ซีเอฟโอหัวเว่ยฟ้องแคนาดา เรียกค่าเสียหายโดนจับกุมที่สนามบิน


เพิ่มเพื่อน    

เมิ่ง ว่านโจว ซีเอฟโอของหัวเว่ย ยื่นฟ้องรัฐบาลแคนาดาและหน่วยงานรัฐของแคนาดาเพื่อเรียกค่าเสียหาย โดยกล่าวหาทางการแคนาดาว่าละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญของเธอ จากการควบคุมตัวตรวจค้นและจับกุมเธอที่สนามบินแวนคูเวอร์เมื่อปลายปีที่แล้วตามคำร้องขอของรัฐบาลสหรัฐ ที่ขอตัวเธอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนในคดีละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน

แฟ้มภาพ วันที่ 12 ธันวาคม 2561 เมิ่ง ว่านโจว (ขวา) เปิดประตูต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมถึงบ้านในเมืองแวนคูเวอร์ หลังจากเธอได้ประกันตัว / AFP

    รายงานเอเอฟพี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2562 กล่าวว่า เมิ่ง ว่านโจว หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) และเป็นบุตรีของผู้ก่อตั้งหัวเว่ยเทคโนโลยีส์ ให้ทนายความยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดรัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา เมื่อวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่กระทรวงยุติธรรมแคนาดาเริ่มกระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการ เพื่อส่งตัวเมิ่งให้สหรัฐ

    ในคำฟ้องคดีแพ่ง ทนายความของเมิ่งกล่าวว่า พฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ทางการแคนาดาเพื่อให้ได้หลักฐานและข้อมูลจากตัวเธอระหว่างการควบคุมเธอที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศแวนคูเวอร์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 นั้นเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญของแคนาดา

    ฮาวเวิร์ด มิดเคลสัน และอัลลัน ดูลิตเติล ทนายความของเมิ่งกล่าวด้วยว่า จากเหตุที่เมิ่งโดนละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรงนี้ เธอจึงต้องการเรียกร้องค่าเสียหายจากการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐและการควบคุมตัวไว้อย่างผิดๆ ที่สนามบิน

    นักธุรกิจหญิงชาวจีนวัย 47 ปีรายนี้รอเปลี่ยนเครื่องบินที่นครแวนคูเวอร์ แต่โดนเจ้าหน้าที่ทางการแคนาดาควบคุมตัวตามคำร้องขอของรัฐบาลสหรัฐ ฐานต้องสงสัยว่าละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ รัฐบาลจีนไม่พอใจอย่างรุนแรงและควบคุมตัวพลเมืองชาวแคนาดาไว้หลายรายเพื่อตอบโต้

    ทนายความของเมิ่งกล่าวถึงการดำเนินการไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่แคนาดาระหว่างที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรแคนาดาสอบปากคำเธอนาน 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะจับกุมเธออย่างเป็นทางการ ในช่วงเวลานั้น เจ้าหน้าที่ศุลกากรละเมิดสิทธิของเมิ่งด้วยการตรวจค้นโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของเธอ รวมถึงกระเป๋าเดินทาง

    คำฟ้องระบุว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานบริการชายแดนแคนาดา (ซีบีเอสเอ) จงใจประวิงเวลาการดำเนินการตามหมายจับกุมโดยทันที และควบคุมตัว, ตรวจค้น และสอบปากคำเมิ่งอย่างผิดกฎหมาย เพื่อหาหลักฐานจากตัวเธอก่อนที่เธอจะโดนจับกุม

    ส่วนสำนักงานตำรวจรัฐบาลกลางแคนาดา (อาร์ซีเอ็มพี) นั้น กว่าจะดำเนินการตามหมายจับนั้นเป็นเวลา 3 ชั่วโมง หลังจากเมิ่งโดนควบคุมตัวที่สนามบิน "อย่างผิดกฎหมาย"

    คำฟ้องกล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ซีบีเอสเอสั่งให้เมิ่งส่งมอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, คอมพิวเตอร์และพาสเวิร์ด แล้วเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็เปิดและดูเนื้อหาในอุปกรณ์เหล่านี้อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเธอ เจ้าหน้าที่ซีบีเอสเอยังค้นกระเป๋าเดินทางของเมิ่ง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเช่นกัน

    "เจ้าหน้าที่ซีบีเอสเอรู้หรือไม่ก็เพิกเฉยอย่างสะเพร่าต่อข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาไม่มีอำนาจในการตรวจค้น ซึ่งดำเนินการภายใต้ข้ออ้างผิดๆ ว่าเป็นการตรวจทางศุลกากรปกติ หรือการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องกับคนเข้าเมือง" คำฟ้องกล่าว

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวหาหัวเว่ยและเมิ่งว่าเลี่ยงกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ และบริษัทลูกของหัวเว่ยยังขโมยความลับทางการค้าจากกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม ที-โมบายล์ ของสหรัฐด้วย ศาลแคนาดาอนุญาตให้ประกันตัวเมิ่งด้วยวงเงิน 6.6 ล้านดอลลาร์ เมื่อกลางเดือนธันวาคม แต่ได้ใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์และห้ามเธอเดินทางออกจากแคนาดา เมิ่งมีกำหนดขึ้นศาลวันพุธนี้ เพื่อนัดวันไต่สวนคดีส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"