ศาลเกาหลีใต้สั่งยึดทรัพย์ 'มิตซูบิชิ' ชดเชยเหยื่อบังคับใช้แรงงานยุคสงคราม


เพิ่มเพื่อน    

กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านการบังคับใช้แรงงานโดยญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า ศาลเกาหลีใต้ได้มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินของบริษัทมิตซูบิชิ จากเหตุที่บริษัทจากญี่ปุ่นรายนี้ปฏิเสธจะจ่ายเงินชดเชยแก่เหยื่อตามคำสั่งศาลฎีกาของเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้ว

แฟ้มภาพ AFP

    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2562 อ้างแถลงการณ์ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวพลเรือนที่รณรงค์ต่อต้านนโยบายการบังคับใช้แรงงานของญี่ปุ่นว่า ศาลแขวงเมืองแทจ็อนซึ่งอยู่ทางใต้ของกรุงโซล มีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ให้ยึดสิทธิในเครื่องหมายการค้า 2 สิทธิ และสิทธิบัตร 6 ใบที่เป็นของบริษัทมิตซูบิชิ

    "กระบวนการบังคับคดีกับบริษัทอาชญากรสงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ" นักเคลื่อนไหวกลุ่มนี้กล่าวผ่านแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์

    เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ศาลฎีกาของเกาหลีใต้มีคำพิพากษาในคดีที่ต่อสู้กันมายาวนานหลายปี ให้บริษัท มิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสตรีส์ ของญี่ปุ่น จ่ายเงินชดเชยแก่โจทก์ชาวเกาหลี 5 คน ที่เคยเป็นเหยื่อการบังคับใช้แรงงานระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 รายละประมาณ 150 ล้านวอน หรือราว 4.18 ล้านบาท  

    โจทก์รายหนึ่งเสียชีวิตลงก่อนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยยังไม่ได้รับเงินชดเชยตามคำสั่งนี้ ส่วนโจทก์อีก 4 รายยื่นฟ้องต่อศาลแทจ็อนเพื่อขอให้ยึดทรัพย์ของมิตซูบิชิ

    "ตามคำสั่งศาลฉบับล่าสุด ลูกหนี้รายนี้จะถูกห้ามดำเนินการโยกย้ายสิทธิ หรือการกระทำใดๆ ที่เป็นการจำหน่ายออก ซึ่งเครื่องหมายการค้าและสิทธิบัตรที่กล่าวถึง" คำแถลงกล่าว

    นักเคลื่อนไหวกลุ่มนี้เตือนด้วยว่า หากมิตซูบิชิไม่แสดงให้เห็นถึงท่าทีที่จริงใจ ฝ่ายโจทก์ก็จะขายทรัพย์สินที่ยึดไว้

    เกาหลีใต้และญี่ปุ่นต่างเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีเศรษฐกิจแบบการตลาดและยังเป็นชาติพันธมิตรของสหรัฐทั้งคู่ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกคู่นี้ตึงเครียดมานานหลายทศวรรษ โดยเป็นผลพวงของการปกครองอย่างโหดร้ายของญี่ปุ่นเมื่อครั้งยึดครองคาบสมุทรเกาหลีระหว่างปี 2453-2498

    ข้อมูลจากทางการเกาหลีใต้ระบุว่า มีชาวเกาหลีประมาณ 780,000 คน ถูกญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานในช่วง 35 ปีที่ญี่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งยังไม่นับรวมผู้หญิงที่ถูกทหารญี่ปุ่นบังคับเป็นทาสบำเรอกาม

    ญี่ปุ่นกล่าวว่า ประเด็นการจ่ายเงินชดเชยความเสียหายจากพฤติการณ์ในอดีตได้รับการไกล่เกลี่ยหมดแล้วตามสนธิสัญญาปี 2508 ที่นำไปสู่การรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต และวงเงินชดเชย 800 ล้านดอลลาร์ ในรูปเงินให้เปล่าและเงินกู้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ศาลเกาหลีใต้ตัดสินว่าการบังคับใช้แรงงานโดยบริษัทต่างๆ ของญี่ปุ่นนั้นไม่รวมอยู่ในสนธิสัญญาฉบับนี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"