วธ.เซ็น MOU ยูเออี เปิดทาง'ผ้าไทย-อาหารไทย-การแสดง' บุกตลาดอาหรับ รับถ่ายทอดเทคนิคจัดการ"ลูฟร์ อาบูดาบี" สู่พิพิธภัณฑ์ไทย


เพิ่มเพื่อน    

 

21มี.ค.62-  เมื่อเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่กระทรวงวัฒนธรรมและการพัฒนาความรู้แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้หารือร่วมกับ H.E. Noura Al Kaabi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการพัฒนาความรู้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงการลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากทางกระทรวงวัฒนธรรมฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความประสงค์จะขอปรับเปลี่ยนร่างความร่วมมือดังกล่าว


นายวีระ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือว่า เป็นการหารือในระดับทวิภาคีของไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งสิ่งที่ทางกระทรวงวัฒนธรรมฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อยากจะปรับ คือ เรื่องของการทำงานในกรอบของยูเนสโก เป็นระดับพหุภาคี ซึ่งเราไม่น่าจะทำเรื่องนี้ เพราะการทำความร่วมมือเป็นระดับทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศ และอีกเรื่องคือลิขสิทธิ แต่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในภารกิจของ วธ. ดังนั้น อาจต้องเจรจาบางรายการที่ยูเออีเสนอมาว่า อะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้ แต่ในภาพรวมคิดว่าน่าจะปรับได้ และทาง รมว.วธ.ยูเออี ก็จะเดินทางมาลงนามที่ประเทศไทยต่อไป ซึ่ง วธ.ไทยและยูเออี เห็นพ้องต้องกันว่า ต้องลงนามความร่วมมือทั้ง 2 ประเทศ เรามีอะไรที่สนับสนุนซึ่งกันและกันได้
นายวีระ กล่าวว่า ประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับหากมีการลงนามความร่วมมือด้านวัฒนธรรมกับยูเออี คือ เป็นเรื่องง่ายและมีความสะดวกในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในยูเออีได้เต็มที่ หลักๆ ที่ไทยอยากจะเผยแพร่ คือ อาหารไทย การแสดงวัฒนธรรมไทย และผ้าไทย โดยเฉพาะผ้าไทยนั้น ไทยมีการศักยภาพในการผลิตผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าพื้นเมือง โดยเฉพาะผ้าทอมือที่ วธ.สนับสนุนน่าจะสามารถมาตีตลาดที่นี่ได้ หากเอ็มโอยูสำเร็จจะสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ของยูเออีด้านการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟร์แห่งอาบูดาบี ซึ่งยูเออีได้เทคนิคการบริหารจัดการของฝรั่งเศสมามีความทันสมัยมากมาปรับใช้  ส่วนงานพัฒนาห้องสมุดกับหอจดหมายเหตุที่นี่ก็มีความก้าวหน้าเหมาะกับไทย ก็จะนำส่วนที่เขาพัฒนามาปรับใช้ในพิพิธภัณฑ์บ้านเรา รวมถึงการแลกเปลี่ยนทางด้านวิชาการ


" วธ.ต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้ครอบคลุมทั่วทุกทวีป ทุกพื้นที่ที่คิดว่าจะมีประโยชน์ในด้านความร่วมมือด้านอื่นๆ ต่อไป การที่มีความร่วมมือด้านวัฒนธรรมจะส่งผลต่อความร่วมมือด้านอื่นๆ ด้วย อย่างประเทศในตะวันออกกลางเป็นประเทศสำคัญ เพราะร่ำรวย มีรายได้จากการส่งออกน้ำมันมาก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยจำนวนมาก โดยไทยเป็นจุดหมายปลายของนักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันออกกลาง โดยเฉพาะยูเออี ซึ่งมี 7 รัฐ และมีประชากรเพียง 1 ล้านคน โดยจำนวนนี้มาเที่ยวเมืองไทยถึง 1.2 แสนคน หรือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ มีสายการบินที่บินตรงกรุงเทพฯ และภูเก็ต ทั้งสายการบินไทย และสายการบินของเอมิเรตส์ 2 สายหลัก ขณะที่ไทยนำเข้าน้ำมันจากยูเออีเป็นลำดับต้นๆ" นายวีระ กล่าว 


รมว. วธ. กล่าวด้วยว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ วธ.ยังร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศจัดเทศกาลไทยใน 3 ประเทศ คือ บาห์เรน คูเวต และยูเออี จะทำให้วัฒนธรรมไทยเผยแพร่สู่ตะวันออกกลางได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น


นายวีระ กล่าวว่า ความร่วมมือทางวัฒนธรรมในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่ผ่านมา วธ.ก็ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง เช่น อียิปต์ ตุรกี อาเซอร์ไบจาน เป็นต้น นอกจากยูเออีแล้ว วธ.ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ยังทำความร่วมมือด้านวัฒนธรรมกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอเมริกาใต้ คือ ความร่วมมือกับประเทศเปรู โดยเปรูจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางเผยแพร่วัฒนธรรมของเปรูในเอเชีย และเปรูจะรับเป็นศูนย์กลางให้ไทยไปเผยแพร่วัฒนธรรมในอเมริกาใต้ ส่วนในเอเชียก็มีกรอบความร่วมมือใกล้ชิดอยู่แล้ว มีการประชุมร่วมระดับวัฒนธรรมเอเชียยุโรปปีเว้นปี เมื่อมีประเด็นจะขอความร่วมมือก็ขอไปประชุมย่อยร่วมกับรัฐมนตรี วธ.ประเทศนั้นๆ ได้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"