ครม.หั่นภาษีรถอีวี-กระบะไร้ฝุ่น หวังกระตุ้นให้ผลิตยานยนต์รักสิ่งแวดล้อม


เพิ่มเพื่อน    

 

6 มี.ค. 2562 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า รถยนต์กระบะ และรถยนต์กระบะ 4 ประตู ตามที่กระทรวงคลังเสนอ โดยส่วนแรกจะยกเว้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าลงเหลือ 0% เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 – 31 ธ.ค.2565 และรถยนต์กระบะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ที่มีค่าฝุ่นพีเอ็มไม่เกิน 0.005 กรัมต่อกิโลเมตร หรือเครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 5 และรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลบี 20 ได้ จะปรับลดภาษีลงตามประเภทเครื่องยนต์ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้รถยนต์ดังกล่าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการดำเนินการทั้งหมด คาดว่ารับจะสูญรายได้ไม่เกินปีละ 1.5 พันล้านบาท

“มาตรการที่ออกมาจะทำให้เกิดการผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เดิมมาตรการสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กำหนดอัตราภาษีไว้ที่ 2% ในปี 2566 แต่เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและช่วยส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประเภทนี้เร็วขึ้นจึงปรับลดเหลือ 0% และเมื่อถึงปี 2566 ก็ให้กลับไปใช้มาตรการของบีโอไอต่อไปที่เก็บภาษีอยู่ที่ 2%” นายอภิศักดิ์ กล่าว

นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การที่ ครม.เห็นชอบมาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการลดมลพิษพีเอ็ม คาดว่าจะทำให้ต้นทุนทางภาษีของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในปี 2563-2565 รวมถึงผู้ผลิตรถกระบะที่ใช้เครื่องยนต์ยูโร 5 ที่ปล่อยฝุ่นพีเอ็มไม่เกิน 0.005 กรัมต่อกิโลเมตร และรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลบี 20 ลดลง โดยประเมินว่าหากรถราคาคันละ 1 ล้านบาท จะลดลงคันละ 2-3 หมื่นบาท และหากค่ายรถมีการทำโปรโมชั่นราคาก็จะลดลงได้อีก ซึ่งช่วยกระตุ้นให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้เพิ่ม

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า รายละเอียดการลดภาษีในส่วนรถกระบะ มีดังนี้ รถกระบะแบบไม่มีแคบ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. หากปล่อยพีเอ็มไม่เกิน 0.005% จะลดภาษีจาก 2.5% เหลือ 2% รถยนต์กระบะแบบไม่มีแคบ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจาก 4% เหลือ 3% รถยนต์กระบะสเปซแคบ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจาก 4% เหลือ 3% รถยนต์กระบะสเปซแคบ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจาก 6% เหลือ 5% รถยนต์กระบะ 4 ประตูที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจาก 10% เหลือ 9% รถยนต์กระบะ 4 ประตู ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 200 กรัมต่อกม. ลดภาษีจาก 13% เหลือ 12% รถยนต์กระบะ 4 ประตูแบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 175 กรัมต่อกม. ลดภาษีจาก 8% เหลือ 6% 

ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถยนต์พัฒนามาตรฐานการปล่อยมลพิษของรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลให้มีประสิทธิภาพในการลดฝุ่นพีเอ็มตามมาตรฐานยูโร 5 ได้เร็วยิ่งขึ้น และจะลดค่าเฉลี่ยรถยนต์ที่ปล่อยฝุ่นพีเอ็มลง 5 เท่า เหลือ100 กรัมต่อคันต่อปี และส่งผลให้รถยนต์ปล่อยฝุ่นพีเอ็มลดลงในแต่ละปีลดลง 76 ล้านกรัมต่อปี และที่สำคัญจะลดผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนและค่าใช้จ่ายภาครัฐเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"