ประธานกกต.ลั่น!รวดเร็วคือไม่ล่าช้าทำตามกรอบเวลากฎหมาย เพราะความล่าช้าคือความอยุติธรรม


เพิ่มเพื่อน    

2 เม.ย.62- ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.  เป็นประธานพิธีเปิด การอบรมมอบนโยบายในการประชุมชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาและข้อโต้แย้ง  โดยกล่าวว่าสำหรับอนุกรรมการที่ กกต.ตั้งขึ้นเป็นบุคคลที่มีความเป็นกลาง มีความซื่อสัตย์สุจริต  ซึ่งการจัดประชุมชี้แจงในวันนี้  เพื่อเป็นการซักซ้อมการปฎิบัติงานให้มีเอกภาพ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่ง กกต.มั่นใจว่าจากความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ของแต่ละคนจะสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี  โดยการเลือกตั้งที่พึ่งผ่านพ้นไป  สังคมคาดหวังมายัง กกต. โดยอยากทราบผลการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว  ซึ่งก็อาจจะไม่ได้รวดเร็วทันใจ  ตามที่หวัง เพราะเราต้องทำหน้าที่ด้วยความรอบครอบถูกต้อง ด้วยความสุจริต  ด้วยความเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย

สำหรับแนวทางการทำงานที่จำเป็น  และหลักการทำงานที่เห็นว่าจำเป็น ที่จะใช้ในการทำงานของทุกคน  โดยการทำงานต้องมีคุณภาพ คุณธรรมและความรวดเร็ว  คุณภาพคือมีความรู้รอบด้าน ถูกต้องครบถ้วน มีมาตรฐานในเนื้อหาสาระของงานที่ทำ ส่วนคุณธรรมคือ ความเป็นกลาง ปราศจากอคติ  กล้าหาญ ยึดความถูกต้องตามตัวบทของกฎหมาย บนพื้นที่ฐานของหลักนิติธรรมคือ หลักความเป็นธรรมตามกฎหมาย  ไม่หวั่นไหวต่อแรงเสียดทาน  หรืออำนาจอิทธิพลใดๆ หากทำได้เช่นนี้ ก็ขอให้มั่นใจว่า คุณธรรมจะเป็นเกราะป้องกันตัว   และองค์กร กกต.ก็จะสนับสนุนปกป้องการทำงานของท่าน อย่างเต็มที่  ส่วนคำว่ารวดเร็ว คือ ไม่ล่าช้า  ความรวดเร็วในกรณีนี้คือไม่ล่าช้า ทำเสร็จตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด  เพราะความล่าช้าคือ  ความอยุติธรรม   

ด้านนายปกรณ์ มหรรณพ  กรรมการเลือกตั้ง   กล่าวชี้แจงเรื่องบัตรเลือกตั้งจากนิวซีแลนด์ว่า  เรามีคำตอบ ขั้นตอนต่างๆ เรามีหมด และกำลังจะตรวจสอบขั้นตอนสุดท้ายว่า  ทำอะไรบกพร่องหรือไม่   และเป็นความรับผิดชอบของใคร ซึ่งในมาตรา  114  ของ พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. เงื่อนไขมีอยู่ 4 ข้อ  แต่ข้อที่ต้องพิจารณามีข้อเดียว  ซึ่งเป็นข้อที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก แต่เราไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพึงพอใจได้ เงื่อนไขคือให้เรามีอำนาจสั่งเมื่อบัตรเลือกตั้งไปถึงหน่วยเลือกตั้ง  หลังจากมีการนับคะแนนแล้ว เราจึงจะสั่งได้ว่าเป็นบัตรเสีย  แต่กรณีนี้บัตรไม่ได้ไปถึง และการนับการนับได้จบสิ้นแล้ว

“ท่านนึกถึงการเลือกตั้งต่างๆ และการส่งชิงโชคต่างๆ เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว  บัตรต่างๆ เอกสารต่างๆ ที่ส่งมาใช้สิทธิ ท่านจะมาสามารถมาขอให้นับเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว  นับไม่ได้ เราจึงวินิจฉัยเช่นนี้ เราไม่ได้่วินิจฉัยว่าเสียหรือดี ถ้าเราวินิจฉัยว่าเสีย  ฝ่ายดีก็จะยกขึ้นมาอ้าง  ว่าขอให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ถ้าวินิจฉัยว่าดี  ฝ่ายเสียก็จะยกขึ้นอ้าง  อันนี้เป็นสิ่งที่สังคมรับรู้  จุดประสงค์เค้าเป็นอย่างนั้น” นายปกรณ์  กล่าวและว่าในวันเลือกตั้งหลังการลงคะแนน 2-3 ชั่วโมง เรานับคะแนนทุกหน่วยเรียบร้อย  ประกาศหน้าหน่วยกว่า 92,000 หน่วย  

ส่วนกรณีบัตรเกิน 4ล้านกว่าใบ นั้นขณะที่ กกต.แถลง  โดยระบบแรพพิทรีพอร์ต  ขณะนั้นเวลาประมาณ 21.00 น. ข้อมูลเพียงร้อยละ 93  ขาดอยู่ร้อยละ 7  ของประมาณ 30 ล้าน เหลืออีก 2 ล้านกว่าคน  ยังไม่ได้ประกาศ  เมื่อจากหน่วยมาถึงเขต  เขตต้องเอาบัตรต่างประเทศแสนกว่าใบ  เลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มีน.ค.อีก กว่า 2 ล้านคนมารวม   เมื่อรวมกันทั้งหมดคือ 4 ล้านเศษ   ไม่มีการเพิ่มบัตรอะไรเข้าไปทั้งสิ้น นี่คือความจริง   การที่มี กปน. กว่า 7  แสนคน ทั่วประเทศ  ซึ่งประกอบด้วย ชาวบ้าน ครู ฝ่ายปกครอง มาช่วย กกต.ทำหน้าที่ อาจจะผิดบ้าง  10 คน  100  คน  นี่คือสิ่งที่ กกต.กำลังจะตรวจสอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เที่ยงธรรม

นายปกรณ์ ยังย้ำว่า กฎหมายกำหนดให้ กกต.ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.พร้อมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 95  หรือ 333 เขต  หาก กกต.ไม่ทำตามกฎหมาย เราก็จะผิด.    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"