปรับให้เข้ากับแผนของพรรคและสอดรับกับตารางงานของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นสิ่งไม่ง่ายที่จะเชื่อมโยงกัน แต่พรรคกำลังทำเรื่องนี้กันอยู่ คาดว่า1-2วันนี้จะได้คำตอบ" นายสนธิรัตน์ กล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"