เมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารที่เป็นทายาทของผู้ก่อตั้งบริษัท หัวเว่ย ได้รับอิสรภาพจากการถูกกักบริเวณนาน 3 ปี และเดินทางกลับจีนในวันเสาร์ ภายหลังอัยการสหรัฐทำความตกลงระงับข้อกล่าวหาคดีฉ้อโกง เปิดทางให้แคนาดาปล่อยตัวเธอ ส่วนจีนก็ปล่อยตัวพลเมืองแคนาดา 2 คนที่ถูกคุมขังข้อหาเป็นสายลับ

แฟ้มภาพ เมิ่ง หว่านโจว ซีเอฟโอหัวเว่ย ออกจากบ้านที่แวนคูเวอร์เพื่อไปขึ้นศาลเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564  (Getty Images)

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันเสาร์ที่ 25 กันยายน กล่าวว่า ทางการแคนาดาปล่อยตัวเมิ่ง หว่านโจว ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอัยการสหรัฐประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าได้บรรลุข้อตกลงกับเมิ่ง โดยฝ่ายเมิ่งยินยอมรับคำแถลงข้อเท็จจริงของคดี เพื่อแลกกับการที่สหรัฐระงับข้อกล่าวหาของเธอจนถึงปี 2565 และจะยกเลิกในที่สุดหากเมิ่งปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อตกลง

    ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของหัวเว่ยวัย 49 ปี เป็นบุตรีของเหริน เจิ้งเฟย อภิมหาเศรษฐีชาวจีนผู้ก่อตั้งบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่แห่งนี้ เธอโดนทางการแคนาดาจับกุมที่สนามบินแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ตามคำร้องขอของทางการสหรัฐ ที่ต้องการให้แคนาดาส่งตัวเธอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่าน เธอถูกกักบริเวณที่บ้านระหว่างรอการพิจารณาคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาสหรัฐ

    การจับกุมเมิ่งจุดชนวนความขัดแย้งทางการทูตระหว่างแคนาดากับจีน โดยไม่กี่วันต่อมา ทางการจีนจับกุมไมเคิล คอฟริก อดีตนักการทูตแคนาดา และไมเคิล สปาวอร์ นักธุรกิจชาวแคนาดา ด้วยข้อหาจารกรรม ที่นักวิจารณ์กล่าวกันว่าเป็น "การทูตจับตัวประกัน"

    ภายหลังได้รับการประกันตัว เมิ่งขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับนครเซินเจิ้นของจีนทันที โดยเธอโพสต์ข้อความ "ขอบคุณพรรคและรัฐบาล" ลงโซเชียลมีเดียของจีนขณะอยู่บนเครื่องบิน

    อีกด้านหนึ่ง นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ประกาศว่า พลเมืองแคนาดาทั้ง 2 ขึ้นเครื่องบินเดินทางพ้นจากน่านฟ้าของจีนแล้ว และกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านในวันเสาร์

    ขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐยืนเคียงข้างประชาคมระหว่างประเทศ ในการต้อนรับการตัดสินใจปล่อยตัวชายทั้งสอง

    รัฐบาลสหรัฐกล่าวหาเมิ่ง "เจ้าหญิงแห่งหัวเว่ย" ว่าฉ้อโกงและหลอกลวงธนาคารเอชเอสบีซี โดยบอกว่าเมิ่งพยายามปิดบังกรณีที่บริษัท สกายคอม ที่เป็นบริษัทย่อยของหัวเว่ย ฝ่าฝืนกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ แต่จีนระบุว่าข้อกล่าวหาและจับกุมเธอเป็น "เหตุการณ์ทางการเมืองล้วนๆ" โดยเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ต่อต้านบริษัท หัวเว่ย ที่สหรัฐกล่าวว่าใกล้ชิดกับรัฐบาลจีนและกองทัพจีน

    กาย เซนต์-ฌากส์ อดีตเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำจีน กล่าวกับเอเอฟพีว่า การปล่อยตัวคอฟริงและสปาวอร์ในเวลาประจวบเหมาะกับการปล่อยตัวเมิ่ง "ยืนยันว่านี่คือการทูตจับตัวประกัน" และยังหมายความว่า ขวากหนามความสัมพันธ์ทวิภาคีลดลงไปหนึ่งอย่าง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดาและจีนคงจะไม่กลับมาเหมือนแต่ก่อน.