ซ้อมเสมือนจริงริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารคเสด็จเลียบพระนคร


เพิ่มเพื่อน    

19 มี.ค.62- ที่ลานอเนกประสงค์กองทัพภาคที่ 1 (ภายในกรมทหารราบที่ 11 กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์)ช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารค ภายใต้คณะกรรมการฝ่ายพิธีการงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีการฝึกริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพยุหยาตราสถลมารคเสด็จเลียบพระนคร ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยเป็นการฝึกนัดรวมการเป็นครั้งแรก 
 
กำลังพลที่ร่วมฝึกประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจกองพลที่ 1 รักษาพระองค์,หน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 , กรมสรรพาวุธทหารบก, กรมการขนส่งทหารบก, กรมพลาธิการทหารบก, หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ, นักเรียนเตรียมทหาร, ตำรวจม้า, กองทัพเรือ, ทหารกองเกียรติยศ และผู้แทนสำนักพระราชวัง เป็นต้น 

ก่อนหน้านี้ กำลังพลริ้วขบวนที่ 3 มีการฝึกซ้อมแยกตามหน่วย โดยหน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ฝึกการแบกหามพระราชยาน, หน่วยพลาธิการทหารบก หน่วยป้องกันภัยทางทหาร ฝึกถือเครื่องสูง, นักเรียนเตรียมทหารฝึกตีกลองชนะ, กรมสรรพาวุธทหารบกฝึกแบกกลองมะโหระทึก ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด 

คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารคให้ข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกซ้อมวันนี้ (19 มี.ค.) เป็นการจำลองพื้นที่ในการเดินริ้วขบวนที่ 3 ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่ยาวที่สุด มีความยาวทั้งสิ้น 403.5 เมตร และเป็นริ้วที่มีพระราชยานพุดตานทอง ซึ่งในวันที่ 5 พ.ค.2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จขึ้นประทับบนพระราชยานดังกล่าว โดยเสด็จเลียบพระนครไป 3 วัด ได้แก่ วัดบวรนิเวศวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ตามลำดับ เพื่อทรงสักการะพระพุทธรูปสำคัญและทรงสักการะพระบรมอัฐิบูรพมหากษัตริย์ โดยเส้นทางเสด็จฯ ระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมงครึ่ง ขบวนเสด็จฯ จะเริ่มเวลา 16.30 น.

การจำลองพื้นที่ในการฝึกครั้งนี้ไม่สามารถซ้อมในระยะทางจริงทั้งหมด แต่ได้จำลองพื้นที่สำคัญจากการสำรวจเส้นทางพื้นที่จริง ตั้งแต่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง ไปวัดบวรนิเวศวิหาร ไปวัดราชบพิธฯ และวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งพบอุปสรรคบางจุดช่องทางแคบ เส้นทางเป็นเนิน ประกอบด้วยจุดคับขัน 7 จุดได้แก่ เกยพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท, ประตูพิมานไชยศรี, ประตูวิเศษไชยศรี, ถนนตะนาว, วัดบวรนิเวศวิหาร, เกยวัดราชบพิธ และเกยวัดพระเชตุพนฯ

 และมีการจำลองพื้นที่โดยนำกรวยยางจราจร เพื่อบีบเส้นทางให้ได้ระยะจริง ขณะเดียวกันได้จำลองซุ้มประตูพิมานไชยศรี และจำลองซุ้มประตูวิเศษไชยด้วยโครงเหล็กสีเขียว เนื่องจากริ้วขบวนจะมีการเลี้ยวเข้าถนนหน้าพระลาน ต้องฝึกการเดิน เนื่องจากกองพันทหารปกติจะเดินแถวตอนเรียง 12 นาย แต่เนื่องจากประตูมีความแคบทั้งสองประตู ฉะนั้นการเดินริ้วขบวนจะปรับเป็นแถวตอนเรียง 6 นาย เมื่อพ้นประตูวิเศษไชยศรีแล้วรวมแถว จังหวะนี้ต้องการซ้อมระยะทางในการเดิน และการรวมแถวเพื่อไม่ได้ขบวนด้านหลังติดขัด เป็นจุดคับขันจุดหนึ่ง โดยจำลองพื้นที่ฝึกซ้อมตลอดท้ังวันนี้ 
    
ขณะเดียวกันทำการฝึกเกยเทียบหยุดและออกเดิน เพื่อให้ขั้นตอนประสานสอดคล้องกันในการสั่งแถว อย่างไรก็ตามทุกที่หมายที่เสด็จฯ จะมีทหารกองเกียรติยศยืนตั้งแถวรอรับเสด็จ ซึ่งจะมีการถวายความเคารพและบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ฉะนั้นจึงต้องการซ้อมเพื่อไม่ให้เกิดการลักลั่นในการสั่งแถวของทหารกองเกียรติยศและทหารในริ้วขบวนที่ 3 สำหรับช่วงบ่ายจะมีการฝึกเปลี่ยนพลแบกหาม ทั้งแบบอยู่กับที่และเดินระยะสั้นโดยจะเปลี่ยนพลแบกหามทุกระยะ 500 เมตร นอกจากนี้มีฝึกรูปขบวน 1 รอบสนาม โดยสมมุติว่าริ้วขบวนที่ 3 อยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง 
    
 ในการเดินซ้อมริ้วขบวนกำหนดจังหวะการเดิน 85 ก้าวต่อนาที ก้าวละ 40 เซนติเมตร ให้สอดคล้องกับเพลงจากวงดุริยางค์ซึ่งจะบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จำนวน 6 บทเพลง อย่างไรก็ตามในการซ้อมครั้งนี้กองทหารเกียรติยศและทหารยืนรายทางได้ร่วมฝึกซ้อมด้วย
    
 สำหรับกำหนดการฝึกซ้อมครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 26 มีนาคม เป็นการซ้อมรวมริ้วขบวนที่ 1 ริ้วขบวนอัญเชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกร และริ้วขบวนที่ 2 ริ้วขบวนราบใหญ่, วันที่ 28 มีนาคม ฝึกซ้อมทบทวนริ้วขบวนที่ 3 อีกครั้ง จากนั้นในวันที่ 17 เมษายน จะเป็นการฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 3 แบบเสมือนจริงในพื้นที่จริงครั้งแรก แล้วทำการฝึกซ้อมอีกครั้งในวันที่ 21 เมษายน และวันที่ 28 เมษายน จะเป็นการซ้อมใหญ่ หลังจากนั้นจะเข้าสู่ห้วงเวลางานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"